เพื่อนบ้านขอพูดบ้างติดป้ายธรรมะเตือนสติ เปิดหลักฐานบ้านตรงข้าม ทิ้งขยะ-ปล่อยหมาดุ

เพื่อนบ้านเปิดความจริงอีกมุม เหตุขึ้นป้ายธรรมะเตือนสติ เปิดหลักฐานบ้านตรงข้ามทิ้งขยะแล้วปลิวมาหน้าบ้าน ปล่อยหมาดุมาเดินเล่น ไปร้อง อบต. แค่ 2 เรื่อง ไม่ใช่ 18 เรื่อง ตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง

จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามายังเพจโหนกระแสระบุว่า มีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลาะกันมายาวนาน 4 ปีถูกร้องเรียนไปกว่า 18 เรื่องและถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องกัน แล้วศาลชั้นต้นก็พิพากษายกฟ้องแต่คู่กรณีก็ยื่นขออุทธรณ์และฎีกา ทำให้ทางฝั่งผู้ร้องรู้สึกว่า คดีจบแต่คู่กรณีไม่จบและมีการขึ้นป้ายธรรมะเสียดสีด่าทอด้วย ล่าสุดทางฝั่งคู่กรณี ขอพูดบ้าง ว่าความจริงแล้วใครไม่จบกันแน่

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าวอีกครั้ง โดยคุณบุ๋มและคุณโจ้ สองพี่น้องที่เป็นเจ้าของบ้าน ที่มีการขึ้นป้ายธรรมะเสียดสี โดยคุณบุ๋ม ชี้แจงทีละประเด็น

โดยประเด็นที่ 1.คือเรื่องที่ฝั่งคุณอ้อม บอกว่าบ้านของตนนำขยะไปทิ้งหน้าบ้านคุณอ้อม นั้นไม่เป็นความจริง โดยความจริงแล้วขยะหน้าบ้านของคุณอ้อม ปลิวมาหน้าบ้านของตนหลายครั้ง

ทางบ้านของตนจึงต้องหยิบขยะเหล่านั้นไปทิ้งคืนที่บ้านคุณอ้อม ซึ่งที่คุณอ้อมเข้าใจว่า มีการนำสิ่งของบางอย่างมาซุกบริเวณริมรั้วและอาจจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ขอยืนยันว่า ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย แต่เป็นขยะที่ปลิวมาจากบ้านคุณอ้อมต่างหาก

2.เรื่องขับรถเร็วจะชนคุณอ้อมและสามี คุณบุ๋มอธิบายว่า ในวันดังกล่าวน้องชายตนเป็นคนขับรถ ซึ่งระยะทางจากบ้านของคุณอ้อมมาถึงบ้านของตนที่เป็นหลังสุดท้าย ท้ายซอย ระยะทางประมาณ 10 เมตร ถามว่า สามารถใช้ความเร็วได้ตามคลิปหรือไม่ และลักษณะการขับยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะชนหรือจะขับเฉี่ยวเพื่อนบ้านคู่กรณีเลย

3.เรื่องที่คุณอ้อม บอกว่าคดีจบแต่คนไม่จบเพราะมีการยื่นอุทธรณ์ ฎีกาต่ออีก คุณโจ้ บอกว่า สืบเนื่องจากทางฝั่งบ้านของคุณอ้อม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากทางฝั่งบ้านของตนเอง หลักๆแล้ว 2 เรื่องที่ร้องไปยัง อบต.และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นคือเรื่องที่บ้านของคุณอ้อมนำรถ และนำอุปกรณ์โซฟาของใช้ต่างๆมาซักล้างบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นถนนสาธารณะ

ส่วนประเด็นเรื่องสุนัข บางแก้วที่บ้านคุณอ้อม เลี้ยงไว้ 2 ตัว ปล่อยให้ออกมาหน้าบ้านและเคยวิ่งไล่จะกัดคุณบุ๋มพี่สาวตนมาแล้ว บางครั้งก็เคยมาขี้ เยี่ยวหน้าบ้านของตนด้วย

