เลือกตั้งและการเมือง

“โรม” ยืนยัน 44 สส. ก้าวไกล เสนอแก้ไขม.112 เป็นไปตามหน้าที่ บอกพร้อมสู้ถึงที่สุด

18 พ.ค. 2567

147 views

“โรม” ยืนยัน 44 สส. ก้าวไกล เสนอแก้ไขม.112 เป็นไปตามหน้าที่ บอกพร้อมสู้ถึงที่สุด หากพบใช้กฎหมายกลั่นแกล้ง ถามยิ่งจับคนเห็นต่างเข้าคุก ทำปัญหาการเมืองไม่ถูกแก้สักที



18 พ.ค. 2567 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เรียกนายคารม พลพรกลาง สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะอดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเป็นพยานสอบกรณีสส. พรรคก้าวไกล เสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของพวกเรา เป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งไม่มีกฎหมายห้ามในการยื่นแก้ไขกฎหมาย ก็เป็นการทำหน้าที่อย่างไปอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งตนคิดว่าคงมีขั้นตอนทางกฎหมายที่เราในฐานะสส. ต้องพิสูจน์ในข้อเท็จจริง สุดท้ายหากมีการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบทำตามกฎหมายในการกลั่นแกล้ง เราก็ไม่ยอม เราก็ต้องสู้จนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน



ส่วนที่นายคารมระบุว่า ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวให้นิรโทษกรรมผู้ที่มีคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งจะทำให้สส. ที่ลงชื่อแก้ไขกฎหมาย ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ด้วย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการนิรโทษกรรมแล้วอาจจะมีสส. บางส่วนได้ประโยชน์จากตรงนี้ เราต้องแยกกัน การนิรโทษกรรมคดีการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่เราเพิ่งจะพูดเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว ตนว่าเรื่องนี้เราไม่ควรเอามาเชื่อมโยงว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์อะไร ถามว่ามีคนจำนวนมากหรือไม่ ที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหา 112 ตลอดระยะเวลาการรัฐประหารในปี 2549 เป็นต้นมา



นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ประเด็นหลักเราต้องยอมรับว่า หากมีคนถูกดำเนินคดีมากขนาดนี้ ต้องถามต่อว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมไทยเกิดความขัดแย้งหรือไม่ ดังนั้นการเสนอของพรรคก้าวไกลก็เสนอว่าอย่าเพิ่งระบุข้อหาอะไรในการนิรโทษกรรมเลย เพราะเราทราบว่าการนิรโทษกรรม เป็นกระบวนการที่ใช้เวลา จำเป็นต้องมีการพูดคุยเพื่อหาข้อยุติ เราอยากเริ่มด้วยการตั้งต้นว่า หากมีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่ว่าคดีอะไรก็จะมีโอกาสที่จะนำไปสู่การนิรโทษกรรมได้หมด แต่ในทางปฏิบัติ เราต้องอาศัยการพูดคุย การนิรโทษกรรมสามารถทำได้หลายรูปแบบ อย่างการกำหนดเงื่อนไขบางอย่าง ที่จะพอช่วยให้สังคมกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง



“ถามตรงๆ เอาคนที่เป็นนักกิจกรรมการเมือง เอาคนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองไปขัง สังคมไทยได้อะไรขึ้นมา ตนคิดว่ามีแต่จะทำให้สังคมแก้ปัญหาทางการเมืองที่เรื้อรังไม่จบสักที” นายรังสิมันต์ กล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News