อาชญากรรม

ตร.เผยไทม์ไลน์ 'โยโกะ' ผลชันสูตรพบไซยาไนด์ในเลือด แม่ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย คาใจหลายข้อสงสัย

โดย passamon_a

14 ม.ค. 2567

1.2K views

จากเหตุการณ์ที่พบศพ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือ โยโกะ นางแบบพริตตี้สาวสวย นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพัก ชั้น 6 คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 มีผู้โพสต์แสดงความไว้อาลัยและเสียใจกับเหตุการณ์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย  


แต่ทางด้าน นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของโยโกะ ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว เนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ที่ไม่ได้การประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าที่เกิดเหตุโดยทันที และเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย


จนกระทั่งเหตุการณ์ผ่านมากว่า 2 เดือน ผลชันสูตรศพโยโกะ จากศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากภาวะพิษจากไซยาไนด์ โดยพบสมองบวมน้ำ ม้ามเลือดคั่ง ตับอ่อนเน่า และพบสารไซยาไนด์ปริมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร


เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 พล.ต.ต วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เรียกชุดสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว โดยประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จากข้อมูลที่รวบรวมมาทั้งหมด เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยจากพยานหลักฐานที่พบ ในวันพบศพ เวลา 2 ทุ่ม 45 นาที ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ผู้ตายนอนเสียชีวิตบนเตียง สภาพมีฟองอากาศสีขาวที่ริมฝีปาก ห่มผ้าครึ่งตัว ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และรอยรื้อค้นใด ๆ


ส่วนไทม์ไลน์ก่อนที่จะพบศพ พบว่าวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลา 5 ทุ่ม 45 นาที ผู้ตายได้ขับรถออกจากคอนโดเพื่อไปงานเลี้ยง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย โดยมีแฟนของผู้ตายวัย 38 ปี ร่วมงานเลี้ยงด้วย ระหว่างงานเลี้ยง เวลาตี 2 วันที่ 31 ตุลาคม ต่อเนื่องกัน ผู้ตายน้อยใจแฟนหนุ่ม เนื่องจากครอบครัวของแฟนหนุ่มได้โทรศัพท์เข้ามา จึงเกิดการทะเลาะกัน


ต่อมาเช้าวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 6 โมง 42 นาที ผู้ตายได้ขับรถกลับเข้ามาที่คอนโด เพียงคนเดียว ซึ่งตามวงจรปิดผู้ตายกดลิฟต์เวลา 6 โมง 43 นาที และเข้าถึงห้องพัก เวลา 6 โมง 45 นาที โดยไม่มีผู้ใดตามขึ้นไปด้วย และหลังจากนั้นก็ไม่เห็นผู้ตายปรากฏออกมาจากห้องพักอีกเลย


กระทั่งเวลา ตี 2 ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 แฟนหนุ่มติดต่อผู้เสียชีวิตไม่ได้ จึงตัดสินใจเดินทางมาที่คอนโด แต่ก็ขึ้นไปห้องพักไม่ได้ เพราะไม่มีคีย์การ์ด จึงตัดสินใจเดินทางกลับและกลับมาอีกครั้งช่วงเวลาประมาณตี 4 ซึ่งตำรวจตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า แฟนหนุ่มก็ไม่ได้ขึ้นไปบนห้องพักแต่อย่างใด


ต่อมาแฟนหนุ่มจึงตัดสินใจติดต่อญาติของผู้ตายให้เข้ามาที่คอนโดอีกครั้ง ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ของวันที่ 1 พฤศจิกายน ก่อนจะประสานให้นิติคอนโดช่วยพาขึ้นไปเปิดห้อง กระทั่งไปพบศพของผู้ตายนอนอยู่บนเตียง เมื่อตำรวจไปถึงได้แจ้งนิติเวช เข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่ได้ประสานพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากระหว่างพบศพ ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ตาย มีประวัติรักษาโรคซึมเศร้า ตั้งแต่ปี 2565 และตรวจสอบในห้องยังพบว่ามียากล่อมประสาทและยานอนหลับที่เกี่ยวกับการรักษาโรคซึมเศร้า อีกหลายเม็ด


อีกทั้งโน้ตโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ยังพบว่ามีการเขียนข้อความตัดพ้อและฝากถึงแฟนหนุ่ม ใจความคร่าว ๆ ว่า "ขอให้ Daddy ใช้ชีวิตได้ตามสบาย" ตำรวจจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต


แต่ในภายหลังแม่ของผู้ตายเริ่มติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว วันที่ 14 พฤศจิกายน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบห้องที่พบศพอีกครั้ง จนไปเจอไซยาไนด์บรรจุอยู่ในขวดขนาดเล็กเก็บไว้ในตู้เซฟภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงเก็บไปตรวจสอบ


กระทั่งผลการชันสูตรพลิกศพออกมาล่าสุด พบว่าเจอสารไซยาไนด์ในร่างของผู้ตาย ประมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งสามารถออกฤทธิ์ทำให้เสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที นอกจากนี้ ยังพบยากล่อมประสาทจำนวน 10 เม็ด อยู่ในร่างของผู้ตาย แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยทำให้เสียชีวิต


ส่วนข้อสงสัยเรื่องประตูหลังห้องพัก ที่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งสามารถเปิดทะลุเข้ามาที่ห้องของผู้ตายได้ พบว่าไม่ได้มีการล็อกประตู และบริเวณนั้นไม่ได้มีการติดกล้องวงจรปิด ชุดพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบลายนิ้วมือบริเวณประตูห้องพัก และบริเวณรอบ ๆ ไม่พบลายนิ้วมือแฝงของบุคคลอื่น นอกจากลายนิ้วมือของผู้ตาย ข้อมูลทั้งหมดตำรวจจึงเชื่อว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตจากการทำร้ายตัวเอง แต่ยังไม่ได้มีการตัดประเด็นอื่นทิ้ง


ส่วนร่องรอยเขียวช้ำตามร่างกาย ที่แม่ของผู้ตายและเพื่อนสงสัยนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นร่องรอยที่เคยทะเลาะกับแฟนหนุ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้


หลังจากนี้จะมีการเรียกแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อขยายขยายผลที่มาของไซยาไนด์ที่ตรวจพบ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอยู่ระหว่างประสานแม่ของผู้ตายให้มาฟังคำชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อแม่ของผู้ตายได้


ทีมข่าวได้คุยกับแม่ของโยโกะ คุณแม่บอกว่า แม่ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะจากสภาพศพของลูกสาวดูเรียบร้อยผิดปกติ คล้ายกับมีใครมาจัดฉาก


โดยเริ่มตั้งแต่การนอนห่มผ้า ตามปกติคนนอนหลับก็จะห่มขึ้นมาที่ตัวถึงหน้าอก หรือลำคอ แต่วันที่โยโกะเสียชีวิตกลับนอนห่มผ้าผิดปกติ โดยผ้าห่มพับลงไปที่ส่วนหน้าอกอีกครั้งหนึ่ง คล้ายกับการจัดผ้าห่มในโรงแรม ซึ่งแตกต่างจากคนนอนปกติ อีกทั้งสภาพของใช้ในห้องและขยะต่าง ๆ ก็ไม่มี ห้องเรียบร้อยผิดปกติ เหมือนไม่มีคนอยู่ในห้องนี้


ส่วนปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้า โยโกะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจริง แต่ก็ไม่ได้เป็นขั้นรุนแรงถึงขั้นฆ่าตัวตาย ยังยิ้มหัวเราะและพูดคุยกับครอบครัวได้เหมือนปกติ ส่วนเรื่องสารไซยาไนด์ที่เจอในตู้เซฟ แม่ก็ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะสั่งซื้อมาทานเอง เพราะลูกสาวไม่รู้จักกับสารอะไรเหล่านี้มาก่อน และไม่เคยมีท่าทีว่าจะฆ่าตัวตายหรือเครียดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง


ในอดีตมีเพียงเรื่องที่โยโกะ เคยถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย แล้วส่งรูปร่องรอยบาดแผลที่ถูกทำร้ายร่างกายไปให้เพื่อน และบอกให้เพื่อนเซฟเก็บไว้ ก่อนที่จะลบภาพนั้นออกจากมือถือตัวเอง


"ซึ่งแม่ไม่ได้ไปปรักปรำใคร แต่แม่ก็สงสัยหลายส่วน เพราะลูกสาวแม่ไม่มีท่าทีว่าจะฆ่าตัวตายแต่อย่างใด จึงอยากให้ตำรวจพิสูจน์ให้ได้ว่าลูกสาวแม่เสียชีวิตด้วยตัวเองหรือมีใครทำให้เสียชีวิต"


ส่วนเรื่องข้อความโน้ตที่พบในโทรศัพท์มือถือ แม้จะเป็นการพูดถึง และตัดพ้อถึงแฟนหนุ่ม แม่ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่น่าจะเป็นข้อความที่ลูกสาวเขียนขึ้นมาเอง


และประเด็นสำคัญคือกล้องวงจรปิดด้านหน้าห้องของโยโกะ หายไป 2 ชั่วโมง ซึ่งไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร และพยายามถามตำรวจแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ จึงทำให้แม่ค้างคาใจว่าการเสียชีวิตของลูกแม่มีพิรุธหลายอย่าง



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/7UvbcGlONYc

คุณอาจสนใจ

Related News