ปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 หลังทหารเมียนมาลี้ทัพมากว่า 100 นาย

สถานการณ์การสู้รบในเมืองเมียวดี ของเมียนมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ กองกำลังผสมที่นำโดยกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA ยังไม่สามารถยึดเมืองเมียวดีได้เบ็ดเสร็จ หลังสามารถยึดกองพัน 275 ของกองทัพเมียนมาได้แล้ว เนื่องจากยังมีทหารเมียนมา กว่า 100 นาย หนีทัพมายังด่านพรมแดนเมียวดี แห่งที่ 2 จนส่งผลต้องให้มีการปิดด่านพรมแดนที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 และยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะทางการเมียนมาประสานขอให้ทหารหนีทัพได้ข้ามมาฝั่งไทย



ภาพทหารกองกำลังผสม นำโดยกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU และกองทัพประชาชน People’s Defence force ซึ่งเป็นกำลังหลักในการเข้ายึดฐานกองพัน 275 ของกองทัพเมียนมา ฐานที่มั่นสุดท้ายในเมืองเมียวดี ได้สำเร็จเมื่อเช้าวันที่ 11เมษายน ซึ่ง พ.อ.เนอดาทู ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ Cobra Column กองพล 6 KNLA เปิดเผยว่า ได้ยึดอาวุธของทหารพม่าไว้ได้จำนวนมาก ถือเป็นการยึดฐานทหารพม่าทั้งหมดในเมืองเมียวดีได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถปักธงประกาศชัยชนะในเมืองเมียวดีได้



เพราะมีทหารพม่า กว่า 100 นายจากกองพัน 275 หนีทัพออกมาพักอยู่ที่บริเวณด่านพรมแดนเมียวดี แห่งที่ 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ในเมืองเมียวดี ทหารกลุ่มนี้หนีทัพมาจากกองพัน 275 ของกองทัพเมียนมา หลังจากกองกำลังผสม ยึดได้สำเร็จ ทหารพม่ากลุ่มนี้หลบหนีออกมาในช่วงที่กองกำลังผสมบุกเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน หลังเข้าโจมตีในช่วงดึก แต่ทหารพม่ามีการติดตั้งซุ้มปืนกลและสไนเปอร์ไว้โดยรอบ



ทำให้ต้องมีการปรับแผนโดยในช่วงค่ำได้ใช้โดรนติดอาวุธบินเข้าไปทิ้งระเบิดตามหลุมที่ทหารพม่าประจำการอยู่ครั้งละ 4 ลำ จนทหารพม่าล่าถอย และหลบหนีมาที่ด่านแห่งนี้ แม้ไม่แต่งเครื่องแบบทหาร ใส่เพียงสโหร่ง และนักพักผ่อนอยู่บริเวณด่านตรวจและตามต้นไม้ แต่พบว่ายังมีการพกอาวุธปืนประจำกาย และอยู่ภายในรั้วของด่านพรมแดนเมียวดี ซึ่งทางการเมียนมาได้สั่งปิดด่านที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่2 ในช่วงเที่ยงของวันนี้ และมีการประสานทางการไทยเพื่อขอให้ทหารหนีทัพเหล่านี้ข้ามมายังประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย



หลังจากเมียนมาปิดด่านเมียวดีแห่งที่ 2 ทำให้รถบรรทุกสินค้าไม่ต่ำกว่า 20 คัน ติดค้างอยู่ที่ด่านพรมแดนแม่สอด 2 นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปติดตามสถานการณ์และประชุมหารือ แต่ไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปภายหลัง จึงยังไม่มีความชัดเจนใดๆจากหน่วยราชการในพื้นที่ เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง



ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร พร้อมรถลาดตระเวน วางกำลังติดตามสถานการณ์ริมแม่น้ำเมย ใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาอย่างเข้มข้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนในฝั่งไทยหากมีการปะทะบริเวณชายแดน เพราะด่านพรมแดนฝั่งเมียวดี ซึ่งทหารพม่าที่หนีทัพพักอยู่นั้น อยู่ติดกับริมแม้ำน้ำเมยไม่มาก



