สังคม

เกาะติดบรรยากาศ ตัวประกันไทยเดินทางกลับบ้าน ญาติปล่อยโฮ เผยสุดดีใจเหมือนได้เกิดใหม่

โดย panwilai_c

30 พ.ย. 2566

67 views

นายอนุชา อ่างแก้ว แรงงานไทยในอิสราเอล ที่มีภาพปรากฏเป็นกลุ่มแรกว่าถูกจับเป็นตัวประกัน โดยกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานีแล้ว ครอบครัวต่างดีใจเหมือนได้เกิดใหม่ พร้อมเปิดใจกับข่าว 3 มิติว่าสภาพจิตใจยังไม่ดีนัก เพราะการถูกจับเป็นตัวประกันเป็นเวลา เกือบ 2 เดือนโดยไม่รู้ชะตากรรมจยากที่จะลืม แม้กลุ่มฮามาสได้บอกตั้งแต่ต้นว่าคนไทยจะได้กลับบ้านแน่นอน จนถึงวันที่ได้ปล่อยตัวก็รู้สึกดีใจและคาดหวังให้ตัวประกันที่เหลือจะได้กลับบ้าน



นายอนุชา อ่างแก้ว สวมกอด นางสาววนิดา มาอาษา ภรรยา รวมถึงน้องสาวและเพื่อนที่มารอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทันทีที่มาถึง นายอนุชา หรืออาร์ท ในชุดเสื้อผ้าที่รัฐบาลอิสราเอลจัดให้ตัวประกันชาวไทยทุกคน อาร์ท ยอมรับว่าดีใจมากที่ได้กลับถึงไทย และอยากกลับถึงบ้านที่อุดรธานีให้เร็วที่สุด



ข่าว 3 มิติ พร้อมด้วย อนุชา และ ภรรยา เดินทางด้วยเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังจังหวัดอุดรธานีพร้อมกัน จึงมีโอกาสได้พูดคุยกันสั้นๆ ระหว่างเดินทาง



อนุชา ยอมรับว่าน้ำหนักลดไป 16 กิโลกรัม เพราะตลอดเวลาที่ถูกจับเป็นตัวประกันในอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา เป็นเวลา 50 วัน ได้กินแต่ขนมปัง มีทูน่า และ ข้าวบ้างในวันหลังๆ ที่ทางกลุ่มฮามาสได้หามาให้กลุ่มของอนุชา ที่ถูกคุมตัวอยู่รวมกัน 6 คน



โดยมีกลุ่มของนายอนุชา และเพื่อนรวม 4 คนที่เป็นกลุ่มแรกที่ปรากฏในภาพที่กลุ่มฮามาส จับตัวไปเมื่อวันที 7 ตุลาคม ประกอบด้วย นายนัฐพร อ่อนแก้ว นายอนุชา อ่างแก้ว นายคมกฤษ ชมบัว และ นายมณี จิระชาติ ซึ่งทั้งหมดและชาวอิสราเอลอีก 2 คน ถูกนำตัวลงอุโมงค์ใต้ดิน เดินเท้ามาถึงที่พัก ที่ต้องอยู่ที่นั่นจนได้รับการปล่อยตัว



ทันทีที่ถึงสนามบินจังหวัดอุดรธานี นายอนุชา เป็นคนแรกที่ได้ถึงบ้าน โดยมีจัดหางานจังหวัดและประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานีมาต้อนรับ แสดงความยินดีที่นายอนุชา กลับมาอย่างปลอดภัยซึ่งทางกระทรวงแรงงานจะอำนวยความสะดวกในการเร่งมอบเงินเยียวยาให้โดยเร็วที่สุด



เมื่อมาถึงที่บ้านดอนพิลา ตำบลปะโค อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างมารอต้อนรับ อาร์ท ด้วยความดีใจทั้งน้ำตา ทั้งพ่อแม่ และญาติ ต่างร้องไห้ต้อนรับอาร์ท อย่างอบอุ่น พร้อมผู้ข้อมือบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีอีสาน ครอบครัวของอาร์ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือจนได้ลูกชายกลับมาเหมือนตายแล้วเกิดใหม่



ขณะที่นายอนุชา เปิดเผยว่า ดีใจจนพูดไม่ออก หลังจากนี้ขอใช้เวลากับครอบครัวและปรับสภาพจิตใจ ที่ยอมรับว่าช่วงเวลาของการถูกจับเป็นตัวประกันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานเพราะไม่รู้ชะตากรรม และคิดว่าอาจจะต้องตาย แม้กลุ่มฮามาสจะบอกตั้งแต่ 4 วันแรกว่าคนไทยจะได้กลับบ้าน แต่ก็ไม่กล้าคาดหวัง จนวันที่ถูกนำตัวมาถึงชายแดนอียิปต์ก็โล่งใจ จึงต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ช่วยเหลือจนได้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก็ได้แต่คาดหวังให้เพื่อนที่อยู่ในแคมป์เดียวกันอีก 2 คน และคนไทย รวมถึงตัวประกันทุกคนได้รับการปล่อยตัว และเสียใจอย่างมากกับเพื่อนแรงงานไทยที่เสียชีวิต



อนุชา ดีใจอย่างมากที่ได้โอบกอดลูกสาววัย 7 ขวบ ซึ่งถือเป็นการพบหน้าลูกและครอบครัวในรอบเกือบ 2 ปีที่ไปทำงานในอิสราเอล ทำงานเก็บเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนอนาคตหลังจากนี้คงไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หวังว่าจะเกิดสันติภาพขึ้นในอิสราเอลและปาเลสไตน์เพราะไม่อยากให้มีใครต้องสูญเสียอีกแล้ว

คุณอาจสนใจ