เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 11 เม.ย.65 ผลโพลชัชชาติมาแรง-จัดปาร์ตี้ยาเย้ยโควิด-หนุ่ม กรรชัย แจ้งจับบังแจ็ค

-จัดปาร์ตี้ยาเย้ยโควิด ตำรวจบุกร้านอาหารกลางเมืองขอนแก่น พบนักเที่ยว 62 คน จัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติด เจอตำรวจพากันหนีกระเจิงแอบไปหลบในห้องน้ำ สุดท้ายไม่รอด จับตรวจปัสสาวะ พบสีม่วง 48 คน ตรวจค้นเจอของกลางเกลื่อนร้าน ทั้งซุก ทั้งทิ้ง ก่อนรวบคนดูแลร้าน พร้อมออกหมายเรียกเจ้าของร้าน ดำเนินคดี

-เผยภาพผัวโหดราดน้ำมันเผาเมีย เปิดปากเล่าปม อ้างถูกสวมเขา ฝ่ายหญิงมักไล่ให้ออกไปซักผ้า จึงวางแผนแอบอัดคลิปเสียง กระทั่งได้ยินเสียงได้ยินภรรยาพาชายอื่นเข้าบ้าน ด้านตำรวจเผยผลตรวจร่างกาย ไม่พบสารเสพติด มีเพียงการดื่มเหล้า ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ใน ICU อาการปลอดภัย

-สุดงง แค่คอมเม้นท์ปกป้องเพื่อน กลับถูกโจ๋บุกพังบ้าน ข้าวของพังเสียหายยับ ทั้งรถ กระจก รั้วบ้าน เจ้าบ้านผวาหนัก หวั่นไม่ปลอดภัย เผยผู้ก่อเหตุเป็นลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่น

-ทนายตั้ม นำทีมหนุ่ม กรรชัย - แจง ภรรยาแจ๊ส เข้าแจ้งความจับบังแจ็ค และพวก ข่มขู่ หมิ่นประมาท ปลอมเพจ หลังโพสต์ขู่ฆ่าโชว์ปืนผ่านเฟซบุ๊ก กรรชัยลั่น เป็นครั้งแรกที่แจ้งความจับคน ไม่กลัว ไม่รับคำขอโทษ ขอดำเนินคดีตามกฏหมาย

-มาตามนัด แซนเข้ารายงานคดีแตงโมครั้งแรก ดีใจคดีใกล้จบ ย้ำชัดให้การเหมือนเดิม ไม่กังวลกระติกสารภาพ เผยความสัมพันธ์คนบนเรือไม่เหมือนเดิม แจงคลิปปาร์ตี้บนเรือ ขอมูฟออนกับชีวิต

-คุณทวด 5 แผ่นดิน อายุเฉียด 100 ปี ป่วยโควิด-19 รักษาตัวที่บ้านจนหายเป็นปกติ ญาติเผยไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว เหตุเดินทางลำบาก เพราะป่วยเป็นอัมพฤกษ์พร้อมยอมรับกลัวผลข้างเคียง

ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตวานนี้108 ราย นิวไฮทะลุร้อยวันแรกของระลอกโอมิครอน สลด พบเด็ก 5 ขวบ และผู้สูงอายุวัย 105 ปี เสียชีวิต

-เคาะแล้วแก้ปัญหาหวยแพง อนุชา เผยขายผ่านออนไลน์ โดยใช้แอพเป๋าตัง ใบละ 80 บาท เริ่มงวดแรก 16 มิถุนายน นี้



เรื่องเล่าการเมือง

-สนามเลือกตั้งผู้ว่า กทม. กำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก เมื่อวานมีผลสำรวจของนิด้าโพลออกมา พบว่าคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังมีคะแนนนำโด่ง และเป็นผู้สมัครคนเดียวที่คะแนนเพิ่มเมื่อเทียบกับผลสำรวจครั้งก่อน ขณะที่คนอื่นๆคะแนนลดลง

-อันดับ 1 ยังคงเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ คะแนนนำโด่งมา ร้อยละ 38.84

-รองลงมา ร้อยละ 26.58 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ

- อันดับ 3 ทิ้งห่างมาที่ ร้อยละ 10.06 คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครอิสระ

- อันดับ 4 ร้อยละ 6.83 เป็น ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์

- นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล มาเป็นอันดับ 5 ร้อยละ 6.02

- อันดับ 6 ระบุว่า จะไปลงคะแนนไม่เลือกใคร หรือVote NO ร้อยละ 2.94

- และ มีผู้ที่บอกว่าจะไม่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ร้อยละ 2.06

ถ้าเทียบกับผลสำรวจของนิด้าโพลครั้งก่อนหน้านี้ คือเมื่อต้นเดือนมีนาคม ก็จะพบว่า นายชัชชาติ เป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่มีคนเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มมาเล็กน้อยจากครั้งก่อน 38.01% ครั้งนี้เพิ่มเป็น 38.84%

ส่วนผู้สมัครคนอื่น ทั้ง พล.ต.อ.อัศวิน /คุณวิโรจน์ / ดร.เอ้ สุชัชวีร์ / และคุณรสนา คะแนนลดลง

