คปภ.ชี้แจง หลังศาลยกเลิกฟื้นฟูกิจการ ‘สินมั่นคง’ ต้องหยุดรับประกัน-หยุดเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน

คปภ. เผย หลังศาลยกเลิกฟื้นฟูกิจการสินมั่นคง ชี้ต้องหยุดรับประกัน-หยุดเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน หากต้องการกลับมาขาย ต้องเพิ่มทุน นำเสนอแผนที่จับต้องได้โดยเร็ว - ขณะที่อีกแหล่งข่าว บอกเวิร์สเคส ผู้ถือกรมธรรม์โอนสิทธิต่อได้

วานนี้ 15 ธันวาคม 2566 ศาลล้มละลายกลางได้มีการนัดฟังคำไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK

ล่าสุดกรมบังคับคดี ได้ออกมาประกาศคดีสินมั่นคงประกันภัย โดยระบุว่าวันนี้ (15 ธันวาคม) ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามมาตรา 90/48 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

ทำให้อำนาจหน้าที่ในการจัดกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้กลับเป็นของผู้บริหารของลูกหนี้ และสภาวะพักการชำระหนี้ (Automatic Stay) สิ้นสุดลง มาตรา 90/74 และ 90/12 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK ได้โพสต์ประกาศแจ้งบนเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า ประกาศการหยุดรับประกันภัย โดยบริษัทขอให้ทุกท่านทราบว่า บริษัทมีความจำเป็นต้องหยุดรับประกันภัยทุกประเภททันที

ทั้งนี้ ตามกระบวนการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่คาดว่าวันนี้น่าจะออกแถลงข่าว โดยเห็นว่า บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน อันเป็นไปตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551

โดยการออกคำสั่งให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันภัยชั่วคราว และจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปติดป้ายประกาศที่หน้าบริษัทต่อไป

ด้านนายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์  ผู้ช่วยเลขาธิการสายกฎหมายและคดี คปภ. เปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ระบุว่า วานนี้ (15 ธ.ค.66) ทางสินมั่นคงมีการยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนแผนฟื้นฟูกิจการ ซี่งผลการนับคะแนน พบว่า เจ้าหนี้ไม่เห็นชอบแผนฟื้นฟู ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกเลิกกระบวนการฟื้นฟูกิจการ  โดยมีผลตั้งแต่วานนี้ (15 ธ.ค.66) ซึ่งทาง คปภ.ได้มีการดำเนินการตามกฎหมายเนื่องจากมีการยกเลิกฟื้นฟูกิจการ โดยทางตัวบริษัท จะออกจาก พ.ร.บ.ล้มละลาย กลับมาสู่ พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย  และเมื่อเราเห็นว่าบริษัทมีปัญหาทางฐานะการเงินจนถึงระดับหนึ่ง มาตรการทางกฎหมายที่จำเป็นต้องใช้ คือสั่งหยุดชั่วคราว

จากการประชุมของ คปภ. มีการเห็นชอบและมีคำสั่งให้หยุดชั่วคราวในส่วนของบริษัทสินมั่นคงประกันภัย ซึ่งผลของการหยุดชั่วคราว คือ ต้องหยุดเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน และการจ่ายเงิน หลังจากนี้จะเป็นการจ่ายโดยความเห็นชอบของเจ้าหน้าที่เท่านั้น  และอยู่ที่บริษัทว่าจะดำเนินการอย่างไร จะมีแนวทางเสนอมาหรือไม่ว่าจะมีการปรับปรุงสถานะทางการเงินอย่างไร

ส่วนคำสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันชั่วคราว นายอดิศร กล่าวว่า บริษัทไม่สามารถรับประกันรายใหม่ได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาทางบริษัทได้รับอนุญาตจากศาล ให้รับประกันรายใหม่ได้ตามโครงการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเราเคยยื่นคัดค้านแล้ว แต่พอเขาออกจากระบบล้มละลายและกลับมาอยู่กับเรา สั่งหยุดแสดงว่าไม่มีสิทธิรับประกันรายใหม่อีกแล้ว รวมทั้งห้ามจ่ายเงินใดๆ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ ส่วนจะมีโอกาสกลับมารับประกันรายใหม่ได้ บริษัทต้องเดินเข้ามาแล้วบอกว่าจะเพิ่มทุนเพื่อให้กลับมาสู่กระบวนการได้ทุนเต็มตามกฎหมายภายในเวลาอันสมควร (อันสมควร = โดยเร็ว) และต้องเสนออะไรที่เป็นรูปธรรมและสามารถจับต้องได้ จากนั้นถึงมีการเสนอบอร์ดกรรมการพิจารณาอีกครั้ง

เมื่อถามถึงขั้นตอนต่อจากนี้ในส่วนของลูกค้าที่ยังคงมีกรมธรรม์กับบริษัทจะต้องทำอย่างไร นายอดิศร กล่าวว่า ณ เวลานี้ ลูกค้าคงต้องรอสักระยะหนึ่ง ไม่ต้องกังวล เพราะเราจะฟีดตัวทรัพย์สินแล้วบริษัทจะไม่มีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน ซึ่งการจ่ายเคลมจะอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ หรือบริษัทอาจจะเติมเงินเข้ามา และหากมีพัฒนาด้านอื่นเพิ่มเติมคงมีมาตรการรองรับต่อไป

นายอดิศร กล่าวว่า  กรมธรรม์ที่ยังคง Active อยู่ ส่วนใหญ่เป็นกรมธรรม์รถยนต์ ซึ่งเป็นกรมธรรม์ฐานลูกค้าปกติ โดยมียอด Active อยู่หลักล้านกรมธรรม์ รวมทั้งกรมธรรม์อัคคีภัยและทางน้ำ แต่ส่วนใหญ่ เป็นกรมธรรม์รถยนต์

ส่วนประกันภัยโควิดกรมธรรม์ทั้งหมดทิ้งอายุไปแล้ว เพราะฉะนั้นคงต้องเป็นยอดหนี้ค้าง ซึ่งยอดของประกันภัยโควิดของสินมั่นคงอยู่เกือบๆ 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องบริหารจัดการจุดนี้ต่อไป โดยทาง คปภ.กำลังดำเนินการและหาทางแก้ไขเรื่องนี้อยู่

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวรายหนึ่งของ คปภ. บอกถึงกรณีที่เลวร้ายที่สุด ในส่วนของประกันภัยรถยนต์, อัคคีภัย และทางน้ำ สามารถหาผู้รับประกันมารับต่อได้ หรือโอนกรมธรรม์ได้

แหล่งข่าวท่านนี้ ย้ำว่า กระบวนการนี้คือเป็นการหยุด ตามหลักการยังไม่ได้มีคำสั่งไปกว่าการหยุดหรือฟีดทรัพย์สิน เพราะฉะนั้นแต่ช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้บริษัทอาจมีแอคชั่นหรือความพยายามหาเงินเข้ามาก็เป็นไปได้ แต่ถ้าไม่มีเราค่อยว่ากันต่อ

https://youtu.be/vj5IiUqjyfo