บริษัทประกันฯ ที่รถเบนซ์ขับไปชนน้องหญิง นักศึกษาปี 4 เสียชีวิต แล้วยื้อจ่ายสินไหม 2.5 ล้าน แม้ศาลตัดสิน และ คปภ.มีคำสั่งให้จ่ายเงิน ล่าสุดนอกจากจะยังไม่จ่ายแล้ว ยังเข้าไปแจ้งความเอาผิดกับคนขับรถเบนซ์ และพ่อแม่น้องหญิง ฐานฉ้อฉล

จากกรณี น.ส.พัชราภา เกรัมย์ หรือ น้องหญิง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปี 4 ถูกรถเบนซ์ชนจนเสียชีวิต ขณะขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้าน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา บริเวณก่อนถึงทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์

ต่อมา คนขับรถเบนซ์ เยียวยาผู้เสียหายเบื้องต้น 220,000 บาท และยังจะได้เงินเยียวยาจากบริษัทประกันฯ (บริษัทประกันภัยอาคเนย์) ที่รถเบนซ์ทำไว้อีก 2.5 ล้านบาท แต่บริษัทได้ปฏิเสธการจ่าย อ้างเป็นการประมาทร่วม

กระทั่งศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ลงความเห็นว่า คนขับรถเบนซ์ เป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียว ซึ่งในทางปฏิบัติบริษัทประกันภัยฯ จะต้องจ่ายเงินเยียวยาทันที 2 ล้าน บวกกับ พ.ร.บ.ภาคบังคับอีก 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท แต่บริษัทยังยืนยันว่า เป็นการประมาทร่วม และบ่ายเบี่ยงการจ่ายเงินทดแทน

วันที่ 15 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) สั่งให้บริษัทประกันฯ จ่ายเงินเยียวยาตามสัญญาของผู้เอาประกัน ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. แต่จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้สินไหมทดแทน 

ต่อมา วันที่ 21 ก.ย.บริษัทประกันฯ ออกหนังสือชี้แจงว่า เป็นการประมาทร่วม เพราะร่องรอยการเฉี่ยวชนไม่ตรงกับคำสารภาพของจำเลย คือคนขับรถเบนซ์

และเมื่อวันที่ 19 พ.ย.อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้านคดี และให้เขียนคำร้องต่ออัยการ เพื่อทำการฟ้องร้อง หากบริษัทประกันฯ ไม่จ่ายสินไหมทดแทน

และล่าสุดวันที่ 29 พ.ย.ตัวแทนบริษัทประกันฯ เข้าแจ้งความกล่าวหาคนขับรถเบนซ์ และพวก ว่า"ฉ้อฉล"ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน และศาลจังหวัดบุรีรัมย์

ซึ่งการแจ้งความของบริษัทประกันภัยฯ อาจจะหมายถึงการเอาผิดกับพ่อแม่ของน้องหญิงด้วย และหมายถึงบริษัทจะยังไม่จ่ายเงินเยียวยาจนกว่าคดีนี้จะสิ้นสุด หลังพ่อแม่ของน้องหญิงทราบเรื่องได้ปล่อยโห่ร้องไห้ออกมา เล่าทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจ เพราะนอกจากจะสูญเสียลูกอันเป็นที่รักแล้ว ยังต้องมาพะวง ว่าจะถูกดำเนินคดีอีกหรือไม่ ทั้งที่เป็นคนสูญเสีย ไม่อยากจะให้บริษัทที่ใหญ่โต มารังแกคนจนที่หาเช้ากินค่ำ และไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ เพราะสูญสิ้นไปหมดแล้ว

ด้าน ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)บุรีรัมย์ นางพร้อมพรรณ ดีเลิศ กล่าวว่า กรณีเรื่องของน้องหญิง ได้เข้าไปร้องเรียนที่ คปภ.จังหวัดนนทบุรี ทำให้ต้นเรื่องไม่ได้อยู่ที่บุรีรัมย์ แต่จะคอยให้คำปรึกษาถึงแนวทางกับผู้เสียหายเป็นระยะ กรณีนี้ต้องให้ คปภ.นนทุบรี สานงานต่อ

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zlL0gR_-qNs