สังคม

ฝรั่ง-เมียคนไทย ไหว้ขอโทษ ยันสะดุดล้มไม่ตั้งใจเตะ - 'หมอปาย' ลั่นยินดีรับคำขอโทษ หากมาจากความจริงใจหรือจิตสำนึก

โดย weerawit_c

2 มี.ค. 2567

122 views

ความคืบหน้ากรณีแพทย์หญิงธารดาว  จันทร์ดำ อายุ 26 ปี  ร้องเรียนว่า ถูกนายเดวิด อายุ 45 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์  ทำร้ายร่างกาย เตะเข้าที่หลังอย่างแรง เพราะไม่พอใจที่คุณหมอกับเพื่อนหญิง ไปนั่งเล่นที่บันไดขั้นสุดท้ายของวิลลาหรู ริมชายหาดสาธารณะ  จ.ภูเก็ต  และยังถูกภรรยาชาวไทยของคู่กรณี ด่าทอหยาบคาย อ้างว่ามีลูกเป็นตำรวจ รู้จักนายตำรวจใหญ่ และข่มขู่คุณหมอกับเพื่อน ทำให้คุณหมอกลัวว่าตนเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และต่อมา ชายต่างชาติคู่กรณีและทนายความ ออกมาชี้แจงภายหลังว่า ไม่ได้เตะหรือถีบคุณหมอ แต่สะดุดล้มแล้วไปโดนคุณหมอ  จนกระทั่งมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ชายต่างชาติเป็นคนถ่ายคลิปเอง จนเกิดการตั้งคำถามในสังคมอย่างกว้างขวางว่า เป็นการสะดุดล้มจริงๆหรือ


เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.67) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) อ.เมือง  จ.ภูเก็ต  นายเดวิด และนางทราย ภรรยาชาวไทย  พร้อมกับทนายความ  เข้าพบนายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  โดยการเข้าพบครั้งนี้ มีนักธุรกิจชาวไทยช่วยประสาน พานายเดวิดกับภรรยาเข้ามาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อชาวไทยทั้งประเทศ และต่อคุณหมอผู้เสียหาย


นายเดวิด หรือนาย Urs Beat Fehr อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์ ได้กล่าวขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ ผ่านทนายความ ระบุว่า อยากขอโทษคุณหมอและคนไทยทุกคน ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจมาก  เพราะตนรักเมืองไทยมากและสนับสนุนคนไทยทุกคน   แม้ว่าตนจะเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ตนคิดว่าเมืองไทยคือบ้าน จึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุบานปลายขนาดนี้  


นายเดวิด  เล่าย้อนไปในคืนวันเกิดเหตุ ที่เห็นคุณหมอกับเพื่อนผู้หญิงมานั่งที่บันไดวิลลา ตอนนั้นคิดว่ามีคนบุกรุกพื้นที่ “ที่คิดว่าเป็นพื้นที่ของตน” จึงอัดคลิปวีดีโอไว้เพื่อจะส่งไปให้เจ้าของโครงการดูว่าถูกบุกรุก  เพราะที่ผ่านมานั้น เคยมีคนบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของตนทุกสัปดาห์  ซึ่งล่าสุด ก็เพิ่งเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน 7-8 คน บุกรุกเข้ามาที่สนามหญ้าและสระว่ายน้ำภายในวิลล่า ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของตนกับภรรยา ตนจึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองและภรรยา เมื่อเห็นคุณหมอกับเพื่อน  ก็คิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับนักท่องเที่ยวจีนที่มาบุกรุก  จึงอัดคลิปไว้และจะเดินไปไล่ แต่กลับสะดุดล้ม  


นายเดวิด ยืนยันซ้ำอีกว่า ตนเองสะดุดล้มจริงๆ โดยหลังเกิดเหตุได้ไปพบแพทย์และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่า ตนได้รับบาดเจ็บจากการสะดุดล้ม มีแผลเล็บฉีกที่นิ้วชี้เท้าข้างซ้าย พร้อมกับโชว์ภาพบาดแผลให้ดูด้วย


