เลือกตั้งและการเมือง

"รองฯอ๋อง" หิ้วหลักฐานหมูเถื่อนยื่น DSI ขยายเอาผิดต้นตอเกี่ยวกับการปกปิดโรคอหิวาต์ในสุกร

โดย kanyapak_w

6 ธ.ค. 2566

166 views

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อยื่นหนังสือข้อมูลเกี่ยวกับการปกปิดโรคอหิวาต์ในสุกร หรือ ASF เมื่อสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ปี 2564-2565 เพื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีการนำเข้าหมูเถื่อน



โดยนายปดิพัทธ์กล่าวว่า จากกรณีที่มีการจับกุมและกวาดล้างการนำเข้าหมูเถื่อนเข้าในประเทศไทยในปัจจุบันนี้ ตนเองในฐานะที่ติดตามเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่เป็น สส.สมัยแรก จึงนำข้อมูลที่เกี่ยวกับหน่วยงานภาครัฐที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการปกปิดข้อมูลโรคระบาดในปี 2564-2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศไทยประสบปัญหาเนื้อหมูหน้าเขียงขาดตลาด แต่กลับมีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่



ขณะเดียวกันยังพบว่าบริษัทส่งออกรายใหญ่มีการส่งออกเนื้อหมูในปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 400% ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงคาดว่าสอดคล้องกับการปกปิดข้อมูลโรคระบาด ASF เพราะหากมีการประกาศเกี่ยวกับโรคระบาด จะทำให้ไม่สามารถส่งออกเนื้อหมูจากประเทศไทยได้



นอกจากนี้ยังเกิดผลกระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยที่กำลังจะฟื้นตัวจากโรคระบาด เพราะพบว่ามีการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยประสบปัญหา ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาและไม่สามารถฟื้นฟูกิจการได้ ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจึงถือเป็นการทำลายเกษตรกรรายย่อยอย่างถาวร



นายปดิพัทธ์ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากรัฐบาลในขณะนั้นไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ และก่อนหน้านี้ตนเองได้เคยยื่นข้อมูลเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลโรค ASF ต่อ ป.ป.ช. มาแล้วเมื่อปี 2565 เพื่อให้เอาผิดกับรัฐบาลชุดที่แล้วหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการและช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสรวิศ ธานีโต อดีตอธิบดีปศุสัตว์ แต่ ทาง ป.ป.ช.กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น



วันนี้จึงถือโอกาสนำข้อมูลชุดเดียวกันมายื่นให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อประกอบการสอบสวนคดีและช่วยให้ล้างบางขบวนการหมูเถื่อนให้หมดไป ซึ่งข้อมูลมีความเกี่ยวข้องกับทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และข้าราชการการเมืองระดับสูงโดยตรง เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้สาวไปถึงตัวการใหญ่ได้



อีกทั้งยังเชื่อว่า รัฐบาลชุดนี้จะสามารถสืบสวนสอบสวนเอาผิดไปจนถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังในระดับสูง แม้ว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันจะมาจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ก็ตาม ก็น่าจะสามารถแยกแยะการปฎิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลชุดนี้ด้วย เนื่องจากเรื่องหมูเถื่อนไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ แต่การแก้ปัญหาหมูเถื่อนถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำหรับรัฐบาลชุดนี้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตของภาครัฐได้หรือไม่



นอกจากนี้ นายปดิพัทธ์ยังกล่าวถึงคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ว่า คาดว่าน่าจะมีหมูเถื่อนลักลอบเข้ามามากกว่านี้อีกหลายพันตู้ ไม่ใช่เพียงแค่ 161 ตู้ที่ถูกกรมศุลากรตรวจยึดได้



ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.คดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ กล่าวว่า หลังจากนี้จะรีบเสนอเรื่องต่อรักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และหากพบว่าข้อมูลมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับคดีหมูเถื่อนที่ทาง DSI รับผิดชอบอยู่ ก็จะนำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกัน



คุณอาจสนใจ

Related News