เปิดโปงขบวนการค้ามนุษย์ หลอกคนไทยไปทำงานที่เล่าก์ก่าย เหยื่อยันถูกหลอก ไม่ได้สมัครใจไป

คนไทยจากเมืองเล่าก์ก่าย เดินทางกลับถึงไทย เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ แต่ญาติยังไม่ได้เข้าเยี่ยม ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงเป็นตัวแทนเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มคนไทยที่พบว่าทุกคนปลอดภัยแล้ว และต้องการขอความเป็นธรรม เพราะเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ส่วนใหญ่ถูกหลอกไปทำงานครั้งแรก ขณะที่ญาติของผู้เสียหาย และรองประธานมูลนิธิเอมมานูเอล เป็นห่วงการตีตราอาชญากรซ้ำ และเรียกร้องรัฐบาลใช้กรณีนี้ในการปราบปรามการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ เพื่อไม่ให้คนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายด้วย



คนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ถูกนำตัวมายังศูนย์การเรียนรู้มหานคร เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาเตรียมการในเรื่องที่พักและอาหารให้กับกลุ่มคนไทย แต่เนื่องจากมาถึงในวันแรกทำให้ญาติยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ มีเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ขอเข้าเยี่ยมเป็นตัวแทนญาติในช่วงเวลา 15.00 น.ของวันนี้ โดยนางปรีดา คงแป้น และนางสาวสุภัทรา นาคะผิว ได้พบกับตัวแทนกลุ่มคนไทย เปิดเผยว่า ทุกคนรู้สึกปลอดภัย ได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือได้กลับไทย



โดยอาคารที่พักและอาหารดี มีบางคนที่ป่วย ต้องการยาส่วนตัวที่ถูกเก็บพร้อมโทรศัพท์ก่อนเดินทางจากประเทศจีน ร้องขอให้เจ้าหน้าที่นำมาให้อย่างเร่งด่วน โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการคัดกรองจากสหวิชาชีพ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีฉ้อโกง เพียง 6 คน จำนวน 7 หมายที่เหลือ 260 คนเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่ต้องขอเวลาในการคัดกรองเพื่อขยายผลในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ด้วย และจะให้ญาติเข้าพบในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน พบว่ายังขาดเจ้าภาพหลัก ที่ควรมีสาธารณสุขมาดูแลสุขภาพของคนไทยกลุ่มนี้ด้วย รวมถึงการให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อค้ามนุษย์ที่ทุกคนต่างถูกหลอกไปทำงานผิดกฏหมาย จึงไม่ควรตีตราให้เป็นอาชญากร เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 20-35 ปีเท่านั้น



ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียหายยืนยันตรงกันว่า ถูกหลอกลวงให้หลงเชื่อโฆษณาให้ไปทำงานที่ไม่ตรงปก และไม่รู้ว่าไปเมืองเล้าก์ก่าย เมื่อไปถึงตึกหมายเลข 9 จึงรู้ว่าต้องทำงานคอลเซ็นเตอร์ หากไม่ยอมทำตามต้องหาเงินมาไถ่ตัว คนละ 1 แสนถึง 2 แสน 5 หมื่นบาท หรือต้องหาคนมาทำานแทน 4 คน ถ้าทำไม่ได้ก็จะถูกขัง ทำร้ายร่างกายเช่นช็อตไฟฟ้า ถึงทั้งหมดเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ ทั้งหมดจึงเป็นผู้เสียหายที่อยากขอความเป็นธรรม เพราะการไปที่นั่นเหมือนขุมนรก ยิ่งกว่าแรงงานทาส ที่พ่อแม่ไม่ได้ต้องการให้ลูกไปทำงานแบบนั้น และลูกเองต่างมารู้ว่าถูกหลอกเมื่อเดินทางไปถึง จึงขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือเหมือนลูกจะได้มีชีวิตใหม่ และอยากให้รัฐบาลใช้กรณนี้ปราบปรามการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ให้สิ้นซาก



ขณะที่มูลนิธิอิมมานูเอล เป็นห่วงการตีตราอาชญากรให้กับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จะยิ่งซ้ำเติมการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง รัฐจึงต้องสร้างกลไก NRM ให้มีประสิทธิภาพ และจากที่มูลนิธิอิมมานูเอล ได้รับร้องเรียนจากเหยื่อตั้งแต่เดือนเมษายน ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จนกระทั่งทางการจีนเข้าไปกวาดล้างกลุ่มจีนเทาในเมืองเล้าก์ก่าย จึงเกิดการช่วยเหลือครั้งใหญ่ รัฐบาลจึงควรจริงจังกับการกวาดล้างกลุ่มอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ มากกว่าการมาตีตราให้คนไทยที่ถูกหลอกลวงให้กลายเป็นอาชญกรไปด้วย



รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล เปิดเผยด้วยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าจะมีคนไทยติดค้างในเมืองเล้าก์ก่ายอยู่อีกไม่ต่ำกว่า 30คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและประสานแจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป