วันเด็กคึกคัก 'เศรษฐา' สวมเสื้อลิเวอร์พูลเจอเด็ก - เด็กแปะโพสต์อิทความในใจถึงนายกฯ - 'ชัยธวัช' สวมหูหมี งานวันเด็กก้าวไกล

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเดินทางกลับไปออกกำลังกาย เล่นฟุตบอล โดยสวมเสื้อฟุตบอลลิเวอร์พูล สกรีนด้านหลังหมายเลข 4 และอักษรย่อ ST โดยระหว่างเดินมาขึ้นรถที่จอดรออยู่บริเวณ ประตูทางออกที่ 1 มีเด็ก ๆ นำลูกฟุตบอล มาให้นายกรัฐมนตรีเซ็น จากนั้นได้มีเด็ก ๆ จำนวนมากกรูเข้ามาถ่ายรูป


เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่า ได้อ่าน สคส.ที่นักเรียนส่งมาให้ และมีนักเรียนชั้น ม.4 เขียนทวงเงินดิจิทัลวอลเล็ตแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ผมยังไม่มีเวลาอ่าน พร้อมก่อนจะหันมาถามว่าเด็ก ม.4 อายุเท่าใด ผู้สื่อข่าวจึงระบุว่า เด็กอายุ 16 นายกรัฐมนตรีจึงตอบกลับว่า ก็มีสิทธิ์ที่จะได้


ส่วนที่มีคนเขียนโพสต์อิทว่าอยากเป็นลูกนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ยิ้มและหัวเราะก่อนที่จะกล่าวสั้น ๆ ว่า เหนื่อยหน่อยนะ เป็นลูกผมอ่ะ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศกิจกรรมวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี เจ้าหน้าที่จัดสแตนดี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้เด็ก ๆ แปะโพสต์อิทบอกความในใจถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อความส่วนใหญ่เป็นการให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เช่น คำว่า "นายกสู้ ๆ" ขณะที่เด็กบางคนเขียนข้อความระบุว่า "อยากให้นายกลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาเล่น", "รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อตอนหาเสียง" และ "ชอบการบริหารงานของนายก และถุงเท้าของนายก"


ส่วน พรรคก้าวไกล จัดงานวันเด็ก ปี 2567 ภายใต้แนวคิด "ถ้าหนูโตไปอยากเป็นนักการเมือง" ที่อาคารอนาคตใหม่ โดยภายในงานมีบูธกิจกรรม หลากหลาย ทั้ง 9 GREEN สิ่งแวดล้อมก้าวไกล ที่ให้เยาวชนฝึกคัดแยกขยะ หรือก้าว GEEK เทคโนโลยีก้าวไกล ที่ให้เยาวชน ฝึกออกแบบโลโก้พรรคก้าวไกล ผ่านเว็ปแชท GPT นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้เด็กเยาวชน จำลองการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขึ้นมาแสดงวิสัยทัศน์ ในแบบฉบับเยาวชน


โดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาในลุคเอาใจเด็ก ๆ สวมแว่นดำ ใส่ที่คาดผมหูหมีสีชมพู พร้อมระบุว่า วันนี้เราทำกิจกรรมพูดถึงนโยบายการศึกษาของพรรค และการพูดคุยกับเด็ก ๆ ที่สนใจงานทางการเมือง ว่าถ้าเด็กอยากเป็นนักการเมือง จะทำอย่างไร


เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากแนะนำให้เด็กมาเป็นนักการเมืองหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่าไม่อยากจะให้มองว่าอาชีพหรือการทำงานทางการเมือง เป็นเรื่องที่อยู่ห่างไกล หรือเรื่องน่ากลัวมากกว่า สำหรับคนที่มีความรู้สึกคิดว่าตัวเองอยากเข้ามาเป็นคนที่มีโอกาสในการออกกฏหมาย ออกนโยบายบริหารประเทศ การมาเป็นผู้แทนราษฎร ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง และจริง ๆ ก็มีอีกหลายทางเลือก


ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีนายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เสียงตอบรับดี กิจกรรมนี้เราพยามออกแบบให้เด็กมีส่วนร่วม มีโอกาสได้แสดงออกถึงความคิดความฝัน เราทำเรื่องนโยบายการศึกษา ที่อยากพูดในวันเด็ก เพราะส่งผลกระทบ ต่อปัจจุบัน และอนาคตของเด็กทุกคน