พล.ต.อ.อัศวิน ลดลงจาก 11.73% เหลือ 10.06% / คุณวิโรจน์ ลดจาก 8.83% เหลือ 6.02% / ดร.สุชัชวีร์ ลดลงจาก 8.61% เหลือ 6.83% / และคุณรสนา ลดจาก 3.73% เหลือ 1.98%

และที่น่าสนใจ คือ ผู้ที่ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว คือ จาก 13.40% เป็น 26.58%

ส่วน Vote No คือ จะไปกาไม่เเลือกใคร ลดลง จาก 5.56% เหลือ 2.94%

เบื้องต้นมีความเห็นจาก พล.ต.อ.อัศวิน ถึงเรื่องผลโพลที่ยังเป็นรองนายชัชชาติ โดยบอกว่าเป็นเพราะเพิ่งเปิดตัว และแสดงความมั่นใจว่า จะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้



-ในการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ครั้งนี้ กลุ่มหนึ่งที่ถูกจับตา คือ กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก หรือ New Voter ซึ่งมีอยู่ถึงประมาณ 7 แสนคน

ทีมข่าวการเมืองได้ไปฟังเสียงสะท้อนของเด็กวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานที่เป็นกลุ่ม New Voter ที่ย่านสยามสแควร์ พบว่าส่วนใหญ่กำลังตื่นเต้นที่จะได้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งแรก ประมาณ 80 % ของผู้ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแน่นอน เนื่องจากอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ และอยากได้ผู้ว่าฯที่เข้าใจ เข้าถึงปัญหาของ กทม. อย่างแท้จริง

แม้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก ส่วนใหญ่ตื่นเต้นอยากไปเลือกตั้ง ก็มีอีกส่วนที่ยังลังเลว่าจะไปเลือกตั้งหรือไม่ เพราะหลังได้รับตำแหน่ง การทำงานก็มักจะไม่ตรงปก กับสิ่งที่หาเสียง หรือเรียกว่าตอนหาเสียงเป็นเพียงการขายฝันเท่านั้น

สำหรับตัวเลขผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งแรก หรือ New Voter มีอยู่ประมาณ 16% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด คือ เกือบ 7 แสนคน ต้องดูว่าสุดท้ายผู้สมัครคนไหนจะได้คะแนนจากกลุ่มนี้ไปครองเป็นกอบเป็นกำ



-เมื่อวาน (10 เม.ย.2565) ครบรอบ 12 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 2553 มีการจัดกิจกรรมรำลึก ของคนเสื้อแดงและแนวร่วม

ในชื่องานรำลึก "12 ปียังไม่มีความยุติธรรม วีรชนเมษายน-พฤษภาคม 53" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน ซึ่งนอกจากแกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ยังมีนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยรุ่นใหม่เข้าร่วมงานจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มแกนนำราษฎรและแนวร่วม และ ตัวแทนจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านด้วย มีการทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลไปยังผู้สูญเสียจากการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองเมื่อปี 2553

ภายหลังพิธีสงฆ์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. ขึ้นกล่าวปราศรัยไว้อาลัยวีรชนคนเสื้อแดง พร้อมย้ำถึงจุดยืน ที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม จากเหตุการณ์ใช้กำลังสลายการชุมนุมและทวงคืนประชาธิปไตย

ขณะเดียวกันก็มีการนัดรวมตัวชุมนุมของกลุ่ม "คาร์ม็อบทะลุโลง" ซึ่งเคลื่อนขบวนมาจากบริเวณแยกราชประสงค์ ไปบริเวณอนุสรณ์สถาน14 ตุลา ซึ่งประกอบด้วยมวลชนอิสระจากหลายกลุ่ม อาทิ 4 ขุนพลคนของราษฎร, ทะลุแก๊ซ, ทะลุฟ้า, โรนินฝั่งธนไม่เอาเผด็จการ, อาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฯลฯ

ประมาณ 17.00 น. ขบวนคาร์ม็อบทะลุโลงได้เคลื่อนจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไปบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเปิดเวทีปราศรัย และวางโลงศพจำลอง

จากนั้นเวลา ได้นำผ้าสีขาวที่ผู้ชุมนุมร่วมกันเขียนข้อความถึงนายกรัฐมนตรีมาปูโดยรอบโลงศพจำลอง และราดน้ำมัน จุดไฟเผาโลงศพจำลอง จากนั้นจึงช่วยกันดับไฟก่อนยุติกิจกรรมในเวลา1ทุ่มที่ผ่านมา



-จากกระแสข่าวว่าฝ่ายค้านจะเลื่อนการอภิปรายออกไป เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่มีทางที่ฝ่ายค้านจะไปฮั้วกับรัฐบาลได้ ตนเองไม่เคยคุยกับใครใน รัฐบาล เพราะเจตนารมณ์ของตนเองชัดเจนอยู่แล้ว ว่าต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลชุดนี้

หากไม่เปลี่ยนแปลงประชาชนและประเทศชาติจะย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นเราต้องทำทุกวิถีทางให้รัฐบาลออกจากอำนาจโดยเร็ว ซึ่งการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นวิธีการหนึ่ง

แต่ยอมรับว่ามีประเด็นที่ฝ่ายค้านกำลังคิดหนัก เพราะหากรัฐบาลยุบสภาโดยที่ยังไม่มีกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งฉบับใหม่ใช้บังคับ จะส่งผลให้เกิดปัญหาติดล็อคตามมาได้

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3kusHL6-71Q