รวบหนุ่มเปิดบัญชีม้าขายให้แก๊งคอลฯ พบชื่อติดแบล็กลิสต์ หมายจับหลายท้องที่

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พ.ต.ท.หญิง วณิชยา ไชยปรุง สว.กก. 2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ชนิสรา หนองพิทักษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายธนิก อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น กระทำความผิดฐาน “ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”



และศาลหมายจับจังหวัดภูเก็ต กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”



โดยจับกุมได้บริเวณหน้าห้องพักบ้านเอื้ออาทรคลองถนน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร



สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่า นายธนิก เป็นบุคคลในบัญชีแบล็กลิสต์ โดยมีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีให้กับชายไทย (ไม่ทราบชื่อและสกุล ) เพื่อแลกกับเงินค่าจ้างเป็นเงิน 300 บาท ต่อ 1 บัญชี ต่อมาพบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาไปใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายในรูปแบบต่าง ๆ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกข่มขู่ให้ผู้เสียหายกลัว และให้โอนเงินเข้ามาในบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบ , การหลอกร่วมลงทุนในเงินดิจิทัล, การหลอกลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และการหลอกขายสินค้าแล้วไม่ส่งสินค้าให้ เป็นต้น



โดยมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีและกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุจำนวนหลายรายในแต่ละท้องที่แตกต่างกันไป พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ



สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา