สังคม

แฉคลิปเสียง ครูวอน นร.งดพูดปม ‘น้องม่อน’จมน้ำ หวั่นสถาบันเสียหาย - เพื่อนเล่าครูฝึกเห็นแต่ไม่ช่วย จนต้องโดดช่วยเอง

โดย petchpawee_k

17 พ.ย. 2566

834 views

เปิดคลิปนาที ‘น้องม่อน’ จมน้ำ ชูมือโบกขอความช่วยเหลือก่อนจบหายต่อหน้าเพื่อน พ่อแม่เห็นคลิปใจสลาย ร่ำไห้ถามครูฝึก-สถาบันศึกษาปิดบังความจริงทำไมใครจะรับผิดชอบ เผยคลิปเสียงครูวอนนักเรียนงดโพสต์ภาพลงโซเชียล-ห้ามพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะจะทำให้สถานศึกษาเสียหาย  ด้าน ผอ.สำนักงานอาชีวศึกษา จ.อยุธยาฯ เผย เพื่อนของน้องม่อนเล่าว่าสาเหตุที่ไม่ได้ช่วยเพราะน้องเป็นเน็ตไอดอลทุกคนคิดว่ากำลังทำคอนเทนต์



จากกรณีนายปณิธาน พวงลำเจียก หรือน้องม่อน อายุ 18 ปี นักศึกสถาบันแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ชั้นปีที่ 3 สาขาคอมพิวเตอร์ ที่เสียชีวิตจมน้ำในกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ผู้ปกครองขอความยุติธรรมวอนหยุดกิจกรรมเข้าค่าย ซึ่งทางค่ายแจงให้วิทยาลัยเช่าสถานที่-อาหาร เท่านั้น ยืนยันทางวิทยาลัยจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลเองทั้งหมด


ล่าสุดทีมข่าวได้คลิปเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นวินาทีที่น้องม่อน ที่ไปเข้าค่ายปัจฉิมนิเทศภายในค่ายหัตถวุฒิ แคมป์ จ.สระบุรี กำลังจมน้ำและชูมือขอความช่วยเหลือ โดยมีกลุ่มเพื่อนบางส่วนกำลังร่วมกันต่อตัวช่วยเหลือแต่สุดท้ายไม่สำเร็จ น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิต


นอกจากนี้มีคลิปเสียงที่อาจารย์รายหนึ่งของสถาบันที่ น้องม่อน ศึกษาอยู่ กำลังพูดกับบรรดานักเรียนหลังเกิดเหตุ น้องม่อน จมน้ำเสียชีวิต ว่า “ทางโรงเรียนไม่อยากให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้น ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่า น้องม่อน จะเสียชีวิต ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ผู้ตายไม่ได้อยู่ประจำห้องเรียนที่ตัวเองรับผิดชอบ”


ในคลิปยังได้ยินเสียงครูรายนี้พูดว่า “โดยขณะนี้ทางโรงเรียนถูกกระแสโจมตีเยอะจึงวอนนักเรียนทุกราย งดลงรูปบนโลกออนไลน์และไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะจะทำให้โรงเรียนเสียหาย ยอมรับสาเหตุที่ครูแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองล่าช้า เพราะยังอยู่ในสภาวะตกใจและสติแตก และที่สำคัญทางค่ายหัตถวุฒิ แคมป์ จ.สระบุรี ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้ทางโรงเรียนจะปิดการสอน 2 วัน”  


สำหรับศพน้องม่อน ตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านในตำบลบ้านแค อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางครอบครัวนำรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีขาว ที่ซื้อให้น้องม่อน มาจอดไว้หน้าบ้านที่จัดงานศพ แนะนำกรอบรูปน้องม่อนวางไว้ตรงกระจกหน้ารถ/ ข้างโลงศพมีกีต้าร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้า ลำโพงมาร์แชล


บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางครอบครัว ญาติ ครูอาจารย์และกลุ่มเพื่อนที่เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ ซึ่งจะมีการสวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน ที่วัดไผ่ล้อม อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา


นายอานนท์ อายุ 42 ปี พ่อของน้องม่อน เผยทั้งน้ำว่า ฝากถึงการจัดกิจกรรมแบบนี้ควรพิจารณาใหม่ได้หรือไม่ พาไปจัดกิจกรรมที่เสี่ยงไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว ปล่อยให้เด็กลงไปเล่นน้ำโดยว่ายน้ำไม่เป็นครูน่าจะประเมินได้


จากการที่ตนสอบถามเพื่อนของลูกชายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ พูดไม่ตรงกันกับข้อมูลที่ครูฝึกพูด เพื่อนของลูกชายโดนครูฝึกสั่งห้ามพูด/ จุดเกิดเหตุเหมือนขอบเหว น้ำไหลแรง ลูกชายว่ายน้ำไม่เป็นพาเด็กลงไปเล่นน้ำได้อย่างไร ตนอยากรู้ทำไมต้องปิดบังความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย เห็นคลิปลูกชายจมน้ำทำใจไม่ได้ ยันลูกชายไม่ได้ทำคอนเท้นต์ตามที่กล่าวอ้าง  


“ผมรักลูกคนนี้มาก ซื้อรถเก๋งให้ใหม่ 1 คัน ยังไม่ทันได้ขับ ลูกชายฝันอยากมีรถซีวิคขับ และซื้อโต๊ะสนุ๊กให้ บ้านก็สร้างให้ใหม่ อยากได้กีตาร์โปร่งกีตาร์ไฟฟ้าพ่อซื้อให้ ลูกชายคนนี้คือความหวังของผม สุดท้ายต้องมาสลายเพราะกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้ จุดเกิดเหตุมีคนตายบ่อยแล้วก็ยังพาเด็กไปตายอีก ใครจะรับผิดชอบลูกผม แค่แสดงความรับผิดชอบแล้วบอกความจริง ไม่มีหน่วยงานไหนติดต่อมาช่วยเหลือเลย มีแต่นักข่าว/จะไม่ให้เสียใจได้ยังไงลูกชายเป็นคนดี เรียนเก่ง ได้เกียรติบัตรผลการเรียนดียอดเยี่ยม 4.00 ความฝันอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย มีธุรกิจส่วนตัว”


น.ส.ณัฏฐพัชร อายุ 45 ปี แม่ของน้องม่อน เผยว่า ตอนนี้ครอบครัวยังไม่รู้ความจริงจากทางค่ายและโรงเรียน ยังไม่มีใครพูดความจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บริหารสถาบันศึกษาที่มาพูดคุยด้วยนั้นก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แค่มาแสดงความเสียใจ และมีเจ้าหน้าที่ค่ายก็มาแสดงความเสียใจ บอกว่า “ช่วยน้องแล้วแต่ช่วยไม่ทัน”


ซึ่งวันที่รดน้ำศพเพื่อนของน้องม่อนที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ตอนลงไปยืนอยู่ในน้ำระดับน้ำประมาณหน้าอก ใต้น้ำมีหินระดับน้ำไม่เท่ากัน พอก้าวพลาดน้องม่อนก็ผลุบลงไปในน้ำ เพื่อนๆ เป็นคนช่วยน้องม่อนกันเอง ช่วยกันจนหาน้องม่อนไม่เจอแล้วจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ และตรงนั้นน้ำไหลแรง เพื่อนคนหนึ่งเล่าว่าพยายามช่วยน้องม่อนเต็มที่แล้ว มือข้างหนึ่งจับน้องม่อนไว้ผลักตัวน้องม่อนขึ้นเหนือน้ำ อีกข้างพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่ง จนเพื่อนคนนี้ไม่ไหว น้องม่อนก็หลุดจมน้ำหายไป


จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่นอกค่ายไม่เกี่ยวกับค่าย แต่กำหนดการที่ส่งมาให้ผู้ปกครองเซ็นระบุว่า เวลา 16.30 น. จะพาเด็กไปเล่นฐานน้ำตก โดยมีเจ้าหน้าที่ค่ายและครูพาไปกลุ่มละ 30-40 คน จากเด็กทั้งหมดที่ไปเข้าค่ายเกือบ 150 คน ตอนนี้ไม่มีใครออกมาพูดความจริงสิ่งที่แม่รับรู้ไม่ได้ออกมาจากสถานศึกษา แต่แม่ทราบจากคนอื่นว่าลูกจมน้ำตาย


“ส่วนเรื่องการเยียวยายังไม่มีการพูดถึง แต่แม่ขอความรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องประมาทครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กจมน้ำ หรือเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาจุดเดียวกันนี้ก็มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต แม่คาใจทำไมไม่จำกัดพื้นที่ว่าจุดดังกล่าวควรระวังไม่ควรพาลูกเราไปตายแบบนี้ หัวใจแม่จะแตกสลาย ถ้าแลกชีวิตได้แม่ขอตายแทน เราไว้ใจโรงเรียนให้โรงเรียนพาลูกเราไป แต่โรงเรียนพาลูกเราไปตาย ไม่ต้องเกี่ยงกันว่าใครจะรับผิดชอบ ควรจะรับผิดชอบร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างโยนกัน สิ่งที่สะเทือนใจคือเจ้าหน้าที่ค่ายบอกว่าเป่านกหวีดเรียกขึ้นแล้วแต่ลูกของแม่ไม่ยอมขึ้นลงไปเล่นเอง”


ด้านเจ้าของค่ายหัตถวุฒิ แคมป์ จ.สระบุรี สถานที่จัดกิจกรรม เดินทางมาร่วมสวดพระอภิธรรมศพและแสดงความเสียใจกับครอบครัว เผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นภายในค่ายแต่เกิดขึ้นนอกค่าย ห่างจากค่ายประมาณ 100 เมตร  กิจกรรมต่างๆ ทางสถาบันศึกษาและครูฝึกเป็นผู้กำหนด ทางค่ายแค่ให้เช่าสถานที่ จัดที่พัก อาหารเท่านั้น พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับครอบครัว


ตนรู้จักทีมวิทยากรชุดนี้เป็นอย่างดี ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบได้เพราะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ได้สอบถามครูฝึก เบื้องต้นเจ้าตัวบอกว่าได้กระโดดน้ำลงไปช่วยน้องม่อน ซึ่งทางค่ายก็ไม่ทราบว่ามีการพาเด็กออกไปทำกิจกรรมนอกค่าย หรือพาไปเล่นน้ำ มาทราบพิกัดอีกทีเห็นน้องม่อน ถูกนำร่างขึ้นจากน้ำอยู่ท้ายรถแล้ว


สำหรับที่จุดเกิดเหตุอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จากนี้จะมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น และทางค่ายก็จะเข้มงวดเรื่องรักษาความปลอดภัยของผู้ที่เข้ามาทำกิจกรรมในค่ายด้วย ยอมรับว่าทางค่ายไม่ได้แจ้งให้ทางสถาบันศึกษาทราบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นเป็นจุดอันตรายซึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุคนจมน้ำตายบ่อยครั้ง จากนี้จะปรับปรุงและคัดกรองทีมวิทยากรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก


ด้านนางสาวมยุรี สีระบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องเบื้องต้นได้สอบถามคณะครูและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของน้องม่อน ทำให้ทราบว่าสาเหตุที่เพื่อนๆ ไม่ได้เข้าไปช่วยน้องผู้เสียชีวิตเพราะน้องเป็นเน็ตไอดอล ทุกคนเลยคิดว่าน้องกำลังทำคอนเทนต์เพื่อสร้างยอดวิวจึงไม่ได้เข้าช่วย ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/JINcz5OOAEo


คุณอาจสนใจ