สังคม

พ่อวัย 72 สุดทน ร้องถูกลูกชายติดเหล้า-ยาเสพติด ทำร้ายร่างกายต่อเนื่องนับ 10 ปี

โดย passamon_a

22 ม.ค. 2567

341 views

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 นายวิเชฐ อายุ 72 ปี พร้อมกับลูกสาวและลูกชาย มาร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีถูกลูกชายอีกคน ชื่อ นายเทพษฎากร วัย 39 ปี ทำร้ายร่างกายมาอย่างยาวนานนับสิบปี เนื่องจากลูกคนนี้ติดสุราและยาเสพติดอย่างหนัก เมื่อดื่มสุรามักจะมีอารมณ์รุนแรงและทำร้ายร่างกายพ่อเป็นประจำ โดยมีคลิปกล้องวงจรปิดบันทึกภาพการก่อเหตุหลายครั้ง หลายเหตุการณ์


อย่างวันที่ 25 ก.พ.64 นายเทพษฎากร มาเกาะประตูเหล็กหน้าร้านชำ ด่าทอพ่อและพี่น้องด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพราะไม่พอใจที่ถูกบังคับให้บวชเณร หรืออย่างวันที่ 30 ม.ค.63 ที่มาก่อเหตุทำร้ายพ่อในร้านชำ โดยผลักพ่อจนล้ม ไปชนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ และยังเข้าไปต่อยและเตะพ่อด้วย


นอกจากนี้ยังมีคลิปที่ถ่ายไว้ ในช่วงที่นายเทพษฎากร น่าจะเมาเหล้าหรือหลอนยาเสพติด พูดจาไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา มีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง พ่อได้แต่นั่งกุมขมับ


ครั้งล่าสุดคือ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 นายเทพษฎากร บุกมาที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ พยายามเข้ามาทำร้ายลูกชายของนายเทพษฎากรเอง เนื่องจากมีอาการมึนเมา พี่สาวของนายเทพษฎากรพยายามเข้าห้าม แต่กลับถูกนายเทพษฎากรทุบศีรษะอย่างรุนแรง จากนั้นนายวิเชฐ ผู้เป็นพ่อ พยายามเข้าห้าม นายเทพษฎากรจึงผลักนายวิเชฐ จนล้มไปกระแทกกับขอบเหล็กชั้นวางของ ได้รับบาดเจ็บมีแผลเปิดบริเวณแขนซ้ายและรอยช้ำบริเวณแขนขวา ทางครอบครัวจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.วัดพระยาไกร แต่ตำรวจทำได้เพียงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ 48 ชั่วโมง แล้วก็ปล่อยตัวออกมา เมื่อออกมา นายเทพษฎากรก็พยายามเข้ามาก่อกวนที่บ้านอีก


นายวิเชฐ ผู้เป็นพ่อ บอกว่า เสียใจและช้ำใจมาก ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม กินเหล้า เสพยา อาละวาดแบบเดิม วนเวียนอยู่ซ้ำ ๆ ทำให้ร้านชำที่เปิดขายของอยู่อย่างไม่มีความสุข ค้าขายก็ขายไม่ได้ สงสารหลาน ๆ ที่ตนเองดูแลอยู่ เนื่องจากตนเองมีลูก 5 คน แต่ลูก ๆ คนอื่นมีครอบครัวแยกย้ายกันหมดแล้ว ที่บ้านอยู่กันเพียงเด็ก 2 คน คนแก่ 2 คน และลูกสาวอีก 1 คน กลัวว่าในอนาคตจะรุนแรงกว่านี้ ครอบครัวจะไม่ปลอดภัย จึงมาร้องเรียนกับสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยเหลือและดำเนินคดีลูกชายของตนเองให้ถึงที่สุด เพราะทุกคนในครอบครัวต้องอยู่อย่างหวาดระแวง


ด้าน นายบุญชัย ลูกชายอีกคนของนายพิเชฐ กล่าวว่า อยากให้เพจสายไหมต้องรอด มาช่วยเรียกร้องความเป็นธรรม ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับพี่ชาย เนื่องจากเมาเหล้า และติดยาเสพติดอย่างหนัก ทุกครั้งที่เมาก็มักจะอาละวาด ทำร้ายร่างกายพ่อของตนเอง ทำร้ายพี่สาว และทำร้ายลูกของนายเทพษฎากรเอง ซึ่งตัวหลานนั้น อาศัยอยู่ที่บ้านคุณปู่ (วิเชฐ) ส่วนนายเทพษฎากร ก็ให้ไปเช่าห้องพักอยู่อีกที่หนึ่ง เพราะถ้าอยู่บ้าน จะชอบอาละวาด ขโมยเงิน ทำร้ายร่างกายคนอื่น ปาขวดเบียร์เข้ามาในบ้าน ซึ่งมีพฤติกรรมต่อเนื่องแบบนี้มานานนับ 10 ปี


แม้ทางครอบครัวจะแจ้งความดำเนินคดีกับทาง สน.วัดพระยาไกร แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับไปขังเพียง 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมง แล้วก็ปล่อยตัวออกมา เมื่อออกมาแล้ว ก็มาก่อเหตุอาละวาด ทำร้ายร่างกายพ่อตนเองแบบเดิม เป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ


ทางครอบครัวจึงพยายามหาทางออก และเจรจาให้นายเทพษฎากร ไปอยู่ห้องเช่า โดยครอบครัวเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่นายเทพษฎากรก็ยังกลับมาอาละวาดทำร้ายคนในบ้านแบบเดิมอยู่ดี


นางสาวน้ำทิพย์ ลูกสาวของนายวิเชฐ เป็นพี่สาวนายเทพษฎากร กล่าวว่า บางครั้งตนเองไม่ได้ทำอะไรเลย นายเทพษฎากรก็เข้ามาทำร้ายร่างกาย ด้วยการเอามือทุบหัว เพราะเมายา ครอบครัวเคยให้โอกาสน้องชายคนนี้ แต่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อยากให้น้องรู้ว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย คนทำผิดจะต้องถูกลงโทษกับสิ่งที่ตนเองทำไว้  


ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ลักษณะแบบนี้ที่ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี จริง ๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้ ตำรวจสามารถนำตัวไปฝากขังกับศาลได้ โดยการไปนำเรียนกับศาลว่าพฤติกรรมผู้ก่อเหตุไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง กระทำการซ้ำ ๆ หลายครั้งกับพ่อของตนเอง ตำรวจต้องไปขอยกเลิกการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะถ้าปล่อยตัวมาผู้ก่อเหตุก็มากระทำการซ้ำ ๆ กับพ่อของตนเองที่ชราภาพแล้ว ปล่อยแบบนี้ไม่ได้ เพราะมีคลิปวงจรปิดเก็บหลักฐานไว้อย่างชัดเจน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/zz7A0MYBiGc


คุณอาจสนใจ

Related News