ครูโคราชร้องอัยการ ลั่นถูกชี้มูลเหมารวม คดีทุจริตสนามฟุตซอล

(17 มิ.ย.) ตัวแทนครูชาวนครราชสีมา ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง ฐานร่วมฮั้วประมูลงบประมาณแปรญัตติสร้างสนามฟุตซอล ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรมในการพิจารณาหลักฐานคดี 

ตัวแทนผู้อำนวยการเขตและผู้อำนวยการโรงเรียน ที่นครราชสีมา อ่านแถลงการณ์ยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการรับงบประมาณสร้างสนามฟุตซอล แต่ถูกปปช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง โทษไล่ออก ฐานร่วมกันทุจริต ผิดระเบียบจัดซื้อจัดจ้างเข้าข่ายฮั้วประมูล

โดยตัวแทนครู ระบุว่า อัยการสูงสุดมีความเห็นให้รวมสำนวนคดีอื่นอีก 6 คดี ของครู 56 คน รวมกับคดีก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นในเขตประถมศึกษา 2 และมีครู 7 คนถูกไล่ออก ไปแล้ว ซึ่งผู้ร้องวันนี้ระบุว่าไม่เป็นธรรม

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุว่า มีการชี้มูลครูแบบเหมารวม โดยไม่ได้แยกแยะพฤติการณ์เป็นรายคน หรือรายเขต ที่มีความแตกต่างกัน

หนึ่งในเหตุผลที่กลุ่มผู้มายื่นหนังสือ ระบุวันนี้คือครูรู้จักนักการเมืองคนที่ถูกฟ้องเพราะเป็นนักการเมืองในจังหวัด แต่ครูไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการวางแผนแปรงญัตติงบประมาณ หรือจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด เพราะเห็นว่างบประมาณมาจากต้นสังกัดตามระบบ และการที่ถูกนำไปฟ้องรวมกับสำนวนของเขต 2 ที่เป็นฐานเสียงนักการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ ที่ปปช.มีมติฟ้อง และไล่ออกครู 7 คนไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งไม่เป็นธรรมสำหรับเขตอื่นๆ

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดรับหนังสือคำร้องและเอกสารที่ตัวแทนครูผู้ร้องระบุว่าเป็นหลักฐานใหม่ โดยระบุว่าจะนำส่งถึงอัยการสูงสุด และพนักงานอัยการที่รับผิดชอบคดีนี้เพื่อพิจารณาร่วมกัน และเป็นดุลพินิจของคณะทำงานว่าจะมีความเห็นอย่างไร

ส่วนการพิจารณาในชั้นอัยการ มีทั้งที่ สั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน, สั่งฟ้องผู้ต้องหาบางคน, สั่งหาพยานหลักฐานเพิ่ม หรือสั่งไม่ฟ้อง เพราะหลักฐานไม่พอฟ้อง แล้วส่งสำนวนกลับคืนให้ ป.ป.ช. และป.ป.ช.สามารถฟ้องได้เอง

ขณะที่ตัวแทนครูมาวันนี้ หลังจากยื่นหนังสือผ่านโฆษกอัยการสูงสุดแล้ว ได้ไปที่สำนักงานองคมนตรี เพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรม