ฟังความ 2 มุม คลิปดราม่า หมอไล่คนไข้กลับดอย บอกใกล้ตายค่อยมารักษา

สังคม

ฟังความ 2 มุม คลิปดราม่า หมอไล่คนไข้กลับดอย บอกใกล้ตายค่อยมารักษา

โดย pattraporn_a

1 พ.ย. 2564

1.8K views

กลายมาเป็นประเด็นดราม่าในวงการแพทย์อีกครั้ง ภายหลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ได้โพสต์คลิปความยาว และแชร์ลงในโลกโซเชียล หมอเดือด ไล่คนไข้กลับบ้าน หลังสาวพาแม่ป่วยขับรถลงดอยมาหากลางดึก ลั่นเมืองนอกที่รักษาฟรีเขาก็ไล่กลับบ้านหมด มีแต่ไทยที่ตรวจให้ บอกชัดเกือบตายถึงมาได้



คลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 6 นาที ญาติคนไข้ถ่ายบันทึกไว้ขณะที่เธอพาแม่เดินทางไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ถ่ายคลิปนั้นมีหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินบอกว่าคนไหนๆ คนไข้อยู่ไหนเธอบอกนั่งอยู่ข้างนอกเดินได้ไหม เธอบอกว่าเดินได้ ก่อนที่หมอบอกว่าเป็นอะไร ผู้ถ่ายคลิปเลยบอกว่าแม่เป็นไข้ปวดเนื้อปวดตัว ก่อนที่หมอจะบอกว่า กลับบ้านไป


โดยที่ผู้ถ่ายคลิปบอกว่าคุณหมอจะไม่ตรวจอะไรเลยเหรอคะ ทำไมไล่กลับบ้านไปไม่วัดความดันไม่ตรวจอะไรเลยเหรอค่ะ ซึ่งหมอบอกว่า ตรวจให้ก็ได้แต่ถ้าไม่เป็นอะไรก็กลับบ้านไป ซึ่งไม่ใช่คนไข้ด่วนและมีการโต้เถียงกันสักพักก่อนที่หมอจะพูดน้ำเสียงไม่พอใจแล้วบอกว่าคนไข้ด่วนคือหายใจเร็ว เกือบตาย จะคลอดลูกมีแค่นี้ เข้าใจไหมอ่านป้ายออกไหม ซึ่งคนถ่ายพยายามเถียงว่าอ่านออก เรียนหนังสือมา


และบอกว่าแม่เธอป่วยเป็นไข้ปวดเนื้อปวดตัว อยากให้หมอตรวจหน่อยเพราะแม่เธอไม่ไหวแล้วจึงพากันมา เธอยังบอกอีกว่าถ้าไม่ป่วยหนักมาไม่ได้เหรอ ซึ่งหมอก็บอกว่าไม่ได้ซึ่งตอนนี้ที่เมืองนอกเขาไล่กลับบ้านหมด มีแต่เมืองไทยนั้นแหละที่รักษาฟรีแล้วยังตรวจให้ แต่ถ้าจะมาตรวจต้องมาตรวจในเวลาราชการเท่านั้นก่อนที่พยาบาลสวมชุดสีเหลืองจะพยายามมาไกล่เกลี่ย เรียกให้แม่เธอไปวัดความดันถามอาการ



โดยญาติคนไข้บอกว่าถ้าตรวจให้หน่อยก็ยังดี ก็ยังอุ่นใจ ไม่ใช่เจอหมอทำท่าแบบนี้ ไม่ใช่แบบว่าใกล้ตายแล้วค่อยมาซึ่ง ประโยคนี้หมอก็ตอบกลับคนไข้ ว่าถูกต้อง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องและออกมาตรวจเช็คร่างกายผู้ป่วยให้


ขณะที่พยาบาลจะถามอาการว่าคนไข้มีอาการตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งเธอก็บอกว่าตั้งแต่ตอนเย็น พยาบาลก็บอกว่าทำไมไม่มาตั้งแต่ตอนเย็น ก่อนจะแนะนำให้กินยาพารา ไปก่อนแล้วให้กลับบ้าน สร้างความไม่พอใจให้กับน้องชายของเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งพี่สาวก็พยายามกันออกไปไม่ให้ไปทะเลาะกับหมอ


