สังคม
ศบค.แบ่งโซนสีใหม่ ผ่อนคลายมาตรการ ร้านอาหารนั่งได้ถึง 5 ทุ่ม รายการทีวีไม่ต้องใส่แมสก์ เริ่ม 21 มิ.ย.
โดย panwilai_c
18 มิ.ย. 2564
61 views
วันนี้ ศบค.มีมติมรการปรับโซนพื้นที่ใหม่ และผ่อนคลายมาตรการ ที่สำคัญคือ ร้านอาหารเปิดได้ถึง 5 ทุ่ม รวมถึงผู้ประกาศข่าวก็มีมาตรการผ่อนคลายให้ถอดหน้ากากได้ มีผลวันที่ 21 มิถุนายนนี้
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่าวันนี้ที่ประชุม ศบค.ได้ปรับโซนพื้นที่ใหม่ จากเดิม 3 โซน เป็น 4 โซน คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรือ พื้นที่สีเหลืองเข้ามาอีก 1 โซน
โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ยังเป็น 4 จังหวัดเดิม คือ กรุงทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
-พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จาก 17 จังหวัด เหลือเพียง 11 จังหวัด
-พื้นที่ควบคุม (สีส้ม)จาก 56 จังหวัด เหลือเพียง 9 จังหวัด
-ส่วนอีก 53 จังหวัดที่เหลือจะไปอยู่ในโซนใหม่ คือ พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง)
ซึ่งก็จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆตามโซนสี ที่สำคัญคือร้านอาหารในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ศบค.ขยายเวลาเปิดจากเดิมเปิดได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม เป็นเปิดได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม แต่ร้านที่เป็นห้องแอร์ต้องมีการเว้นระยะห่าง นั่งได้ไม่เกินร้อยละ 50 เท่านั้น และยังคงงดจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน
นอกจากนี้ ศบค. ยังได้ผ่อนคลายสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ให้ยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากในบางช่วงเวลา หนึ่งในนั้นคือผู้ประกาศข่าว ได้รับการยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากในขณะที่อ่านข่าว แต่จะต้องมีฉากกั้น เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร หรือตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ อธิบายเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขเว้นระยะห่าง 2 เมตร ว่า หากไม่สามารถเว้นระยะ 2 เมตรได้ ก็ต้องเว้นระยะตามความเหมาะสมของสถานที่ และต้องมีมาตรการอื่นๆที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ซึ่งรวมไปถึงเรื่องการฉีดวัคซีนด้วย
และรายการที่ผ่อนปรน คือ รายการละครเฉพาะนักแสดงที่เข้าฉาก รายการร้องเพลง เฉพาะผู้เข้าร่วมประกวดที่มีการจัดพื้นที่ไว้เฉพาะ และ รายการเกมโชว์ เฉพาะที่มีผู้ร่วมรายการคราวละ 1 คน โดยมาตรการทั้งหมดจะมีผลในวันที่ 21 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
กลุ่มกิจการร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือร้านเหล้า และอีกหลากหลายอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง ขณะนี้ยังคงเดือดร้อนหนัก หลังยังไม่สามารถกลับมาเปิดให้กิจการได้ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบกิจการบางรายถึงขั้นต้องตัดสินใจเลิกกิจการและหันไปขายไก่หมุนแทน
ทีมข่าวลงสำรวจตลาดแห่งหนึ่งย่านดาวคะนอง พบบรรดาโซนร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือร้านเหล้า ที่แสดงดนตรีสดร่วมด้วยนั้น แต่ละร้านโต๊ะ เก้าอี้ ข้าวของถูกนำไปกองเก็บรวมกัน ด้วยคำสั่งให้ปิดสถานที่ครั้งล่าสุดที่กินเวลามานานกว่า 2 เดือนแล้ว อีกทั้งไม่มีทีท่าว่า จะได้กลับมาเปิดอีกได้เมื่อไร เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดยังมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงอยู่
นายณัฐพล ขวัญชนะภักดี เจ้าของร้าน Maddox เล่าให้ฟังว่า ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นกลุ่มธุรกิจที่ถูกมองข้าม และได้รับผลกระทบสะสมมาตั้งแต่ระลอกแรก จึงโดนสั่งปิดก่อนแต่กว่าจะกลับมาเปิดธุรกิจได้ก็เป็นกลุ่มหลังสุด สำหรับการระบาดครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด เงินเก็บถูกนำออกมาใช้หมุนเวียนจนหมด จนต้องตัดสินใจที่จะเลิกกิจการ และหันไปทำร้านอาหารแทน เพราะมองว่า เมื่อเกิดสถานการณ์ระบาด ภาครัฐจะต้องสั่งปิดร้านเช่นนี้ทุกครั้ง
ระหว่างนี้ที่เป็นห่วงคือบรรดาพนักงานในร้าน นักดนตรีที่อยู่ด้วยกันมานาน จึงได้ปรับตัว หันมาเปิดร้านขายไก่หมุนน้ำผึ้งเงินล้าน พร้อมขายแฟรนไชส์ ไม่เพียงประคองตัวให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่ยังเป็นการช่วยเหลือน้องๆบางคนให้มีงานทำ มีรายได้ต่อไป
เช่นเดียวกับ นายวิริทธิ์พล กมลชัยณิชกุล นักร้องนักดนตรีวง stoic ซึ่งรับจ้างเล่นดนตรีกลางคืนด้วย บอกว่า ขณะนี้รายได้ทุกอย่างเป็นศูนย์ แต่ภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างยังคงเท่าเดิม นักร้องนักดนตรีเป็นอาชีพที่ไม่เคยได้รับการเยียวยาเหมือนกับอาชีพอื่น และที่หนักสุดคือ ส่วนตัวไม่เคยคิดว่า จะต้องไปพึ่งพาหรือเข้าถึงแหล่งเงินกู้ แต่ด้วยความจำเป็นก็ต้องทำ แม้อาจจะเข้าถึงยากเพราะเป็นอาชีพอิสระก็ตาม จากการพูดคุยกับนักดนตรีด้วยกัน หลายคนต้องยอมขายเครื่องดนตรีหรือเลิกอาชีพนี้ไปเลย เพราะไม่มั่นใจกับสถานการณ์และบริหารจัดการของรัฐบาล
ส่วนหากมีการผ่อนคลายมาตรการให้กลับมาเปิดได้นั้น ทุกคนต่างรอคอยและอยากให้เกิดขึ้นไวๆ พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการทุกอย่าง แม้จะรู้สึกกังวล และไม่มั่นใจว่า จะต้องกลับไปเจอกับสถานการณ์แบบที่ผ่านมาอีกหรือไม่
สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/EZcw3vYTMsw