เลือกตั้งและการเมือง

'ไอทีวี' ร่อนหนังสือแจง รายงานการประชุม - เอกสารงบการเงิน 'สฤณี' ชี้ยังไม่เคลียร์ ตอบสังคมไม่ได้

โดย nattachat_c

16 มิ.ย. 2566

411 views

ไอทีวี แจงปม บันทึกการประชุม-งบการเงิน ระบุไม่ได้ต้องการสื่อสารว่า "ยังประกอบกิจการสื่ออยู่" ส่วนรายการการประชุม เป็นการสรุปสาระสำคัญ ไม่ได้จดบันทึกแบบคำต่อคำ และ งบการเงินไตรมาส 1 ปี 66 ที่โพสต์ในเว็บ เป็นเพียงร่างที่ใช้ภายในบริษัทและยังไม่ได้ตรวจจากผู้ตรวจสอบบัญชี ยังไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือ ใช้งานภายนอกบริษัทได้


จาก กรณีปมปัญหาหุ้น ITV จากกรณีที่มีการนำเสนอคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 ซึ่งมีการตอบคำถามผู้ถือหุ้น เกี่ยวกับกิจการการดำเนินงานของหุ้นไอทีวี และเอกสารที่ออกมาชี้แจง กลับไม่ตรงกัน


โดยเอกสารยืนยันว่า "ยังคงดำเนินการธุรกิจด้านสื่อโฆษณา" แต่ในคลิปกลับระบุว่า "ไม่สามารถดำเนินกิจการได้จนกว่าจะเสร็จสิ้นคดีความ"

--------------

วานนี้ (15 มิ.ย. 66) เว็บไซต์  www.itv.co.th ของ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้น โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า เอกสารชี้แจงท่านผู้ถือหุ้น เรื่องรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566



จากเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อเกี่ยวกับการบันทึกรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 ("รายงานการประชุม") แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ปี 2565 และงบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัทนั้น


บริษัทขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้


1.ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ("การประชุมฯ") บริษัทได้จัดประชุม เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 โดยในการประชุมฯ ดังกล่าวมีทั้งหมด 9 วาระ วาระที่ 1 ถึงวาระที่ 8 เป็นวาระรายงาน/อนุมัติและพิจารณาการดำเนินการทางธุรกิจตามการค้าปกติของบริษัท ส่วนวาระที่ 9 เป็นวาระอื่น ๆ ซึ่งไม่ได้มีผู้ถือหุ้นเสนอวาระเพื่อพิจารณาและอนุมัติเพิ่มเติม บริษัทจึงเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นชักถามในเรื่องอื่น ๆ


ในการประชุมฯ ดังกล่าว มีคำถามที่ซ้ำซ้อนจากผู้ถือหุ้นหรือเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัท ดังนั้น การจัดทำบันทึกคำถามและคำตอบในรายงานการประชุม บริษัทจึงได้สรุปสาระสำคัญของคำถามและคำตอบในระหว่างการประชุมฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัทเท่านั้น เพื่อให้มีความกระชับและชัดเจนโดยมิได้จดบันทึกการประชุมฯ เป็นคำต่อคำ


ทั้งนี้ การบันทึกรายงานการประชุมที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ เป็นการสรุปคำตอบจากคำถามหลายข้อที่ผู้ถือหุ้นส่งเข้ามา ในส่วนที่เกี่ยวช้องกับข้อพิพาทเรื่องสิทธิตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ฯ นั้น บริษัทได้บันทึกราขงานการประชุมไว้แล้วในวาระ 9 หน้า 14 ว่า "ผลคดีเป็นจุดสำคัญที่สุด หากผลคดีขังไม่ออก เป็นไปได้ยากมากที่บริษัทจะดำเนินการใดๆ ในขณะนี้..."