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาตี 1 ของวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของคลิปและได้วีดีโอคอลพูดคุยกับ น.ส.จันทรา แสงจันทร์ ชาวบ้านหนองแขมะ อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เธอเล่าว่า นางอาเลมะ แสงจันทร์ อายุ 59 ปี แม่ของเธอนไม่สบายตั้งแต่ตอนเย็น หลังจากที่ไปเก็บถั่วที่สวนมา บอกว่ามีอาการท้องเสียและหนาว เธอจึงเอายาให้แม่นอนแต่จนดึกอาการแม่ไม่ดีขึ้น


จึงตัดสินใจเรียกน้องชายและพี่สาวขับรถลงดอยมาเวลาเที่ยงคืนมา ถึงโรงพยาบาลเชียงดาวตอนตี 1 เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกเสียใจที่ถูกเลือกปฏิบัติเธอเข้าใจการทำงานของหมอแต่ไม่มีใครหรอกที่ต้องการจะมาโรงพยาบาล


แม่เธอไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้ยา ต้องพากันเดินทางกลับบ้านไปกว่าจะถึงตี 3 กระทั่งรุ่งเช้าเธอจึงพาแม่เธอลงดอยมาหาหมอที่คลินิกในตัวอำเภอเชียงดาวอีกครั้ง จนทราบสาเหตุว่าแม่เธอป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ ตอนนี้หลังหมอที่คลินิกจัดยาให้แม่ก็นอนพักผ่อนอาการดีขึ้นบ้างแล้ว


ภายหลังจากที่มีการแชร์คลิปดังกล่าวออกไป ก็ได้มีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ถึงการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจโรงพยาบาลดังกล่าว


ซึ่งทางผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาล โดยทางคอลเซ็นเตอร์ของโรงพยาบาลได้เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวออกไปทำธุระด้านนอก และได้ให้ผู้สื่อข่าวฝากเบอร์โทรศัพท์เอาไว้และจะมีการติดต่อกลับมา


ขณะที่เพจ หมอขอบ่นหน่อยเหอะ โพสต์ระบุว่า ไม่ฉุกเฉินพอไม่ได้ตรวจ ไม่พอใจถ่ายคลิป หมอกับพยาบาลบอกป้าขึ้นเสียงก่อน แต่ถ่ายให้ตัวเองดูน่าสงสาร เหอะ


ทีมข่าวพูดคุยกับคุณหมอเจ้าของเพจนี้ ระบุว่า ประเด็นนี้อยากให้ฟังความ 2 มุม เบื้องต้นได้พูดคุยและให้คำปรึกษากับคุณหมอในคลิป และทราบเรื่องราวว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ในคลิปคุณหมอท่านนั้นได้มีปากเสียงกับญาติคนไข้กันมาก่อน ญาติด่าหมอ มีการชูนิ้วกลาง และง้างมือจะต่อยหมอ โดยถูกตัดออกจากในคลิปนี้ไป


โดยวันเกิดเหตุคุณหมอได้ทำการวัดความดัน ชีพจร ออกซิเจนในเลือด คนไข้พบว่าปกติทั้งหมด ซึ่งประเมินเบื้องต้นแล้วงว่าคนไข้ไม่เข้าข่ายฉุกเฉิน จึงทำการนัดหมาย ให้คนไข้มาตรวจ ที่โรงพยาบาลอีกครั้งในตอนเช้า


สำหรับเหตุการณ์นี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบเรื่องเรียบร้อยแล้ว โดย พลอากาศตรี นพ.อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า โรงพยาบาลดังกล่าวอยู่ในสังกัด กระทรวงสาธารณสุข ให้ไปสอบถามรายละเอียดผู้เกี่ยวข้อง


ซึ่ง นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ทางกระทรวงทราบเรื่องแล้ว โดยทางปลัดกระทรวงฯได้สั่งการไปยังผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 1 และสาธารณสุขจังหวัดให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยปกติ โรงพยาบาลทุกแห่งที่รับคนไข้ฉุกเฉินจะต้องมีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมถึงมีผลตรวจ จากห้องปฏิบัติการให้คนไข้ปลอดภัยก่อน จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังจากนี้ให้ไปสอบถามสาธารณสุขจังหวัดเพื่อติดตามความคืบหน้าได้




ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Bdv9gAcJ82g

คุณอาจสนใจ

Related News