‘จั๊กกะบุ๋ม’ แจ้งความกลับ ปัดเบี้ยวหนี้ ‘แม่ค้าปู’ แจงไม่เคยคิดหนี โบ้ยเป็นเรื่องเข้าใจผิด

“จั๊กกะบุ๋ม” ขึ้นโรงพักแจ้งความ หลังถูก “แม่ค้าปู” ขึ้นป้ายทวงหนี้ ค่าปูนาดองและอ่องมันปู เกือบ 3 แสนบาท กลางห้างดัง โบ้ยเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยันไม่หนี ทยอยคืนหลัง 2 เมษานี้ พร้อมกราบขออภัยเจ้าหนี้ทุกคนที่ตนมีปัญหาเรื่องเงิน

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 โพสต์ระบุข้อความว่า “ดรามาป้ายทวงหนี้จากคุณป้าคนหนึ่งมาทวงหนี้โดยการนำป้ายมาแขวนไว้ที่บูธจัดงานในห้างดัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และให้ถอดป้ายออก รปภ.บอกว่า ป้าเขาเดินไปยืนถือป้ายที่หน้าห้างอีก เหตุวันนี้ 30-3-67 ประมาณ 3 ทุ่ม สดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ”

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหน้าป้ายรถเมล์ห้างดังกล่าว พบกับ นางรชต คำรอด หรือป้าปูนา อายุ 50 ปี พร้อมกับป้ายทวงหนี้ระบุข้อความว่า “ได้โปรดเมตตาคืนเงินค่าสินค้าให้เราด้วยเถอะ เงิน 284,400 บาท สำหรับบางคนอาจจะไม่เยอะ แต่สำหรับครอบครัวของเรามันคือลมหายใจ 4 ชีวิต”

นางรชต เล่าว่า ตนเดินทางมาจากพระราม 2 สาเหตุที่ตัดสินใจนำป้ายมาติด เพราะนักแสดงตลกจักกะบุ๋มได้ขอผลัดวันจ่ายเงินค่าสินค้าการขายส่งปูนาดองและอ่องมันปูให้ 10 กว่ารอบแล้ว รวมยอดเงิน 284,400 บาท โดยตนส่งของให้รอบแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 เป็นปูนาดอง 100 กระปุก เป็นเงิน 8,000 บาท และทยอยๆ ส่งให้เรื่อยๆ ทั้งปูนาดองและอ่องมันปู ยอดเงินส่งให้ครั้งละหลักพันถึงหลักหมื่น แต่เขาไม่เคยจ่ายเลย

จนกระทั่งวันสุดท้ายที่ตนส่งของให้คือวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ยังไม่ได้เงินซักบาท และเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ตนได้มาทวงเงินกับจั๊กกะบุ๋ม จำนวน 8,600 บาท เพราะต้องการนำเงินส่วนนี้ไปเป็นทุนซื้อของเพื่อมาทำขายต่อ แต่ก็ไม่ได้ และที่เชื่อใจยอมส่งสินค้าให้ไปขาย โดยไม่เก็บเงินมัดจำล่วงหน้า เพราะมองว่า เขาเป็นดารานักแสดงเลยไม่คิดว่าจะถูกโกง

ต่อมาตนได้ไปหาพี่หม่ำ จ๊กมก เพื่อขอให้เข้ามาช่วยเจรจากับทางจั๊กกะบุ๋ม แต่พี่หม่ำแนะนำว่า ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีเลย เพราะแบบนี้มันโกงกันเห็นๆ ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินคดี และอยากฝากถึงจั๊กกะบุ๋มว่า อยากให้ช่วยทยอยจ่ายเงินในส่วนนี้มา เพราะตอนนี้ไม่มีเงินที่จะไปซื้อของมาทำขายแล้ว และที่บ้านยังมีอีก 4 ชีวิตที่ตนต้องดูแล และล่าสุดเขาก็ยังมาโพสต์เฟซบุ๊กว่าไปแจ้งความแล้ว

ด้าน นายนรเศรษฐ์ ชงทรงกลด หรือ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ป้าคนดังกล่าวตนขอเรียกว่าแม่ก็แล้วกัน โดยรู้จักกับแม่ก่อนหน้านี้ตามงานแสดงสินค้าต่างๆ และทางแม่ก็ได้ทักแชทเข้ามาหาตนทางเฟซบุ๊ก ว่าจะขอเสนอทำสินค้าให้ตน 2 แบบ มีอ่องมันปูและปูนาดอง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 66 แต่จะให้จ่ายเงินเป็นรอบๆ ไป หลังได้รับสินค้าและขายหมดแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นการเข้าใจผิด เรื่องการสื่อสารอาจจะคลาดเคลื่อน ที่ผ่านมาคุณแม่เองก็ไม่เคยแจ้งรายละเอียดข้อมูลราคาสินค้าที่ส่งมาให้ตนเลย อยู่ๆ ก็มาบอกว่า ตนติดหนี้ค่าของอยู่เป็นแสนๆ แล้ว ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ตนยังไม่ขอเปิดเผยแล้วกัน และเชื่อว่าเราทั้งสองฝ่ายต่างรู้กันดีอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการคุยกันตลอดทั้งโทรศัพท์คุย และทั้งแชทคุยกัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ทางคุณแม่เองก็เข้ามาหาตนที่ร้านและได้มีการเจรจากันว่าจะรอให้จบงานวันที่ 2 เม.ย.นี้ ก่อนจึงจะจ่ายเงินได้ ส่วนยอดเงิน 284,400 บาท ตนยังไม่รู้ว่าจริงๆ ตนติดหนี้แม่ตามยอดนี้รึเปล่า เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นรายละเอียด หรือราคาของที่สั่งไปเลย

ทั้งนี้ นายจั๊กกะบุ๋ม กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนที่ตนเดินทางมาแจ้งความก็เพื่อเป็นหลักฐานว่าตนไม่ได้หลบหนี หรือมีเจตนาเบี้ยวหนี้แต่อย่างไร

https://youtu.be/vAyZ7O0ZuV8