เบรกเอี๊ยด! สสจ.อุดรฯ ห้าม 'น้องหญิง-อ.ชาย' เปิดแดนธรรมรักษาโรค ฝ่าฝืนโทษทั้งจำทั้งปรับ

เบรกเอี๊ยด! สสจ.อุดรธานี ออกหนังสือประกาศห้ามอาจารย์ชาย-น้องหญิง เปิดแดนธรรมรักษาโรค ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ขณะที่แดนธรรมที่บ้านผือไร้เงาอาจารย์และน้องหญิงโผล่ พี่โดมบอกตอนนี้น้องหญิงและอาจารย์ยังอยู่กรุงเทพฯ คิวแน่นออกรายการทีวี ส่วนกรณี สสจ.ออกหนังสือห้ามรักษาโรค ขอยังไม่ออกความเห็น ขอดูตัวหนังสือชัดๆ ก่อน



วันนี้ (25 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีของน้องหญิงและอาจารย์ชายที่เปิดแดนธรรมสุขาวดี ที่บ้านโนนตาแสง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่อรักษาโรคให้กับประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา อ้างดึงคลื่นพลังบุญจากพระพุทธเจ้า 5 พระองค์มารักษาให้ จนเป็นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ขณะนี้



โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตร.บุกจับน้องหญิง ในข้อหา "ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นผู้การค้า” นำตัวส่งดำเนินคดีที่ สน.โคกคราม และน้องหญิงได้ประกันตัวออกมา จนถึงขณะนี้น้องหญิงและอาจารย์ยังไม่กลับมาแดนธรรมฯ ที่อ.บ้านผือ โดยผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แดนธรรมสุขาววะดีเงียบกริบ ไม่มีลูกศิษย์หรือประชาชนที่มารักษาโรค ทราบแต่เพียงว่า อาจารย์และน้องหญิงมีคิวออกรายการทีวีแน่นอยู่ที่กรุงเทพฯ อยู่ขณะนี้



ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 ทางสำนักงานสาธารณสุขจ.อุดรธานี ได้ออกหนังสือ เรื่อง แจ้งให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย” ซึ่งเป็นมีหนังสือด่วนที่สุด ถึง เจ้าของสถานที่ “แดนธรรมสุขาววะดี” ของอาจารย์และน้องหญิง ระบุข้อความดังนี้ “เรื่อง แจ้งให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เรียน เจ้าของสถานที่ “แดนธรรมสุขาววะดี



ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชน เกี่ยวกับการรักษาโรคทางเลือก ณ แดนธรรมสุขาวดี โดยน้องหญิง อาจารย์ และพี่โดม เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ รักษาโรคด้วยคลื่นพลังบุญให้แก่ประชาชนทั่วไป สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า สถานที่ และผู้ที่ทำการรักษาดังกล่าวยังไม่มีการขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับการรักษาโรคใด ๆ ทั้งนี้ กรณีมีการประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาต จากผู้อนุญาต หากฝ่าฝืนเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 57 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งกรณีมีการประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต



พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 มาตรา 30 ห้ามมีให้ผู้ใดทำการประกอบโรคศิลปะ หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิทำการประกอบโรคศิลปะโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต หากฝ่าฝืนเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 57 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



ในการนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และให้เป็นไปตามกฎหมาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี จึงขอให้ท่านหยุดกิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาโรคให้แก่ประชาชนทั่วไปนับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากท่านไม่ดำเนินการตาม จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ และดำเนินการ



ขอแสดงความนับถือ นายสันติ ศรีนิล หันตแพทร์ (ด้านหันตกาธารเหยุช) ระดับบที่ยวชาญปฏิบัติราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ”



ต่อมา ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปหาพี่โดม ทราบว่า ตอนนี้น้องหญิงและอาจารย์ยังอยู่ที่กรุงเทพฯ มีรายการทีวีติดต่อให้ออกรายการจนคิวแน่นตลอดสัปดาห์ ไม่รู้ว่าจะได้กลับแดนธรรมฯ ที่บ้านผือเมื่อไหร่



ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้เรื่องที่ทางสสจ.ออกหนังสือห้ามให้หยุดกิจกรรมรักษาโรค เพราะเป็นสถานประกอบกิจการไม่ได้รับอนุญาติ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ โดยทางพี่โดม แจ้งว่า ยังไม่รู้ข่าวเรื่องนี้ และยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นต้องขอดูตัวหนังสือก่อน ส่วนอาจารย์และน้องหญิงจะรักษาโรคอีกต่อไปหรือไม่ ในเรื่องนี้ไม่ขอตอบ ต้องรอฟังจากปากของน้องหญิงและอาจารย์อีกครั้ง