พ่อร้องทนาย ลูกชายวัย 20 ปีถูกกลุ่มช่างกลรุมทำร้าย ซ้ำใช้หัวเข็มขัดสถาบันลนไฟ ประทับตราที่อก

พ่อพาลูกชายวัย 20 ปี เข้าร้องทนายรณณรงค์ หลังถูกกลุ่มช่างกลกว่า 15 คนรุมทำร้ายจนบาดเจ็บ ก่อนใช้หัวเข็มขัดสถาบันลนไฟประทับตราที่หน้าอก ซ้ำถ่ายคลิปสนุกสนาน ยืนยันขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน 65 มีสำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี นายธีรวัฒน์ ได้พาลูกชาย อายุ 20 ปี นักเรียนโรงเรียนช่างอุตสาหกรรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ชั้นปีที่ 1 ปวส.แผนกไฟฟ้า เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายรณ ณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม


ลูกชายกับเพื่อนถูกกลุ่มวัยรุ่น 15-16 คน รุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงพาลูกชายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางชัน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 65 ที่ผ่านมา


เหยื่อที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย และใช้หัวเข็มขัดโรงเรียนลนไฟร้อน ๆ ประทับตราบริเวณหน้าอกขวา จนเป็นรอยไหม้ขนาดใหญ่ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 3 พฤศจิกายน 65 เวลา ประมาณ 23.00 น. ตนพร้อมด้วยเพื่อนรุ่นพี่ที่ ซึ่งเรียนจบไปแล้ว ได้ขี่จักรยานยนต์ โดยมีรุ่นพี่เป็นคนขี่ และตนเป็นคนซ้อนท้ายออกไปทำธุระ


เมื่อถึงบริเวณหน้าห้าง ย่านรามคำแหง ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่น มากัน 5-6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ประกบปาดซ้ายปาดขวา และสั่งให้หยุด จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ตนกับรุ่นพี่ ไปนั่งซ้อนท้ายกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา พาไปที่ซอยเสรีไทย 52 จนสุดซอยซึ่งเป็นป่าเปลี่ยว


จากนั้นได้ถามตนเองว่าเรียนอยู่ที่ไหน ตนบอกไปว่าไม่ได้เรียนแล้ว แต่กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดซึ่งมาสมทบกันอีกนับ 10 คน ได้ใช้อาวุธปืนราว 5-6 กระบอกจี้ และกระชากโทรศัพท์มือถือตนไปเปิดดูข้อความ เห็นข้อมูลหลักฐานว่าตนเรียนอยู่ที่ไหนจึงตรงเข้ามารุมทำร้ายตนและรุ่นพี่จนได้รับบาดเจ็บ


จากนั้นวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้นำหัวเข็มขัดของโรงเรียนมาลนไฟจนร้อนแล้วประทับตราใส่หน้าอก จนตนแทบทนไม่ไหว ปรากฏว่าประทับตราแล้วเห็นไม่เด่นชัด พวกเขาจึงลนไฟใหม่ให้ร้อนระอุแล้วประทับตราซ้ำจนเห็นตราเด่นชัดเป็นรอยแผลไหม้ที่หน้าอกตน ทุกคนในกลุ่มพากันหัวเราะพอใจ ส่วนเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้วไม่ถูกประทับตรา แต่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บไม่แพ้กับตน


ซึ่งหลังตนเห็นข่าวกลุ่มช่างกลรุมทำร้ายเยาวชน 3 คนในเขต สน.หัวหมาก จึงนำเรื่องไปเล่าให้พ่อฟัง ทางคุณพ่อจึงได้พาเข้าแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน เพื่อให้ติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทำร้ายตนกับเพื่อนรุ่นพี่มาดำเนินคดี


ส่วนที่ว่ากลุ่มคนทำร้ายจะใช่กลุ่มเดียวกับที่ทำร้าย 3 เยาวชนหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถยืนยันได้ เพราะตนไม่รู้จักกับพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนบาดแผลที่หน้าอกตนทุกวันนี้ก็ยังเจ็บปวดมาก เวลาที่เหงื่อออกก็จะปวดแสบปวนร้อน บางครั้งมีหนองไหลออกมาตลอดเวลา ตนเองยังไม่ได้ไปหาหมอเลยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ หลังแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วทางตำรวจได้ให้ตนไปหาหมอเพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ


ขณะที่นายธีรวัฒน์ พ่อผู้เสียหาย เผยว่า หลังทราบเรื่องจากลูกชาย ตนเองตกใจมาก ไม่คิดว่าลูกชายจะถูกทำร้ายถึงขนาดนี้ เมื่อได้เห็นบาดแผลจึงได้รีบนำเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าแจ้งกับพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 ที่ทำร้ายบุตรชายกับเพื่อนในครั้งนี้


ตนเลี้ยงลูกชายมากับมือ ไม่เคยแม้จะทำร้ายหรือเฆี่ยนตี เขาทำงานพิเศษหารายได้ช่วงเวลาเลิกเรียน ไม่เคยไปเกเรหรือมีปัญหาไล่ตีกับเพื่อนต่างสถาบัน ตนไม่เข้าใจว่ามาทำร้ายลูกขนาดนี้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกัน เพียงแค่เรียนต่างสถาบัน


เรื่องที่เกิดขึ้นตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและปล่อยให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่ขอเจรจาหรือพูดคุยรับการเยียวยาจากคู่กรณีทั้งสิ้น


ขณะที่ทนายรณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางชันแล้ว หากไม่มีความคืบหน้าก็ต้องพาไป สตช.อีก แต่ช่วงนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจติดภารกิจประชุมเอเปค คงต้องรอให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วก็จะดำเนินการช่วยเหลือ ผู้เสียหายรายนี้ จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่ก่อเหตุกระทำในลักษณะ เป็นการทารุณกรรมมากกว่าการทำร้ายร่างกาย ทำเสร็จก็ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานแล้วไปโพสต์ให้รู้ว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเจ๋ง เยาวชนพวกนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด