เลือกตั้งและการเมือง

'อนุทิน' ยินดี 'ก้าวไกล' ความนิยมยังสูงลิบ สะท้อนพรรคอื่น ต้องเร่งทำผลงาน เพิ่มความเชื่อมั่น

โดย nut_p

27 พ.ค. 2567

138 views

'อนุทิน' รับหัวใจเต้นผิดจังหวะ เหตุพักผ่อนน้อยเครียดสะสม ยินดี 'ก้าวไกล' คะแนนนิยมนำสูง ชี้โพลมาตอนนี้ยังดีกว่ามาช่วงใกล้เลือกตั้งแล้วแก้ไขไม่ได้ สะท้อนพรรคอื่นต้องเร่งทำผลงาน กั๊กตอบอุบัติเหตุทางการเมืองชี้เหตุยังไม่เกิด รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 40 สว.ยื่นสอบนายกฯ มองนายกฯปรึกษา 'วิษณุ' เป็นเรื่องปกติเพราะเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์



นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลว่า ตอนนี้ดีแล้ว แต่ต้องฟิตสุขภาพมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาอาจจะออกกำลังกายไม่พอ และอาจจะเล่นโทรศัพท์มือถือมากเกินไปหน่อย จึงทำให้นอนน้อย ตอนนี้ต้องนอนให้มากขึ้น จัดตารางชีวิตให้ดี



เมื่อถามว่าแพทย์บอกว่าเป็นโรคอะไร นายอนุทินกล่าวว่า เป็นโรคภาวะหัวใจห้องบนเต้นเร็วผิดปกติ (Supraventricular Tachycardia – SVT) ที่มีอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ ทำให้กระแสไฟฟ้า ไม่ออกไปตามช่องที่ควรจะออก เลยต้องไปช็อตเพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ ซึ่งตอนแรกตนก็คิดว่าจะเป็นโรคหัวใจ แต่โชคดีที่แพทย์บอกว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ก็ต้องขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ ต้องพักผ่อนให้มาก และไม่เครียด แต่คงทำงานน้อยลงไม่ได้



เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีอาการเครียดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อาจจะสะสมโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเครียดอะไร และอาจจะพักผ่อนน้อย





ส่วนกรณีที่มีผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสถาบันพระปกเกล้า พบว่าพรรคก้าวไกลมีคะแนนนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องดีและแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่มีคะแนนนิยมไม่ตกลงเลย และเป็นสัญญาณให้พรรคอื่นๆจะต้องเร่งทำผลงานเพิ่มมากขึ้น ให้ประชาชนเชื่อมั่นให้มากขึ้น และการที่มีคนผลโพลออกมาตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี ดีกว่าช่วงใกล้เลือกตั้งที่แก้ไขอะไรไม่ได้



เมื่อถามว่ายัง ไม่ถึงจุดที่ต้องกังวลใช่หรือไม่เพราะหากประเมินออกมาแล้วพรรคก้าวไกลได้เพียงแค่ 208 เสียงยังไม่ถึง 250 เสียง นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้มองตรงนั้น แต่มองว่าทำไมเป็นพรรคการเมืองด้วยกัน สส.เหมือนกัน มีคนทำงานด้านการเมืองเหมือนกัน แต่ทำไมบางพรรคได้คะแนนนิยมมากขึ้น บางพรรคมีคะแนนนิยมลดลง คำตอบมีอยู่อย่างเดียวคือสงสัยว่าพรรคที่คะแนนลดลงทำงานหนักยังไม่พอ หรือยังทำผลงานเข้าตาประชาชน เราก็ต้องทำผลงานให้เข้ากับประชาชนมากที่สุด



ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีถูก 40 ส.ว. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่ารอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน ศาลก็มีคำสั่งออกมาชัดเจนแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายใน 15 วัน ซึ่งตนก็มีโอกาสได้ฟังนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่บึงหนองบอนเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมผ่านมา ว่าได้มีการปรึกษาฝ่ายกฎหมาย และจะชี้แจงตามคำสั่งของศาล เราก็ต้องรอ



เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้มีการเตรียมความพร้อมหรือไม่หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น การบริหารราชการแผ่นดินยังดำเนินไปได้ไปตามปกติ การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมก็ดำเนินไปตามปกติ เป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ไม่น่ากังวลอะไร อย่าไปกังวลอะไรจนเกินเหตุเดี๋ยวจะเครียดเหมือนตน



ส่วนเรื่องนี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องความเชื่อมั่นก็ต้องขอเรียนประชาชนว่าต้องเชื่อมั่นรัฐบาล รัฐบาลชุดนี้รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างหนักและทำงานตามนโยบายของทางพรรคตัวเองและนโยบายรัฐบาลรวมถึงนโยบายของนายกรัฐมนตรี และยังสนับสนุนนโยบายซึ่งกันและกัน มีความตั้งใจทำงานรับใช้ประชาชนอยู่ไม่มีเกียร์ว่าง ข้าราชการประจำก็ต้องทำงานตามหน้าที่ ตามนโยบายของรัฐบาล อย่าไปคาดเดาอะไรจนเกินไป และย้ำว่าข้าราชการไม่ควรที่จะเกียร์ว่างเพราะแม้ไม่มีรัฐบาลชุดนี้ก็มีรัฐบาลชุดต่อไป หากข้าราชการเกียร์ว่าง เห็นว่ารัฐบาลใกล้จะมีอันเป็นไป ก็เริ่มว่างไม่ตอบสนอง เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาจะไว้ใจคนคนนั้นให้ทำงานได้อย่างไร ดังนั้นจึงขออย่าพึ่งไปคาดเดาเพราะเชื่อมั่นว่าข้าราชการประจำก็ทำงานในหน้าที่อยู่แล้วและทำตามนโยบายของรัฐบาล ตนไม่กังวลเรื่องนี้



เมื่อถามว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงเกมนี้จะยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “มันยังไม่เกิดเหตุนั้น ถามว่าวันนี้มีใครในคณะรัฐมนตรีคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกันที่เจอกันตามงานก็ยังไม่มีใครคิด ว่าจะทำไงกันดีหรือคิดแผนสองแผนสาม ยังไม่มีเพราะตอนนี้มีแค่แผนหนึ่ง ก็คือเศรษฐา 1/1 “



ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปปรึกษานายวิษณุเครืองามรองนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ตนก็ปรึกษานายวิษณุ เมื่อมีเรื่องสงสัยเรื่องบทบัญญัติข้อกฎหมาย หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจตีความไม่ได้ ตนก็โทรศัพท์ไปสอบถามกับนายวิษณุ ซึ่งท่านก็ให้คำชี้แจงคำแนะนำหากท่านให้ได้ เพราะท่านคิดว่าตนเหมือนลูกเหมือนหลาน ท่านก็ให้คำแนะนำมาตลอด 20 กว่าปี ตั้งแต่เข้าการเมืองซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ที่มีความรู้และมีประสบการณ์ ก็เป็นที่พึ่งพิงเวลามีมีปัญหาก็ไปปรึกษาแต่การตัดสินใจก็อยู่ที่เจ้าตัว



เมื่อถามว่าจะชวนนายวิษณุมาเป็น รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรี เรื่องครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี



ส่วนจำเป็นต้องมีรองนายกฯรัฐมนตรีด้านกฎหมายหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเราไม่ทำอะไรผิด ถ้าเรามีเจตนารมย์ที่ดี แต่จริงๆแล้วเราก็มีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนจะต้องมีรองนายกฯด้านกฎหมายหรือไม่ก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

คุณอาจสนใจ

Related News