คุณโจ้ บอกอีกว่า ตนจึงร้องเรียนไปยังหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีแค่ 2 เรื่องเท่านั้น ไม่ใช่ 18 เรื่อง หรือ 20 เรื่องตามที่ฝั่งคุณอ้อมให้ข้อมูล โดยทั้ง 2 เรื่องนี้ ทาง อบต.ก็ได้มีหนังสือและมีคำสั่งออกมาแล้ว ว่า ห้ามไม่ให้บ้านคุณอ้อมมีการซักล้างบริเวณ หน้าบ้านที่เป็นถนนสาธารณะและห้ามปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยง ซึ่งในเอกสาร ระบุชัดว่าสุนัขพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขพันธุ์ที่ดุร้าย

ตามที่คุณอ้อมให้สัมภาษณ์ว่า สุนัขของตนไม่เคยมีประวัติกัดใคร ตนจึงอยากถามกลับไปว่า ต้องรอให้ถูกสุนัขกัดก่อนหรือ และถ้าตนจะตีสุนัขก็ผิดกฎหมายอีก ตนจึงต้องใช้วิธีการร้องเรียนตามขั้นตอนของกฎหมาย และยืนยันว่าไม่มีการใช้อาวุธข่มขู่เพื่อนบ้านคู่กรณี แต่ที่เห็นในภาพคือเคียวเกี่ยวหญ้าที่ตนเองนำมาตัดหญ้าหน้าบ้าน

โดยหลังจากที่ อบต.มีคำสั่งดังกล่าวลงมาคงทำให้บ้านคุณอ้อมไม่พอใจ จึงมีการโพสต์เหน็บแนมด่าทอและไลฟ์สดต่อว่าบ้านของตน , ทางบ้านตนจึงนำเรื่องดังกล่าวฟ้องศาลในข้อหาหมิ่นประมาทซึ่งในศาลชั้นต้นยกฟ้อง แล้วมีการพูดคุยกับทางสามีของคุณอ้อมแล้วว่าให้เรื่องทุกอย่างจบลงแค่นี้ จังหวะที่ตนกำลังคุยกับสามีคุณอ้อมคุณอ้อมเห็นพอดี จึงเดินปรี่เข้ามาและต่อว่า สามีว่าจะไปคุยอะไรต่อความยาวสาวความยืด พร้อมท้าให้ไปยื่นอุทธรณ์เอา

ตนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยื่นอุทธรณ์หรือขยายฎีกาแต่ทนายความฝั่งของตนแนะนำว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามกรอบของกฎหมาย จึงมีการยื่นอุทธรณ์และขยายฎีกา 2 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นตนเองจึงมีการขึ้นป้ายธรรมะเพื่ออโหสิกรรมและเป็นการใช้ธรรมะเตือนสติ จากนั้นคดีก็สิ้นสุดตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งภายหลังจากคดีสิ้นสุดลง ทางฝั่งบ้านของคุณอ้อมก็ไม่จบ จากเดิมที่เก็บสุนัขพันธุ์บางแก้ว 2 ตัวไว้ในบ้านตามคำสั่งของ เจ้าหน้าที่ อบต. แต่พอหลังคดีหมิ่นประมาทสิ้นสุดลงกลายเป็นว่าปล่อยสุนัขให้เดินวิ่งเล่นอยู่ในซอยโดยไร้เชือกจุง, มีการจอดรถขวางทางเข้าออกและมีพฤติกรรมเหมือนเดิม, ทำให้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอีกครั้ง

ตอนนั้นทางฝั่งของตนยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์เนื่องจากว่ายังไม่มีเวลาได้เตรียมตัว แต่วันนี้ได้รวบรวมหลักฐานมาชี้แจงแล้วบางส่วนจึงอยากให้สังคมเข้าใจว่าความจริงคืออะไรและฝั่งไหนที่ไม่ยอมจบกันแน่และหากเป็นไปได้ถ้ามีหน่วยงานหรือคนกลางมาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยตนเองก็ยินดี พร้อมยืนยันว่า ต้องการให้ต่างคนต่างอยู่

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/QT3Aqm6X-v4