สำหรับในส่วนที่มีการบันทึกรายงานการประชุมว่า "ปัจจุบัน บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ" นั้น บริษัทไม่ได้ต้องการจะสื่อสารว่าบริษัทยังประกอบกิจการสื่ออยู่ แต่หมายถึงบริษัทยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยมิได้มีการเลิกกิจการแต่อย่างใด


2.ในส่วนของแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัทประจำปี 2565 ที่บริษัทยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 บริษัทขอเรียนว่า รายได้จากการประกอบธุรกิจของบริษัทได้แสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัท ประจำปี 2565 ซึ่งได้มีการตรวจสอบ และลงนามรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและ ได้ยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในงบการเงินดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นว่า รายได้ของบริษัทมาจากผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับเท่านั้น


ซึ่งงบการเงินฉบับดังกล่าว บริษัทได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 เช่นกัน


3.ในส่วนของงบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัทที่มีการโพสต์ในเว็บไซต์ www.itv.co.th ตามที่มีข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น บริษัทขอเรียนให้ทราบว่างบดังกล่าวเป็นเพียงร่างงบการเงินที่ใช้ภายใน บริษัทและยังไม่ได้มีการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชี จึงยังไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานภายนอกบริษัทได้ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ


บริษัทขอเรียนย้ำว่า การดำเนินการประชุมฯ การจัดทำรายงานการประชุม การนำส่งแบบนำส่งงบการเงินงบการ เงิน และการดำเนินการต่างๆ ของบริษัทเป็นการดำเนินการทางธุรกิจตามปกติและเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ


คณะกรรมการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)

-----------
วานนี้ (15 มิ.ย.) นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการเงิน และรักษาการหัวหน้าสายงานการเงินและบัญชี บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า


ตามที่บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีหนังสือ เรื่อง แจ้งกรณีที่เป็นข่าวของ บมจ.ไอทีวี (ไอทีวี) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 บริษัทขอชี้แจงให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบว่า


เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 บริษัทได้รับหนังสือจากคณะกรรมการไอทีวี เรื่อง การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เป็นข่าวเกี่ยวกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 ที่ผ่านมาแล้ว โดยทางไอทีวีได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้นผ่านเว็บไชต์ของไอทีวีแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ www.itv.co.th


ทั้งนี้ ลงชื่อ นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส ไม่ใช่ นายคิมห์ สิริทวีชัย


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า INTOUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ITV จำนวน 52.92% และ GULF ถือหุ้นใหญ่ใน INTOUCH จำนวน 41.19%.

-----------
สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า


“จดหมายชี้แจงจากไอทีวีวันนี้ค่ะ (15 มิ.ย.) สรุปสั้นๆ คือ เขาตอบว่า


1. รายงานการประชุมไม่ได้ตั้งใจจะบันทึกคำต่อคำ ใจความสำคัญของคลิปกับในรายงานไม่ต่างกัน บริษัท “ไม่ได้ต้องการสื่อสารว่าปัจจุบันบริษัทยังทำสื่ออยู่” แต่อย่างใด


2. ยืนยันว่า รายได้ของบริษัทในปี 2565 มีเพียง “ผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ” เท่านั้น


อย่างไรก็ดี ไอทีวีไม่ได้อธิบายว่า แล้วทำไมแบบ ส.บช.3 (แบบนำส่งงบการเงินประจำปี) ที่แนบงบปี 2565 ถึงได้ระบุ “สื่อโฆษณา” ในช่อง “สินค้าและบริการ” ในเมื่อทั้งปี 2565 ไม่มีการทำธุรกิจนี้และไม่มีรายได้จากธุรกิจนี้เลย


นั่นแสดงว่า แบบ ส.บช.3 ที่บริษัทนำส่งไม่ถูกต้องอย่างแรงในสาระสำคัญ บริษัทควรขอแก้ไขกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยเร็วค่ะ


3. ยืนยันว่า ร่างงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 นั้นเป็นเอกสารภายในเท่านั้น “จึงไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานนอกบริษัทได้” — แปลว่า เอกสารที่เรืองไกรนำไปยื่น กกต. นั้นน่าจะใช้ไม่ได้นะคะ ถ้าเป็นเอกสารชุดเดียวกัน


อย่างไรก็ดี ไอทีวีไม่ได้อธิบายว่า ในเมื่อเป็นร่างเอกสารภายใน แล้วทำไมถึงเอาขึ้นเว็บบริษัทให้คนทั่วไปและนักร้องเข้าถึงได้ #ติดตามตอนต่อไป”


