หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ ด.ญ.ป 3 ชวนพ่อและพี่ๆ ฆ่าตัวตายทั้งครอบครัว หลังบ้านโดนปลอมชื่อค้ำ และถูกบังคับคดียึดขาย

เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุชล ฤทธิรุตม์ อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างทำสวน ฐานะยากจน ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ภรรยาของนายสุชลได้ป่วยและเสียชีวิต จากนั้นนายสุชลจึงเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูก 3 คน ลูกสาวคนโตอายุ 16 ปี ลูกชายคนกลางอายุ 15 ปี และลูกสาวคนสุดท้องอายุ 9 ปี โดยลูกชายคนกลางได้ลาออกจากโรงเรียน แล้วมาประกอบอาชีพทำสวนกับพ่อ เพื่อให้ครอบครัวมีรายได้ ส่งให้พี่สาวและน้องสาวเรียนหนังสือ

แต่เมื่อ 10 เดือนที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากสำนักงานบังคับคดี ว่าได้ทำการยึดที่ดินของนายสุชล เพื่อนำไปขายทอดตลาด เนื่องจากนายสุชลเป็นหนี้บริษัทโตโยต้าลิชซิ่ง จำนวน 4 แสนกว่าบาท และเจ้าหนี้ได้อาศัยคำพิพากษาของศาล ให้ยึดบ้านและที่ดิน ที่เป็นชื่อนายสุชล เพื่อขายทอดตลาด โดยกำหนดขายในวันที่ 13 พค.64 แต่นายสุชลยืนยันว่าไม่เคยไปขอกู้เงิน หรือค้ำประกันให้กับใคร

จึงได้ออกสอบถามจากหน่วยงานที้เกี่ยวข้อง จนได้การว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ได้มีคนสนิทในครอบครัวของนายสุชล ไปขอเช่าซื้อรถยนต์กะบะยี่ห้อโตโยต้า และกู้เงินจาก บ.โตโยต้าลิซซิ่ง สาขาหนึ่งในจ.ชุมพร โดยมีหลักฐานบัตรประชาชนและลายมือชื่อของนายสุชล เป็นผู้ค้ำประกัน แล้วที่ผ่านมาไม่เคยผ่อนชำระเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไป บริษัทโตโยต้าลิซวิ่งได้ยื่นฟ้องศาลให้ผู้ซื้อและผู้ค้ำชำระหนี้ โดยที่นายสุชลไม่เคยได้รับหมายศาล เพราะที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นบ้านของคนสนิท ต่อมาศาลจึงตัดสินให้นายสุชล ชดใช้หนี้จำนวน 4 แสนกว่าบาท แทนผู้ซื้อ และนำมาสู่การยึดบ้านที่ดินเพื่อขายทอดตลาด

นายสุชลเมื่อทราบเรื่องได้พยายามวิ่งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ทุกหน่วยงานบอกว่า เรื่องหมดอายุความที่จะอุทธรณ์หรือแก้ไขทางกฎหมายแล้ว เหลือแต่เพียงต้องไปประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนจาก สนง.บังคับคดีหลังสวน ในวันที่ 13 พค.64 เท่านั้น

นายสุชล ยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ลูกสาวคนสุดท้องอายุ 9 ขวบ ได้เข้ามาพูดว่า “พ่อเรามาตายกันทั้งครอบครัวเถอะ จะได้พ้นจากความลำบาก และได้ไปเกิดใหม่ อาจจะดีกว่าวันนี้ก็ได้” ทำเอาตนเองถึงกับตกใจกับคำพูดของลูก ได้ตั้งสติและบอกกับลูกว่า “อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอย ยังมีหนทางที่จะต่อสู้ได้”

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ดญ.วัย 9 ขวบ ว่าทำไมถึงคิดฆ่าตัวตายพร้อมพ่อ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่อยากเห็นบ้านที่ดินถูกยึด ถ้าตายไปอาจจะเกิดมาสบายกว่านี้

ล่าสุด พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ โดนเฉพาะการชะลอการบังคับคดี และจะหาวิธีระดมเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้

ทั้งนี้ เมื่อ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน หันไปเห็น ดญ. ลูกสาวคนสุดท้องที่ชวนพ่อฆ่าตัวตาย จึงได้เข้าไปโอบกอดพร้อมกล่าวให้กำลังใจ ให้ต่อสู้ชีวิต อย่าท้อถอย และเมื่อทราบว่าน้องอยากเป็นตำรวจเมื่อโตขึ้น ก็ได้กล่าวชมเชยว่ารูปร่างมีโอกาส ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจ

ส่วนคนก่อเหตุนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นน้องชายของนายสุชล ขณะนี้ย้ายข้าวของหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว

ทางด้าน นางสาววัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร กล่าวว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแลครอบครัว พร้อมทั้งจะให้นิติกรลงไปดูรายละเอียดของคดี และหางาน และทุนการศึกษาให้ ครอบครัวได้มีรายได้

ขณะที่ นายสุวิทย์ พลานชุน ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน บอกว่า ในทางกฏหมายในคดีค้ำประกัน ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะเลยกำหนดที่จะขอแก้ไขคดี ที่สามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่าไม่ใช่บุคคลที่ค้ำประกันตามสัญญา คงต้องไปต่อสู้ในการประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนเท่านั้น

ส่วนท่านผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือ สามารถช่วยได้ที่ บัญชี ธ.ออมสิน เลขที่ 020090458918 ชื่อบัญชี ดช.อภิเชษฐ์ ฤทธิรุตน์ ลูกชายคนกลาง ซึ่งผู้เป็นพ่อไม่สามารถใช้บัญชีตนเองได้เนื่องจากจะถูกอายัด

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/AoTwK9OiDio