วันนี้ รอง ผบ.ตร.เปิดปฏิบัติการกวาดล้าง 25 ห้องเย็นในจังหวัดสมุทรสาครและนครปฐม หวั่นกักตุนหมูเกิน 5 ตัน ขณะที่การเข้าตรวจค้นเมื่อวานเพียงวันเดียว ค้นไปแล้ว 139 แห่ง พบกักตุนและไม่แจ้งครอบครอง 2 แห่ง


พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมทีมปศุสัตว์จังหวัด เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบห้องเย็น 25 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร และนครปฐม


พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อหมูเกิน 5,000 กิโลกรัม หรือ 5 ตัน โดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ ถือว่ามีความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หรือหากแจ้งการครอบครองไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็จะมีความผิดเช่นกัน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจากการตรวจสอบวันนี้ พบมีห้องเย็นบางแห่งกักตุนเนื้อหมูเกิน 5 ตัน และไม่ได้แจ้งโดยอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ


ด้าน นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ที่นี่มีห้องเย็น 11 แห่ง ที่ใช้แช่หมู แต่มีเพียง 4 บริษัท ที่แจ้งครอบครองซากหมูเกิน 5,000 กิโลกรัม ส่วนที่เหลืออ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง เพราะเพิ่งได้รับหนังสือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคากลางสินค้าและบริการ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา


ตามมาตรการกำกับดูแลสุกร เนื้อสุกร ปี 2565 ระบุว่า ผู้ครอบครองหมูมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหมูชำแหละผ่าซีก เนื้อหมูชำแหละ มีปริมาณตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัม ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง การซื้อ การจำหน่าย หากไม่แจ้งจะมีความผิด​ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ​ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง


เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศ 139 แห่ง พบการกระทำผิด 2 แห่ง คือ ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และที่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ส่วนของวันนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/tsc3nrmC6eQ