บุกบ้านช่วย 3 พี่น้อง ถูกแม่บังคับเดินยา ไม่ให้ไปโรงเรียน ซ้ำพาลูกส่งยาให้พระถึงวัด

เพื่อนบ้านสุดทน! ร้องมูลนิธิเป็นหนึ่ง ขอให้เข้ามาตรวจสอบครอบครัวลูก 3 คน ผู้ปกครองมีพฤติกรรมการขายยาเสพติด ไม่ให้ลูกไปโรงเรียน ให้ลูกคนโตเป็นคนส่งยา ซ้ำพาลูกส่งยาให้พระถึงในวัด



วันนี้ 25 กรกฏาคม 67 เวลา 10.30 มูลนิธิเป็นหนึ่งร่วมกับหัวหน้าบ้านพักจังหวัดฉะเชิงเทราและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ให้เข้าตรวจสอบครอบหนึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน รวม 5 คน มีเด็กจำนวน 3 คน โดยเด็กทั้ง 3 คนไม่ได้ไปโรงเรียนและผู้ปกครองของเด็กมีพฤติกรรมการขายยาเสพติด



จากการตรวจสอบและสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ได้ความว่าผู้เป็นแม่ มักใช้ให้เด็กซึ่งเป็นลูกชายคนโตเป็นคนไปส่งยา คาดว่าเด็กคนโตอายุราว ๆ 13 ปี ส่วนลูกคนที่ 2 อายุประมาณ 10 ขวบ และคนที่ 3 อายุ 7 ขวบ แม่ก็ไม่ให้ไปโรงเรียนเช่นกัน เด็กคนที่ 2 เคยมาเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งแม่ไปส่งยาให้พระไปกับพี่ชาย ซึ่งคือลูกคนโต ส่วนพระรูปดังกล่าว ก่อนหน้าที่จะบวชเคยคบหากับแม่เด็กมาก่อน ซึ่งแม่เด็กเปลี่ยนคู่นอนค่อนข้างบ่อย มีอยู่วันหนึ่งแม่เด็กได้นำยาไปส่งให้พระรูปดังกล่าว โดยไปกับลูกชายคนโต แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และนำตัวมาที่ สภ.อ.ราชสาสน์ แต่ท่านเจ้าอาวาสได้ขอไว้เพราะสงสารเด็กแ ต่พระรูปดังกล่าวก็ยังมีพฤติกรรมเสพยาอยู่ ที่ผ่านมากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เคยเข้าพบแม่เพื่อพูดคุยขอให้พาลูกไปเรียนหนังสือแต่ก็ไม่เป็นผล จนตอนนี้แม่ก็ยังมีพฤติกรรมให้ลูกชายคนโตคอยส่งยาเสพติดอยู่



หลังจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่แล้วทางเป็นหนึ่งกับหัวหน้าบ้านพักจังหวัดฉะเชิงเทราและเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางไปพบกับแม่ของเด็ก และทำการตรวจค้นบ้านพัก และตรวจร่างกายแม่ของเด็กเพื่อหาสารเสพติดแต่ก็ไม่พบ และเดินทางไปพบพระสงฆ์ที่วัดกรณีที่ถูกกล่าวอ้างว่าคบหากับแม่ของเด็ก และได้ทำการสึก และนำตัวไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจ ซึ่งก็ได้ให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดจริงเสพยาจริงและรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ



กรณีเด็กทั้ง 3 คนทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการบันทึกตกลงกับผู้ปกครองว่า ต้องให้เด็กไปเรียนทุกวัน มารดาต้องไม่นำเด็กไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ต้องไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก ทั้ง 3 คน หากผิดข้อตกลงต้องเข้าคุ้มครองเด็ก และปรับสภาพครอบครัวใหม่ ซึ่งแม่ของเด็กก็ยินยอมรับข้อตกลงดังกล่าว



ขณะที่ ตำรวจชุดสืบสวน สภ ราชสาส์น ไปที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ เพื่อตรวจฉี่พระที่เป็นแฟนแม่ของเด็ก พบเป็นสีม่วง ซึ่งทางพระ หรือนายสุรศักดิ์ วงค์ศรีทอง อายุ 38 ปี สารภาพว่าเพิ่งเสพยาไปเมื่อเช้า พร้อมบอกว่าตนออกจากคุกมา ก็บวชจำพรรษามาสองพรรษา แอบเสพยาบ้า มาตลอดแต่ ให้การภาคเสธว่าเด็กไม่ได้เดินยามาให้



ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสมหมาย เตียงกูล ผญบ.ม.10 ผู้ใหญ่สมหมาย เตียงกูล ผญบ ม 10 บ้านต้นนา ต.หนองยาว อ พนมสารคาม เล่าว่า ตนก็ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านถึงพฤติกรรมแม่ของเด็ก ก็พยายามมาว่ากล่าวตักเตือน พร้อมนำเด็กลูกคนโตวัย 13 ปีไปอยู่เลี้ยงวัวกับหลานตน เพราะเด็กบอกว่าเก็บกดไม่อยากไปโรงเรียนอายเพื่อน ในพฤติกรรมของแม่ที่มีสามีใหม่ตลอดและยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายกับแฟนเก่าของแม่เด็กต่อไป