กระทรวงแรงงานตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้แรงงานในแคมป์ก่อสร้างราว 5- 6 หมื่นคน ให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน หวังจะสร้างความมั่นใจต่อสังคมว่าจะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในการกระจายโรคโควิด-19 ขณะที่กรมแรงงานใช้เงินกว่า 50 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว เพื่อสั่งอาหารจากร้านค้าชุมชน แจกจ่ายให้แรงงานต่าวด้าวในแคมป์ ที่ถูกสั่งปิด

ที่ร้านอาหารตามสั่งของ นายสำเนียง ฤทธิ์ศักดิ์ ในซอยลาดพร้าว 80 เป็นหนึ่งในร้านอาหารแบบอิสระ ที่รับจ้างทำอาหารกล่องส่งให้แคมป์คนงานก่อสร้างที่ถูกคำสั่งปิด โดยได้โควต้าสั่งทำวันละ 200 กล่อง เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปช่วงที่งานก่อสร้างถูกสั่งปิด

ตอนนี้กรมการจัดหางานใช้เงิน 50 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อบริหารจัดการทำงานต่างด้าวมาซื้ออาหารแจกแรงงานต่างด้าวในแคมป์ต่างๆทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลครอบคลุมแรงงานลาว เมียนมา กัมพูชา 78125 คน ระหว่าง12-27 กรฏาคมนี้ โดยกระจายเงินก้อนนี้ไปว่าจ้างร้านอาหารในกลุ่มชมรมภัตตาคารไทย, ชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพฯ และผู้ค้าอิสระ เพื่อให้มีรายได้ชดเชยที่หายไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของการปิดแค้มป์คนงานก่อสร้าง คือการตรวจเชิงรุกและฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลหารือกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแนวทางที่จะฉีดวัคซีนให้แรงงานในแคมป์พักราว 5-6 หมื่นคนภายใน 2 สัปดาห์หรือราว 20 วัน โดยไม่ต้องรอการตรวจสวอปก่อน พร้อมระบุให้ชัดว่าแคมป์ใดบ้างที่แรงงานผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว

ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานระบุว่า มี 53 แคมป์แรงงาน ที่กมท. สุ่มตรวจแล้วพบว่ามีแรงงานติดโควิดและมีแอนตี้บอดี้ซึ่งมีอยู่ราว 3-4 พันคน ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วราว 1 หมื่นคน จึงเหลือที่จะฉีดเพิ่มอีก 5-6 หมื่นคน

การตรวจคัดกรองและฉีดวัคซีน เป็นความหวังสำคัญของแรงงานที่อยู่ในแคมป์ และใช้ชีวิตอยู่อย่างจำกัด และแรงงานเหล่านี้ก็หวังว่าเมื่อได้รับการฉีดวัคซีนมากพอ โอกาสจะกลับไปใช้ชีวิตปกติก็มากขึ้น

นอกจากเร่งฉีดวัคซีนให้แรงงานในแค้มป์ก่อสร้างแล้ว ครม.อนุมัติล่าสุด ให้แรงงานที่เปลี่ยนนายจ้างโดยพลการ ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไข กลายเป็นแรงงานนอกระบบนั้น สามารถกลับเข้าสู่ระบบได้โดยให้นายจ้างคนล่าสุดไปแจ้งต่อจัดหางานเขตพื้นที่ จ่ายค่าเวิร์คเพอมิต และเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นแรงงานเถื่อน ที่ไม่อาจนำเงินในระบบเข้าไปช่วยเหลือได้

ตอนนี้จำนวนสะสมของแรงงานต่างด้าว ที่ผ่านการตรวคัดกรองโควิด ตั้งแต่มกราคมถึง 17 กรกฎาคม ทั้งหมด 41,164 ราย และผ่านการฉีดวัคซีนระหว่าง 6 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวม 48,984 ราย ยังเหลือแรงงานเป้าหมายอีกราว 6 หมื่นคน ที่ต้องการฉีดวัคซีนให้ได้ใน 2สัปดาห์นี้