วัยรุ่นขี่จยย.ซ้อนสาม หักหลบรถจอดรอกลับรถ เสียหลักกระเด็นเข้าใต้ท้องรถพ่วงถูกทับดับ 2 เจ็บ 1

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 มีนาคม 2567 ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ชาวดอน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถบรรทุกก่อนถูกทับซ้ำเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดจุดกลับรถหน้าบริษัทโตโยต้า ถนนสุขุมวิทขาเข้าปากน้ำ ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน บริเวณช่องทางขวาสุด ซึ่งเป็นช่วงจุดกลับรถ พบผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 17 ปี 2 ราย โดยรายแรกบริเวณใบหน้ามีรอยถูกล้อรถทับจนใบหน้าบิดเบี้ยวเลือดสาดกระจาย รายที่สองมีบาดแผลแตกที่ศีรษะ และแผลตามร่างกาย นอนหงายจมกองเลือด

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย อาการสาหัสอีก 1 ราย ทราบชื่อ นายอิทธิกร อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพล้มคว่ำพังเสียหาย ห่างออกประมาณ 100 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 14 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนฉะเชิงเทรา หางพ่วงฉะเชิงเทรา จอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ริมถนน ส่วนคนขับชื่อนายสุพจน์ อายุ 38 ปี ยืนรอให้การอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม ส.ต.ต.อนันต์ พรหมมานพ ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ซ้อนสามด้วยความเร็ว มาตามช่องทางขวาสุด มุ่งหน้าปากน้ำ กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดกลับรถ มีรถกระบะกำลังรอกลับรถอยู่ ระหว่างนั้นคาดว่าคนขี่เบรกไม่ทัน จึงหักหลบเบี่ยงออกไปช่องทางซ้าย ก่อนที่จะเสียหลักเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกจนเสียรถเสียหลักล้มกระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถก่อนถูกล้อพ่วงทับซ้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว

ส่วนทางด้านนายสุพจน์ กล่าวว่า ขณะที่ตนเองขับรถพ่วงเพื่อนำของไปส่ง ขับมาช่องเลนกลาง ระหว่างนั้นตนเองเห็นว่ามีรถกระบะไม่ทราบรุ่น กำลังรอกลับรถ เพื่อมุ่งหน้าไปสำโรง ระหว่างนั้นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ขี่มาด้วยความเร็ว คาดว่าเบรกไม่ทันเฉี่ยวท้ายรถกระบะ จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มกระเด็นเข้าไปท้องรถพ่วง จนถูกล้อหลังทับเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และสอบสวนพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับจะได้ติดตามรถกระบะคันดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป