บุกช่วยเด็ก 3 พี่น้อง ไม่ได้เรียนหนังสือ ถูกแม่แท้ๆ บังคับส่งยาให้ 'พระ' แฟนเก่าถึงวัด

เพื่อนบ้านเห็นสุดเวทนา ร้องมูลนิธิเป็นหนึ่งขอให้ช่วยเหลือเด็กชาย 3 พี่น้อง อาศัยอยู่กับแม่ถูกบังคับให้ขายยาบ้า ซ้ำยังไม่ให้ไปเรียนหนังสือ

เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.67) ตำรวจ สภ.ราชสาส์น พร้อมด้วยหัวหน้าบ้านพักเด็กและสตรี จ.ฉะเชิงเทรา , เจ้าหน้าที่ พม.และมูลนิธิเป็นหนึ่ง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่ง ใน อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่ามีเด็ก 3 คนพี่น้อง  คนโตเป็นเด็กชายอายุ 13 ปี คนรองอายุ 10 ขวบ และคนเล็ก 7 ขวบ อาศัยอยู่กับแม่โดยไม่ให้ไปโรงเรียนและแม่ยังใช้ให้ลูกไปส่งยาเสพติดให้กับพระรูปหนึ่งและพระรูปดังกล่าวยังมีความสัมพันธ์กับแม่เด็กด้วย

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านหลังดังกล่าว  พบหญิงที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็ก มาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ ส่วนแม่เด็กไม่อยู่ เจ้าหน้าที่พบเด็กชายอายุ 13 ปี ลูกคนโตที่แม่ใช้ให้ไปส่งยาบ้า  พร้อมกับน้องเล็กอีก 2 คน เจ้าหน้าที่จึงแยกเด็กชายอายุ 13 ปี ออกไปเพื่อสอบถาม  ส่วนภายในพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว พบกระดาษฟอยล์จำนวนมาก และยังพบซองซิปล็อกซึ่งคาดว่าเป็นซองที่เคยใช้ใส่ยาบ้า เนื่องจากมีเศษผงสีส้ม มีกลิ่นคล้ายช็อกโกแล็ต  โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายหลังแล้วยืนยันว่าเป็นยาบ้าจริง

สอบถามชาวบ้าน ได้ข้อมูลว่า เด็ก 3 พี่น้อง มีเพียงคนรองและคนเล็กที่ได้ไปโรงเรียน แต่ลูกชายคนโตแม่ไม่ยอมให้ไปเรียน และมักจะให้ลูกชายคนโต เอายาบ้าไปส่งให้กับพระที่วัดแห่งหนึ่ง เนื่องจากพระรูปดังกล่าว ก่อนจะบวช เคยคบหากับแม่เด็กมาก่อน และเมื่อบวชแล้วก็ยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด  มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่ให้ลูกเอายาไปส่งพระ แล้วถูกตำรวจจับกุมได้ นำตัวไปที่ สภ.ราชสาสน์ แต่ท่านเจ้าอาวาสขอบิณฑบาตไว้ เนื่องจากสงสารเด็ก ที่ผ่านมากำนันผู้ใหญ่บ้านเคยเข้าไปพูดคุยกับแม่ เพื่อขอให้ลูกไปโรงเรียน แต่ไม่เป็นผล

ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพื้นที่รอบๆ บ้าน แม่เด็กกลับมาที่บ้านและปฏิเสธว่ากระดาษฟอยล์และถุงซิปล็อกดังกล่าว ไม่ใช่ของตน แต่เป็นของน้องชาย เจ้าหน้าที่จึงให้แม่เด็กและเพื่อนแม่ที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ไปตรวจปัสสาวะ ผลปรากฏว่าแม่เด็กไม่พบสารเสพติด ส่วนเพื่อนแม่พบสารเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวไป

ส่วนแม่เด็กชี้แจงว่า ที่ลูกชายคนโตไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะลูกไม่ยอมไปเอง เนื่องจากลูกสมองช้า เรียนไม่ทันเพื่อน ถูกเพื่อนล้อ ลูกเลยไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งตนก็แจ้งครูไปแล้วว่าลูกมีปัญหา ทางครูก็บอกให้กลับไปเรียน แต่ลูกไม่ยอมไปเอง  ส่วนพระที่วัด ยอมรับว่ารู้จัก แต่ไม่ได้ไปยุ่งสุงสิงหรือมีความสัมพันธ์อะไรด้วย และไม่เคยใช้ให้ลูกชายไปส่งยาเสพติดด้วย

จากนั้นตำรวจไปที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ค้นกุฎิพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดหลายรายการ เมื่อตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติดในร่างกาย พระสุรศักดิ์ยอมรับว่าเพิ่งเสพยาบ้าเข้าไปตอนเช้า โดยเพื่อนเอามาให้ แต่ไม่ได้บอกว่าเพื่อนคนนั้นเป็นแม่เด็กหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงจับสึกและคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก โดยนายสุรศักดิ์ สารภาพว่า ตนออกจากคุกมาก็บวชที่วัดนี้ ได้ 2 พรรษา และแอบเสพยาบ้ามาตลอด แต่ไม่ได้ใช้ให้เด็กเอายาบ้ามาให้

ด้านนายสมหมาย เตียงกูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านต้นนา บอกว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องพฤติกรรมของแม่เด็ก ซึ่งตนก็พยายามว่ากล่าวตักเตือนมาตลอด  แต่แม่เด็กก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจะมีสามีใหม่ตลอด นอกจากลูกคนโตจะไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว ลูกคนรองก็เคยถูกแม่ทุบตีด้วย

ขณะที่มูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า สอบถามเด็กชายวัย 13 ปี ยอมรับว่า แม่ใช้ให้ไปส่งยาบ้าจริง แต่แม่ไม่ได้เสพยา ส่วนแม่ขายยาเสพติดหรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำและรวบรวมหลักฐาน  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเด็กทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงกับแม่เด็กว่า ต้องให้ลูกทุกคนไปโรงเรียนทุกวัน และไม่นำเด็กไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ไม่ทำรุนแรงต่อเด็ก หากผิดข้อตกลง เจ้าหน้าที่ พม.จะรับเด็กไปอยู่ในความคุ้มครองทันที รวมทั้งระหว่างที่แม่ต้องเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะประเมินว่า แม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะดูแลลูกหรือไม่ หากไม่พร้อมก็จะนำเด็กทั้ง 3 คนไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ทันที

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Hkr7GY8zT1E