เศรษฐกิจ

นายกฯ ยันกม.ให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิคอนโด 99 ปี ไม่ใช่การขายชาติ หลัง ส.โรงแรมค้าน

โดย panwilai_c

25 มิ.ย. 2567

59 views

วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับการเสนอกรณีการแก้กฎหมายถือครองกรรมสิทธิ ห้องชุดของชาวต่างชาติเข้าพิจารณา โดยยังอยู่ระหว่างการจัดทำข้อศึกษาของกรมที่ดิน ขณะที่นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมั่นใจ คนไทยไม่ตกเป็นพลเมืองชั้นสองอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม ไม่มีเอื้อประโยชน์ใคร



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า การแก้กฎหมายการถือครองกรรมสิทธิห้องชุดของชาวต่างชาติจาก ร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 75 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากกรมที่ดิน เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยด้านข้อดีและข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น



ซึ่งส่วนตัวนายอนุทิน ยังไม่เห็นเอกสาร จึงยังไม่มีการเสนอเข้า ครม.ในวันนี้ โดยจะต้องเดินหน้าตามมติของครม. และดูตามข้อสั่งการให้สอดคล้องกับสิ่งที่กรมที่ดินศึกษามา ส่วนการป้องกันไม่ให้ประชาชนชาวไทย ต้องกลายเป็นพลเมืองชั้น 2



นายอนุทิน ยืนยันว่า มีเงื่อนไขปกป้องสิทธิของคนไทยเอาไว้ โดยไม่มีทางที่จะเขียนจ้อกำหนดที่เป็นการเลี่ยงบาลีเอาไว้ ส่วนตัวได้แจ้งไปที่อธิบดีกรมที่ดินให้ทำให้ดีที่สุด โดยให้นำข้อกังวลของประชาชนมาพิจารณา ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะต้องเดินหน้า ให้เหมือนอารยประเทศทำกัน แต่ก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศด้วย และมั่นใจในสิทธิประโยชน์ของคนไทยได้



นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดลงลึกว่าจะเป็นแผนทั่วทั้งประเทศ หรือบางพื้นที่ โดยเป็นเพียงการได้รับข้อสั่งการมา ซึ่งตอนนี้เอกสารอยู่ที่กรมที่ดิน จึงขอให้มั่นใจการทำหน้าที่ของกรมที่ดิน ว่าจะไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มของนายกรัฐมนตรี หรือ ครม. ตามที่หลายฝ่ายกังวลอย่างแน่นอน



สำหรับกรณีนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นไว้สั้นๆ หลังถูกถามว่า ในช่วงรัฐบาลที่แล้ว พรรคเพื่อไทยเองก็เคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายลักษณะนี้ว่าเป็นการขายชาติเช่นกัน โดย นายเศรษฐา ระบุว่า ในส่วนนี้ที่กระทรวงการคลังเสนอให้ไปศึกษา คือ เรื่องของการเช่าระยะยาวไม่ได้เป็นการขายที่ดิน จึงไม่เกี่ยวอะไรกับการขายชาติ



นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย ให้ความเห็นว่า ทางสมาคมไม่เห็นด้วยกับการแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้ถึงร้อยละ 75 โดยเห็นว่าสัดส่วนเดิมที่ร้อยละ 49 ก็มากเพียงพออยู่แล้ว เพราะจะเอื้อให้มีการปล่อยห้องเช่า-ขายรายวันแข่งกับโรงแรมมากขึ้น กระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน จนก่อให้เกิดสงครามตัดราคา และยังกังวลว่าอาจมีนอมินีเข้ามาอีก ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาโรงแรมเถื่อนเพิ่มขึ้น



จากการสำรวจโรงแรมในปัจจุบัน มีโรงแรมที่ถูกกฎหมาย มีใบอนุญาตถูกต้องแค่ประมาณ 16,000 หมื่นแห่ง ในขณะที่มีโรงแรมผิดกฎหมาย หรือ นอมินีเกือบ 4 หมื่นแห่ง ขณะที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติในไตรมาส 1 ปีนี้ มีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้น 3,938 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน



ส่วนจังหวัดที่มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด 5 อันดับแรก อันดับ 1 คือ ชลบุรี / กรุงเทพมหานคร / เชียงใหม่ / ภูเก็ต และจังหวัดสมุทรปราการ โดย 3 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด อันดับ 1 คือ ชาวจีน ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ 1,596 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อย 43.8 อันดับ 2 คือ ชาวเมียนมา จำนวน 392 หน่วย และอันดับ 3 คือ ชาวรัสเซีย จำนวน 295 หน่วย



ซึ่งชาวเมียนมา มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขยับลำดับขึ้นอย่างรวดเร็ว จากลำดับที่ 25 ในปี 64 ขึ้นเป็นลำดับ 2 ในไตรมาส 1 ปีนี้

คุณอาจสนใจ

Related News