ทุกวันเด็ก เราจะคุ้นเคยกับคำขวัญ ซึ่งบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำ ว่าผู้นำแต่ละยุค ควรมีคุณสมบัติอย่างไร แต่เรามีความเชื่อว่า สิ่งที่เด็กอยากได้มากที่สุด อาจจะไม่ใช่การที่ผู้ใหญ่แค่มาบอกว่าเด็กควรจะเป็นอย่างไร แต่คือการที่ผู้ใหญ่รับฟังความฝันของเขา สิ่งที่เด็กต้องการมากที่สุดอาจจะไม่ใช่คำขวัญ แต่คือคำสัญญา จากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ให้กับเด็กทุกคนได้อย่างไร


ซึ่งตนได้พูดถึง 6 ข้อเสนอเชิงนโยบาย ที่อยากจะเห็นให้เกิดขึ้นก่อนวันเด็กปีหน้า

1. เดินหน้าจัดทำหลักสูตรการศึกษาฉบับใหม่

2. ลดภาระงานครู ที่ไม่เกี่ยวกับการสอน

3. เพิ่มเงินอุดหนุนให้กับนักเรียน ที่มีความเสี่ยงจะตกหล่นจากระบบการศึกษา

4. การหาทางออกเรื่องโรงเรียนขนาดเล็ก

5. การคุ้มครองความปลอดภัยในสถานศึกษา ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ

6. การเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการออกแบบกติกาในโรงเรียน และกำหนดอนาคตในสังคมนอกโรงเรียน


และหวังว่ารัฐบาลจะรับไว้พิจารณา แต่นอกเหนือที่เราจะผลักดัน ผ่านไปยังรัฐบาลแล้ว พรรคก้าวไกลก็ใช้กลไกสภาผลักดันด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการยื่นร่างข้อกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติการศึกษา หรือกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติห้ามตีเด็ก ที่เราได้ยื่นไปแล้ว รวมถึงใช้กลไกคณะกรรมาธิการ การศึกษาฯ ในการตรวจสอบด้วยเช่นกัน


เมื่อถามว่าหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะไม่มีคำขวัญแต่จะเปลี่ยนเป็นคำสัญญาใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า ใช่ เพราะเราเข้าใจว่าคำขวัญ เป็นสิ่งที่ทำกันมาทุกปีเข้าใจว่า 60 กว่าครั้ง เราก็มองว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหายอะไร แต่สิ่งที่เด็กอาจจะต้องการมากกว่า ไม่ใช่การที่ผู้ใหญ่มาบอกว่าอยากเห็นเด็กเป็นอย่างไร แต่อยู่ที่ผู้ใหญ่จะสื่อสารว่าจะสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ให้กับเด็กอย่างไร นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด


จากนั้นในช่วงบ่าย มีนายชัยธวัช ตุลาธน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และนายสิทธิผล วิบูลย์ธนากุล จับเข่าเสวนา ฟังประสบการณ์การเติบโตจากวัยเด็กสู่เส้นทางทางการเมือง ของ สส.พรรคก้าวไกล ว่า หลัก ๆ คือ ทักษะการสื่อสาร ทั้งต่อหน้าสาธารณะ และระดับบุคคล โหวตเตอร์ และความรู้เบื้องต้นของกฎหมายไทย เพราะหน้าที่หลักของสส. คือการออกกฏหมาย รวมถึงความรู้ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะต้องเข้าไปตรวจสอบหน่วยราชการ


และยอมรับความเห็นต่าง แม้จะไม่ตรงกับอุดมการณ์ของตนเอง รวมไปจนถึงเป็นนักการเมือง ต้องรู้จักเห็นอกเห็นใจประชาชน เรื่องของประชาชนเป็นความทุกข์ร้อนของเรา และสิ่งสำคัญที่สุด คือต้องมีวาระ หรือเหตุผลว่าทำไมจึงอยากเข้ามาทำงานการเมือง หรือจุดยืนทางการเมือง ถ้านักการเมืองทั้งหมดเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม


แต่อีกด้านหนึ่งของเหรียญ คืออาชีพที่ไม่มีวันหยุด และมีคนไม่ชอบคุณแน่นอน เพราะการตัดสินใจของคุณกระทบต่อคนจำนวนมาก เค้าอาจจะมีสิทธิ์ วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่คุณทำ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/J660RUwNRZM