สังคม

ตร.จับผู้ต้องหาหลอกลงทุน อ้างเคยทำโปรเจ็ค รฟฟ. - ให้รัฐกู้เงิน พบประวัติเคยถูกจำคุกต่างประเทศแล้ว

โดย parichat_p

8 ม.ค. 2567

844 views

นอกจากคนไทยจะตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์สูญเงินมหาศาลแล้ว มิจฉาชีพที่เป็นคนไทย และมักสร้างภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือร่วมกับนักการเมือง ก็ยังมีอยู่ ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลางได้จับกุมผู้ต้องหาที่อ้างว่ามีเงินฝากในธนาคารต่างประเทศถึง 2 แสนล้านบาท และอ้างโปรเจ็คสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง และจะให้รัฐบาลกู้เงินดิจิทัลวอลเล็ท แต่เบื้องหลังพบหมายจับหลอกผู้เสียหายสูญเงินทั้งในประเทศ และเคยถูกจำคุกที่ต่างประเทศมาแล้ว คำพูดชักชวนให้คนเชื่อมั่นมาร่วมลงทุนในโครงการอภิมหาโปรเจ็ค กำลังเริ่มขึ้น


แต่เมื่อ นายรวีโรจน์ เคยเป็นข่าวโด่งดังมาก่อนว่าถูกจับที่ประเทศแองโกลา พร้อมนักธุรกิจ4 คน โดยเขาอ้างว่าเป็นเพราะถูกกลั่นแกล้ง เพราะอยากได้เงิน5 หมื่ล้านดอลลารที่ประกาศต่อสาธารณะ


แต่เบื้องหลัง เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจมาตั้งแต่ปี 2558 เมื่อนักธุรกิจเพชรพลอยจากจ จันทบุรี เชื่อในภาพลักษณ์ที่ผู้ต้องหาอุปโลกน์ขึ้น จนสูญเงิน 22 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้เงินที่นายรวิโรจน์ ประกาศว่าเป็นเจ้าของบริษัทการเงิน ฝากอยู่ที่นิวยอร์ค สูงกว่า 2แสนล้านบาท


กระทั่งนายรวีโรจน์และพวก รวม4 คน ไปก่อคดีที่ประเทศแองโกลา จนถูกจับ ต้องโทษอยู่ หลังจากนั้น มาอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านเมื่อ 8เดือนที่ผานมา และลักลอบเข้าประเทศไทยมาตามเส้นทางธรรมชาติ เมื่อเข้าประเทศมาแล้ว ยังใช้ชีวิตหรูหราเช่าโรงแรมอยู่เดือนละ3 แสนบาท และนี่คือโปรแจ็คใหม่ เกี่ยวกับรถไฟฟ้ความเร็วสูง ที่ผู้ต้องหากำลังจะหลอกเหยื่อโดยสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการมีนักการเมือง มาร่วมสร้างเครดิตด้วย


แต่จากความผิดที่ได้ก่อไว้ จนผู้เสียหายเสียชีวิตไปแล้วหลังสูญเงิน 22 ล้าน ตำรวจสอบสวนกลางโดย ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมขณะใช้ชีวิตหรูอยู่โรงแรม


สาเหตุที่ผู้เสียหายเชื่อเพราะนายรวิโรจน์ หรือโรเจอร์ แอบอ้างว่าตนเองเป็นกลุ่มนายทุนเจ้าของบริษัทการเงินมีเงินฝากในธนาคารที่นิวยอร์กคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 แสนล้านบาท โดยอ้างว่าจะให้เงินสนับสนุนกับผู้เสียหายเป็นเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท หากผู้เสียหายมาร่วมลงทุนด้วย แต่ผู้เสียหายจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆเพื่อนำเงินเข้าไทยให้กับกลุ่มผู้ต้องหาก่อน


โดยนายโรเจอร์ได้ปลอมหนังสือค้ำประกันของธนาคาร HSBC สาขานิวยอร์ก นำมาแสดงให้ผู้เสียหายเห็นว่า มีเงินอยู่จริง ยอดถึงกว่า 8 พัน7 ล้านดอลล่าห์หรือ 2 แสนล้านบาท


เจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมาก เพราะนายรวิโรจน์ ใช้วิธีการพูดหว่านล้อม และสร้างภาพลักษณ์ดี ซึ่งหากใครตกเป็นเหยื่อ ขอให้ไปแจ้งความเพิ่มได้ที่ ตำรวจกองกำกับการ 1กองปราบปราม

คุณอาจสนใจ

Related News