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามลื่นล้มแล้วทำไมไม่ขอโทษคุณหมอ นายเดวิดบอกว่า เนื่องจากตนเจอกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมาก่อนหน้านี้ แล้วมาเจอคุณหมอกับเพื่อนอีก จึงคิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ทำให้โมโห เพราะคิดว่าถูกบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวหลายครั้งแล้ว พร้อมกับโชว์เอกสารในโทรศัพท์มือถือ ที่ส่งถึงเจ้าของวิลล่า เพื่อร้องเรียนว่ามีคนบุกรุก  แต่นายเดวิดยืนยันว่า  ไม่ได้พูดเหยียดว่าเป็นคนไทยพื้นถิ่น  จากนั้นนายเดวิดก็ยกมือไหว้ขอโทษด้วยใบหน้าเศร้า


ขณะที่นางทราย ภรรยาชาวไทยของนายเดวิด ก็ยกมือไหว้ขอโทษคุณหมอเช่นกัน  และบอกว่า ตนเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนบุกรุกเข้ามาที่สระว่ายน้ำ ในขณะที่ตนว่ายน้ำอยู่คนเดียว ทำให้ตนตกใจมาก และกลัวว่า หากวันไหนตนอยู่คนเดียว สามีไม่อยู่ แล้วมีคนบุกรุกเข้ามา ตนจะได้รับอันตรายหรือไม่  จนวันเกิดเหตุ ช่วงกลางคืน มาพบว่ามีคนเข้ามานั่งตรงบันไดวิลล่า  ก็เลยเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน  จึงพูดอะไรหลายอย่างไปด้วยความโกรธ แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ข่มขู่ว่าจะยิง เพียงแต่พูดไปว่า รู้จักกับตำรวจใหญ่  ซึ่งตนก็รู้จักกับตำรวจระดับท่านรองจริงๆ  แต่ตอนนั้นแค่พูดไปด้วยความโมโหเท่านั้น และโทรแจ้งตำรวจเพื่อให้มาดูเหตุการณ์จริง  ส่วนลูกชายนั้น ก็เป็นตำรวจยศนายสิบ อยู่โรงพักหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต


“ส่วนประเด็นว่า พูดหรือไม่ว่า คนไทยขอโทษต่างชาติได้ แต่ต่างชาติขอโทษคนไทยไม่ได้ จำไม่ได้จริงๆ ว่า พูดหรือไม่ เบลอๆ เพราะถูกปลุกขึ้นมากลางดึก  ตอนนี้รู้สึกผิดมากๆ และยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง กราบขอโทษคุณหมอสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ตอนนั้นตนไม่คิดว่าเป็นคุณหมอ  และตอนนั้นทั้งโกรธและกลัว  ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ จะให้ตนรับผิดชอบยังไงก็ยอม”


ด้านทนายความของสองสามีภรรยา บอกว่า ตนในฐานะทนายความ ก็พูดบนหลักฐานและพยานในที่เกิดเหตุทั้งสิ้น ส่วนตัวเชื่อว่ามุมกล้องในคลิปวิดีโอที่นายเดวิดนำมาแสดงนั้น เชื่อได้ว่าเป็นการสะดุดหกล้มจริงๆ  พร้อมกับอธิบายเรื่องข้อกฎหมายให้ทั้งสองคนรับทราบแล้วว่า ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับคุณหมอในข้อหาบุกรุกได้ เพราะทั้งสองคนมาเช่าพื้นที่ ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ และในขณะที่เกิดเหตุนั้น นายเดวิดก็ไม่รู้ว่า บริเวณบันไดตรงนั้นเป็นส่วนของพื้นที่ที่ตนเช่า หรือ เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเมื่อแจ้งรายละเอียดดังนี้ ทั้ง 2 คนก็ไม่ประสงค์จะแจ้งความข้อหาบุกรุกต่อคุณหมอแล้ว พร้อมกับแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งที่กระทบกระทั่งกับจิตใจของคุณหมอ กระทบกับจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ  


ทนายความกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กฎหมายไทยคุ้มครองทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะคนไทยหรือคนภูเก็ต  แต่รวมไปถึงคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยด้วย  โดยนายเดวิดถูกแจ้งข้อกล่าวหา  ก็มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้ทางกฎหมาย แสดงพยานหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ในแง่ศีลธรรมถ้าเป็นตนเองนั้น เวลากระทบกระทั่งกับใครโดยไม่เจตนา ตนเองจะขอโทษ ส่วนตัวนายเดวิดอาจจะยึดถือหลักกฎหมายเป็นหลักหรือไม่นั้น เขาอาจคิดว่าไม่มีความผิดเกิดขึ้น  แต่การมาในครั้งนี้ นายเดวิดอยากออกมาขอโทษสังคมและชาวไทยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ยอมที่จะลดอีโก้ลงแล้วออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ไปยึดตามบทหรือหลักของกฎหมายเพียงอย่างเดียว วันนี้เขาน่าจะได้รับบทเรียนกับเหตุการณ์นี้แล้ว


ส่วนประเด็นเรื่องของปางช้างและมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง  นายเดวิดและภรรยา  ชี้แจงว่า ต้องแยกระหว่างปางช้างกับมูลนิธิ โดยมูลนิธินั้น ได้ขออนุญาตจัดตั้งอย่างถูกต้อง  เกิดจากในช่วงโควิด-19 ระบาด นายเดวิดเห็นว่าช้างเหล่านี้ไม่มีจะกิน จึงคิดโครงการช่วยเหลือ ทั้งเรื่องอาหารและความเป็นอยู่ จึงจัดตั้งมูลนิธิช้างขึ้นมา ใช้เงินส่วนตัวดูแลทั้งหมด  และมูลนิธิไม่ได้มีรายได้ ไม่มีเงินบริจาค   ส่วนปางช้างนั้น เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมในราคาหัวละ 2,500 บาท เด็ก 1,500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมทั้งค่ารถรับส่ง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมกับช้าง โดยมีช้าง 15 ตัว ซึ่งยินดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ


ด้าน แพทย์หญิง ธารดาว ให้สัมภาษณ์หลังคู่กรณีชายชาวต่างชาติและภรรยา ยกมือไหว้ขอโทษออกสื่อว่า ส่วนตัวตนเองยอมรับคำขอโทษไว้ หากเป็นการขอโทษที่มาจากความจริงใจ จิตสำนึกลึก ๆ ของเขาก็ยินดีรับไว้ไม่ได้มีปัญหาอะไร  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็ว่ากันตามกฏหมาย ส่วนตัวได้โอกาสมีการดูการแถลงข่าวของคู่กรณีบางช่วงบางตอน


โดยเรื่องที่ว่าเท้าสะดุดล้มนั้น นิติวิทยาศาสตร์เป็นตัวที่บอกได้อยู่แล้วว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง ส่วนตัวก็ยังยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสะดุดล้ม  เป็นการเข้ามาเตะตนเอง  สำหรับประเด็นที่ภรรยาของชาวต่างชาติอ้างหวาดกลัว เพราะก่อนหน้ามีชาวจีนเดินเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว ตนมองว่าถ้าไม่อยากให้คนนั่งอยู่หน้าบ้านส่วนตัวจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดู แต่หากเห็นว่าเป็นผู้หญิงสองคน ก็อาจสอบถามดี ๆ หรือเดินเข้ามาบอกก็ได้ว่าไม่อยากให้นั่ง


ส่วนประเด็นเรื่องการพูดภาษาไทยนั้น หมอปาย บอกว่า คู่กรณีเข้ามาอยู่บนพื้นแผ่นดินไทย คิดว่าน่าจะซึมซับอะไรบ้างเพราะเขาบอกกับคุณหมอว่าเขาพูดไทยได้  ซึ่งทางตัวชายชาวต่างชาติพูดกับตนเองในคืนนั้นว่า I can speak Thai ,so you are local Thai เพราะฉะนั้นยืนยันว่าฝ่ายคู่กรณีพูดว่า “local Thai” จริง ๆ และมีการพูดภาษาไทยกับคุณหมอด้วยเช่น “you รู้ไหม you trespass ติดคุกนะ you ติดคุก”


ส่วนการเตะ ฝ่ายคู่กรณียอมรับกับแฟนของคุณหมอว่าเตะจริง  โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่แฟนคุณหมอตามมา แล้วถามว่า Why you kick the women ? Are you afraid of her? ชายคู่กรณีก็ตอบว่า “ it was just an easy kick. if it was you I do much worst” ซึ่งหมายความว่าเขาแค่เตะเบา ๆ เอง ถ้าเป็นคุณ (หมายถึงแฟนคุณหมอ) เขาทำมากกว่านี้อีก  


จริง ๆ เรื่องนี้มันพูดกันดี ๆ ได้ โดยคืนเกิดเหตุตนยื่นข้อเสนอให้คู่กรณี 3 ข้อ คือ 1.ต่างคนต่างขอโทษแล้วก็จบไป 2.ต่างคนต่างไม่ขอโทษกันจะยึดอีโก้เป็นหลักก็แล้วแต่ แล้วแยกย้ายเพราะตนก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรกับเขา 3.ต่างคนต่างไม่ขอโทษกันแล้วไปแจ้งตำรวจ ทุกคนรู้เมื่อเห็นคลิป 17 วินาที ที่เผยแพร่ออกมา เพราะลักษณะการเตะและสะดุดล้มไม่เหมือนกัน คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวเขา ถ้ารู้สึกสำนึกจริง ๆ น่าจะพูดความจริงออกมา


หมอปาย ยังบอกอีกว่า การออกมาแถลงข่าวของเขาที่บอกว่าเป็นการสะดุดล้มหรือประเด็นอะไรต่าง ๆ ก็ตาม คนที่ตัดสินไม่ใช่คุณหมอ  แต่เป็นศาลก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะคนที่โดนกระทำลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน  เพราะจะมีบาดแผลในจิตใจ หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนยังไม่กล้าไปที่จุดเกิดเหตุ  หรือตอนไปชี้จุดก็ยังมือสั่น เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกายอีก ยอมรับว่าเครียดกังวลจนน้ำหนักลด 2-3 กิโล การทำร้ายร่างกายไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ยอมรับอยู่แล้ว  


ท้ายสุด หมอปาย ฝากถึงคู่กรณี เป็นภาษาอังกฤษว่า  “Hello so I’m the one that you prefer as the thai girl . I am actually local hhai girl who live in Phuket I live nearby. I thought we had a neighbor and I think you came and stay in thailand for very long time. I think we should live respect not racism used your wife privilege. And if you like to say sorry because we both don’t know what happening that day. If you’re sorry from the bottom of your heart, I think you should speak the truth because people deserve to know the truth and please live with thai nicely. Because we nice to you is not mean to them cause you rich , have power in Thailand have the back in thailand. in Thailand we didn’t accept something like this.  


นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่กล่าวหานักท่องเที่ยวจีนว่าบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งทางเพจลุยจีน เพจที่นำเสนอเรื่องราวความเคลื่อนไหว ไวรัลต่างๆ ในประเทศจีน ได้โพสต์ถึงกรณีนี้ว่า


“ฝรั่งเตะหมอ แถลงทางการนึกว่าหมอกับเพื่อนเป็น นทท.ชาวจีน ที่มาบุกรุก 2 อาทิตย์ก่อน แย่ยิ่งกว่าเดิมอีก ทัวร์ไทยไม่พอ จะรับทัวร์จีนอีก 555555”



https://youtu.be/b9uNIQNS4RM

คุณอาจสนใจ

Related News