สังคม

ล่าแก๊งทาสยานรก ออกตระเวนขโมย 'องค์พระพรหม' ทั่วอำเภอ จับได้แล้ว 2 ยังหนีอีก 2

โดย weerawit_c

7 เม.ย. 2567

76 views

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 6 เม.ย.67 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก. , พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง.ผกก.สส. ,พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ลงพื้นที่ บ้านยังเพิงพักชั่วคราว หลังวัดกระทิงลาย หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเชิญตัว นางสาว วราภรณ์ ยมนา อายุ 34 ปี และ นายธันวา สาทช้อย อายุ 34 ปี มาทำการสอบสวน


หลังตำรวจได้หลักฐานสำคัญ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าทั้ง 2 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับก่อเหตุขโมย องค์พระพรหม 4 หน้าที่ตั้งประดิษฐาน ตามศาลหน้าสถานที่สำคัญ ในพื้นที่ ของอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี สืบเนื่องมาจาก ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม - วันที่ 3 เมษายน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งความจาก ผู้เสียหายหลายราย อาทิ คลังสินค้ายี่ห้อดัง ( อดิดาส-พูม่า ) , บริษัทรักษาความปลอดภัย , บริษัทออกแบบสิ่ง-รับเหมาก่อสร้าง , ร้านค้า , โรงงาน รวม 6 ราย เข้าแจ้ง ว่า รูปหล่อทองเหลือ องค์พระพรหม ที่ตั้งประดิษฐาน อยู่ในศาลพระพรหม หน้าสำนักงาน ได้หายไปอย่างลึกลับ


โดยภาพกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน มีทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิง ใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง และ รถจักรยานยนต์ ใช้ในการก่อเหตุ ต่อมาชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว และ ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีไปยัง เพิงพักชั่วคราว หลังวัดกระทิงลาย จึงนำกำลังไปควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยทันที ก่อนจะสามารถควบคุมตัว นางสาว วราภรณ์ ยมนา อายุ 34 ปี ชาว จ.ลำปาง และ นายธันวา สาทช้อย อายุ 34 ปี ชาว จ.ลพบุรี เบื้องต้น ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่า ปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน ตำรวจสอบสวน นายธันวา สาทช้อย อายุ 34 ปี ชาว จ.ลพบุรี ให้การรับสารภาพว่า นายหำ อายุ 35 ปี สามีของ นางสาววราภรณ์ ยมนา เป็นหัวโจกในเรื่องการหายไป องค์พระพรหม ในสถานที่ต่างๆ โดยเป็นคนวางแผนและนำทีมไปก่อเหตุขโมย องค์พระพรหม ซึ่งคนที่ไปก่อเหตุ จะมี นายหำ ( ยังหลบหนีอยู่ ) , นายเทพ ( ยังหลบหนี ) และ นายธันวา สาทช้อย โดยจะใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วง 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ 1 คัน ออกตระเวณหาเหยื่อตามที่สถานต่างๆ พอสบโอกาส ก็จะยกองค์พระพรหม ซึ่งตั้งอยู่ในศาลออกมาทั้งองค์


จากนั้นจะนำไปเผา-ลนไฟให้ร้อนจัด จนทองเหลืองร้อนเป็นสีแดง จากนั้นจะใช้ขวานทุบ จนองค์แตกเป็นชิ้นๆ แล้วรอให้เย็น เก็บใส่กระสอบ นำไปขายร้านของเก่าได้ กิโลกรัม ละ 200 บาท พอได้เงินมาจะนำมาแบ่งกัน ตกคนละพันกว่าบาท และ ซื้อยาไอซ์ เสพ ต่อมา ตำรวจมีการคุมตัว นายธันวา สาทช้อย ไปยึดของกลาง โดยสามารถยึดขวานเหล็ก ที่ใช้ในการทุบ องค์พระพรหม จำนวน 1 ด้าม รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ 1 คัน และ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีแดง-ดำ 1 คัน และตามไปยึดเศษองค์พระพรหม ซึ่งแผ่นทองเหลือง ถูกทุบแตกเป็นชิ้นๆ ในร้านรับซื้อของเก่า ได้จำนวนหนึ่ง


โดยตำรวจ พยายามสอบถาม นายธันวา สาทช้อย ว่าไม่กลัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเล่นงานหรือ เจ้าตัว ตอบว่า ส่วนใหญ่คนที่ ยกและทุบ องค์พระพรหม คือ นายหำ ซึ่ง นายหำ จะบอกว่า การนำองค์พรหม ไปเผา หรือ ลนไฟ จนองค์พรหม เป็นสีแดง ถือว่าเป็นการทำลายพลังขององค์พระพรหม แล้วจะทำให้ทุบแตกอย่างง่ายดาย แต่ก็มีเรื่องประหลาดอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปก่อเหตุที่ บริษัทฯออกแบบและรับเหมาก่อเหตุ ที่ย่านซอยหนองกระบอก ใกล้กับข้างทางรถไฟ ตอนแรก จะไปก่อเหตุยกองค์พระพิฆเนศ สามคนพยายามช่วยกันยก - ยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น ใช้ขวานทุบก็ทุบไม่แตก จึงเปลี่ยนแผน ไปยกองค์พระพรหม


พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น ได้จับกุม นางสาว วราภรณ์ ยมนา และ นายธันวา สาทช้อย ในข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( ยาไอซ์ ) โดยผิดกฎหมาย ส่วนคดีขโมยพระองค์พระพรหม อยู่ในระหว่าง รวบรวมหลักฐาน ในการขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับ รวมถึงตัวการใหญ่ คือ นายหำ และ ลูกสมุน คือ นายเทพ ซึ่งยังหลบหนีอยู่ ส่วนในพื้นที่ สภ.บางละมุง มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ 6 ราย และยังไม่มาแจ้งความอีกหลายราย


นอกจากนี้ ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา และ สภ.หนองปรือ มีการแจ้งความในลักษณะเดียวกันอีกหลายองค์ เบื้องต้น มี องค์พระพรหม ของห้างแห่งหนึ่ง ( โลตัส ) , แฟลตตำรวจ สภ.เมืองพัทยา , ตลาดสดย่านเทพประสิทธิ์ ( รัตนากร ) แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองพัทยา และอยู่ในระหว่างการประสาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


https://youtu.be/6Ve8FS60H4Q

คุณอาจสนใจ

Related News