สาวคนหนึ่งโพสต์คลิปชายปริศนากระโดดเกาะหน้ารถขณะขับอยู่บนถนนรามอินทรา ช่วงกลางคืน ปรากฎเป็นคนเดียวกับที่ไปก่อเหตุชิงรถแท็กซี่แล้วตายปริศนา ที่หน้า สน.บางชัน ญาติเผยไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

ภาพจากกล้องหน้ารถของหญิงสาวคนหนึ่งบันทึกไว้ ขณะขับบนถนนรามอินทรา ช่วงสะพานข้ามแยกโรงพยาบาลนพรัตน์คนขับชะลอรถผ่านจุดที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งเดินมาจากไซต์งานก่อสร้าง แล้วกระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ แล้วทำท่าเหมือนนอนลงไป คนขับรถจึงบีบแตรไล่ พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี จากนั้นคนงานไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าก็มาช่วยกันไล่ชายคนดังกล่าวลงจากกระโปรงรถ

ซึ่งในโพสต์ระบุข้อความเตือนภัย #วิ่งเข้ามาเกาะกระโปรงรถ ดีที่น้องมีกล้องหน้ารถ สามารถจับเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ คงหวังเงินจากการเรียกค่าเสียหาย ฝากระวังกันด้วย มิจฉาชีพมาหลายรูปแบบจริงๆ

จากการตรวจสอบของทีมข่าว พบว่า ชายที่กระโดดเกาะฝากระโปรงรถคันดังกล่าว เป็นคนเดียวกับที่ไปก่อเหตุชิงรถแท็กซี่ เมื่อช่วง 4 ทุ่ม ของคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ระหว่างที่ถูกตำรวจควบคุมตัวที่ สน.บางชัน กลับเสียชีวิตปริศนา

ทางด้าน คุณกนกวรรณ สุขมา พยาบาลวิชาชีพ ประจำศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ได้รับการประสานตอน 23.38 น. ของคืนวันที่ 23 ตุลาคม ว่ามีผู้ป่วยชักเกร็ง และหยุดหายใจอยู่ที่ สน.บางชัน ซึ่งเป็นคนที่ถูกตำรวจควบคุมตัวมา พออาสาสมัครไปถึงพยายมปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่พบสัญญาณชีพแล้ว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับแม่ของชายที่เสียชีวิต เล่าว่า ชายที่ปรากฎในคลิปคล้ายลูกชายมาก เพราะคืนวันเกิดเหตุลูกชายก็ใส่เสื้อลายพราง และลักษณะท่าทางก็คล้าย คาดว่าในคืนดังกล่าวลูกชายน่าจะก่อเหตุกระโดดเกาะฝากระโปรงรถก่อน จากนั้นจึงไปก่อเหตุกับรถแท็กซี่

ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายทำไปเพราะความเมา เพราะวันนั้นลูกชายกลับมาจากขายของที่ตลาดประมาณ 6 โมงเย็น แล้วดื่มเหล้าอย่างหนัก ก่อนจะออกไปข้างนอกอ้างว่านัดเพื่อนไว้ และที่ไปก่อเหตุกับรถ คาดว่าอาจจะพยายามสื่อสารว่าให้พาไปส่งโรงพยาบาล แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็เป็นได้

คืนนั้นลูกชายก็หายไปทั้งคืน กระทั่งมาเห็นข่าวทางโทรทัศน์ว่ามีชายเสียชีวิต ที่ สน.บางชัน พอเห็นกระเป๋าสะพายคนตาย ก็เริ่มเอะใจ เพราะคล้ายกับของลูก และระบุว่าผู้ตายสวมเสื้อลายพราง ซึ่งตรงกับชุดของลูกที่สวมใส่ จึงไป สน.บางชัน แล้วก็พบว่าเป็นลูกชายของเธอจริงๆ และสภาพศพที่เห็นมีเพียงรอยปั้มหัวใจ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ซึ่งครอบครัวไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย

แม่ผู้ตายยังเล่าถึงพฤติกรรมของลูกชายที่แปลกไปในคืนวันเกิดเหตุว่า วันที่ลูกชายจะออกจากบ้าน ได้ก้มกราบขออโหสิกรรมกับเธอ พร้อมกล่าวว่า ลูกทำผิดกับแม่อีกแล้ว เธอก็ได้อโหสิกรรมให้ และกล่าวขออโหสิกรรมลูกเช่นกัน แต่ลูกก็ได้บอกกับเธอว่า แม่ไม่ต้องอโหสิกรรม เพราะแม่ไม่เคยทำผิดอะไรเลย นอกจากนี้เธอฝากขอโทษคนขับรถแท็กซี่ และเจ้าของรถเก๋งดังกล่าวด้วย

สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตในใบมรณบัตร ระบุว่า ภาวะหัวใจล้มเหลว ขณะที่ในทางคดี ทีมข่าวตรวจสอบไปยัง สน.บางชัน เจ้าของรถเก๋งทุ่ชถูกชายคนนี้กระโดดเกาะ ไม่ได้เข้าไปแจ้งความ ตำรวจจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/xsz9B-bzxFY