ส่วนที่ด่านพรมแดนแม่สอด 1 ยังคงเปิดปกติ ชาวเมียนมาเดินทางเข้ามาฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้จำนวนลดลงกว่าเมื่อวาน มีพบเป็นครอบครัวที่มีเด็กและผู้สูงอายุ โดยทางฝ่ายปกครองมีการตรวจสิ่งของป้องกันการพกพาสิ่งผิดกฏหมายหรืออาวุธ ในขณะที่ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ซึ่งติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังคงผลักดันข้อเสนอให้เมียวดีและแม่สอดเป็นพื้นที่ปลอดภัย หรือSafty zone ตามนโยบายระเบียงมนุษยธรรมและระเบียงสันติภาพตามที่เสนอต่อรัฐบาล ยิ่งสถานการณ์ล่าสุดรัฐบาลต้องมีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน



โดยเฉพาะการรับมือกับผู้ลี้ภัยสงคราม ที่นอกจาพลเรือนแล้ว ยังมีทหารที่ตกเป็นเชลยศึกและครอบครัวกว่า 600 คน ซึ่งยังอยู่ในการดูแลของกองกำลังผสมและล่าสุดทหารพม่าหนีทัพอีกกว่า 100 นาย รัฐบาลไทยสามารถทำตามกฏหมายมนุษยธรรมได้ แต่ต้องโปร่งใส และทหารเลห่านั้นต้องปลดอาวุธเป็นพลเรือนแล้วเท่านั้น



ล่าสุดข่าว 3 มิติ ตรวจสอบทหารพม่าหนีทัพ ยังคงอยู่ที่ด่านเมียวดี 2 แต่พบจำนวนบางตาลง บางส่วนพบกำลังนำโต๊ะไม้มาวางเหมือนบังเกอร์เล็กๆ เป็นที่กำบัง และพบการทำหลุมหลบภัย เพื่อป้องกันเฝ้าระวัง เนื่องจากมีแนวโน้มสูงที่จะถูกโจมตีจากกองกำลังผสม เพราะทหารกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ แม้ฐานทหารพม่าจะถูกยึดไปหมดแล้ว จึงเหลือทหารกลุ่มนี้ที่มาใช้ด่านเมียวดี 2 เป็นฐานที่มั่นใหม่ จึงกลายเป็นเหตุผลที่กองกำลังผสมยังยึดเมืองเมียวดีไม่ได้เบ็ดเสร็จ และทำให้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เครือข่ายปฏิรูปการโยกย้ายถิ่นฐาน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เรียร้องให้รัฐบาลไทยเตรียมความพร้อมต่อการหลบหนีความรุนแรงของชาวเมียนมาทั้งในส่วนประชาชนทั่วไป รวมถึงเชลยศึกและทหารหนีทัพ ที่ไทยต้องทำตามกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ



ส่วนในเมืองเมียวดี แม้ทางกองกำลังผสมจะยังไม่ประกาศชัยชนะปักธงชาติกะเหรี่ยงได้ตามเป้าหมาย แต่บรรยากาศในเมืองถือได้ว่ากองกำลังผสมสามารถดูแลพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว เราพบรถลาดตระเวนของทหารกองกำลังผสม KNA หรือ BGF,DKBA และกองทัพประชาชน PDF ซึ่งมีทหารหญิงที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเข้ามาฝึกทหารกับกองทัพกะเหรี่ยงมาร่วมปฏิบัติการยึดเมียวดีครั้งนี้ด้วย ขณะที่ประชาชนในตัวเมืองเมียวดี ยังคงเปิดร้านค้า และยังอยู่ตามบ้านเรือนเป็นส่วนใหญ่ โ



โดยพร้อมอพยพหากเกิดเหตุรุนแรง ซึ่งการเตรียมพร้อมคลื่นผู้อพยพเป็นข้อเสนอของเครือข่ายปฏิรูปการโยกย้ายถิ่นฐาน ที่เสนให้กระทรวงการต่างประเทศตั้งคณะทำงานพิเศษ ที่มีหนวยงานรัฐ องค์กรระหว่างประเทศและภาคประชาชสังคมเข้ามีส่วนร่วม ให้กระทรวงมหาดไทยตั้งศูนย์สั่งการชายแดนเร่งรัดการทำงานด้านมนุษยธรรม ให้นายกรัฐมนตรีกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจและทหารดำเนินการตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและอุ้มหาย ห้ามผลักดันกลับไปสู่อันตราย ตามกติการะหว่างประเทศและให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมรับมือผู้อพยพด้วย