ทีมข่าวสอบถามคุณสฤณี ถึงโพสต์ดังกล่าวเปิดเผยว่า โดยส่วนตัวอ่านแล้วยังไม่เคลียร์ และก็คิดว่าสังคมก็เกิดความสงสัยเหมือนกัน ก็เลยมีการตั้งข้อสังเกตว่า ไอทีวี อยู่ในความดูแล ของบริษัท อินทัช จำกัด(มหาชน) ในฐานะคนดูแลจากตัวเอกสารข้อมูลงบการเงินต่างๆ ไอทีวีจ้างบริษัทนี้ดำเนินการ จากแต่ก่อนเอกสารจะลงนาม โดยผู้บริหารอินทัช แต่ครั้งนี้ ลงนามในนาม คณะกรรมการ


ซึ่งข้อมูลที่ออกมาก็ไม่ชัดเจน หรือยังตอบสังคมไม่ได้ ดังนั้นไอทีวีชี้แจงออกมาแล้ว ก็เหลือในส่วนของบริษัทอินทัชที่ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะ อินทัชเป็น เป็นคนดูแลหุ้นไอทีวี


“ดังนั้นอินทัชเองในความที่เป็นบริษัทมหาชน มีคณะกรรมการตรวจสอบ ต้องทำมาตรฐานตามธรรมาภิบาลสูงสุด ถ้าการตรวจสอบไอทีวีที่แถลงออกมามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และ คำตอบที่สังคมอยากรู้ และยังไม่รู้คือ ในคลิป บอกว่า ไม่ได้ดำเนินกิจการเพราะต้องรอคดีเสร็จสิ้นก่อน แต่ในเอกสารกลับบบอกดำเนินการ แบบนี้คนถือหุ้น หากใครดูคลิปก็จะรู้ว่าไม่ได้ดำเนินกิจการ หากใครอ่านเอกสารก็เข้าใจว่าดำเนินกิจการอยู่”


“ดังนั้นบริษัทอินทัช มีกรรมการอิสระมีการสอบสวน เรื่องนี้ถ้าใครเป็นผู้ถือหุ้นอยากเชิญชวนว่าควรเรียกร้องให้อินทัชที่เป็นคนดูแลหุ้นไอทีวี ออกมาให้ข้อมูลที่แท้จริง”


ซึ่งบริษัทอินทัชเป็นบริษัทมาตรฐาน แต่ข้อมูลออกมากลับคลาดเคลื่อนเหมือนหนังคนละม้วนถ้าใครอ่าน คนหนึ่งฟังคลิปอย่างเดียวก็จะสรุปต่างกันกับคนที่มาอ่านกระดาษอย่างเดียว “ในความเห็นส่วนตัวอินทัชควรจะออกมาชี้แจง”


ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่อง นำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัทประจำปี 2565 ที่บริษัทยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ข้อมูล บริษัทขอเรียนว่า รายได้จากการประกอบธุรกิจของบริษัทได้แสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัท ประจำปี 2565 ซึ่งได้มีการตรวจสอบ และลงนามรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและ ได้ยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์


มีการระบุว่า ไอทีวี ให้บริการ การโฆษณาผลิตสื่อ จึงทำให้คนสงสัยและเข้าใจว่ายังทำธุรกิจโฆษณาแต่พอในหนังสือไม่ได้บอกว่ามีการทำโฆษณา


“ดังนั้นทางบริษัทต้องรับไปแจ้ง กรมมพัฒนาธุรกิจและการค้า มิเช่นนั้น ส่อในการทำผิดกฎหมายยื่นเอกสารเท็จ เป็นเอกสารที่คลาดเคลื่อนไม่สะท้อนข้อเท็จจริงดังนั้นจึงต้องรีบไปที่กรมพัฒนาธุรกิจชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง”


ส่วนเรื่องงบการเงินที่บริษัทยืนยันชัดเจน ระบุว่า เอกสารใช้ภายในบริษัทไม่สามารถใช้อ้างอิงนำไปใช้ภายนอกได้ ดังนั้นกรณีคนที่นำไปร้องเรียนก็ถือว่าเป็นเอกสารที่ใช้ไม่ได้


ซึ่งตนเองอยู่ในแวดวงเศรษศาสตร์มานาน พึ่งเคยเห็นกรณี เอกสารของการดูแลหุ้น และการประชุมไม่ตรงกัน และยังมีคนนำไปร้องเรียน ถือเป็นเรื่องแรกที่เคยเจอ

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3mIns69HmaI

คุณอาจสนใจ