อาชญากรรม

ตร.เชิญ “เสี่ยบิ๊ก ดาวเขียว” เจ้าของรถบรรทุกน้ำหนักเกิน สอบเครียด

โดย attayuth_b

10 พ.ย. 2566

129 views

ตำรวจเชิญตัวเจ้าของรถบรรทุกสอบปากคำ เรื่องบรรทุกน้ำหนักเกิน และสติ๊กเกอร์ดาวเขียวนานกว่า 4 ชั่วโมง และเตรียมแจ้งข้อหา

ความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกดินเหนียว ตกลงในท่อร้อยสายไฟใต้ดินของการไฟฟ้า ที่ปากซอยสุขุมวิท 64/1 ปรากฎว่าสาเหตุหนึ่งมาจากบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามกฎหมายต้องไม่เกิน 25 ตัว แต่รถบรรทุกคันดังกล่าวบรรทุกอยู่ที่ 37.45 ตัน ซึ่งน้ำหนักนี้เป็นนักหนักที่เพิ่งชั่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 พ.ย.)

เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.พระโขนงได้เชิญตัวนาย พชรพล จันทรินทรากร หรือ "เสี่ยบิ๊ก ดาวเขียว" เจ้าของรถบรรทุกเข้ามาให้ปากคำเพิ่ม แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน นอกจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนยังได้เชิญตัว นายศักดิ์มงคล ทาสะโก หรือนายบอย คนขับรถซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ เข้ามาสอบปากคำพร้อมกันด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสอบปากคำทั้งวัน เพราะต้องสอบให้ครบทีเดียวหลายส่วน ทั้งในส่วนของคดี สน.พระโขนง และจเรตำรวจแห่งชาติ

มีรายงานว่า ตำรวจได้กำหนดกรอบการสอบสวนคดีนี้ใน 3 ส่วนหลัก

ส่วนแรก คือ การสอบสวนเกี่ยวกับพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อวานนี้ (9พ.ย.) ตอน 4 ทุ่มตำรวจตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับจุดบ่อพักจุดอื่นๆ และตรวจสอบการก่อสร้างคานเหล็กเดิม โดยส่วนนี้จะต้องสอบปากคำและขอข้อมูลจากวิศวกรรมสถานร่วมด้วย

ส่วนที่ 2 คือ ตรวจสอบกรณีมีคลิปปรากฏการขนถ่ายน้ำมัน ซึ่งได้มีการเรียกสอบบุคคลที่ปรากฏในภาพว่าเป็นผู้ขนถ่ายน้ำมันแล้ว ส่วนถังน้ำมันที่ถ่ายออกมา จะส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ

ส่วนที่ 3 คือการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ควบคุมงานโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ผู้ควบคุมดูแลบ่อดินจุดเกิดเหตุ ผู้ดูแลสถานที่เทดินบริเวณรามอินทรา 19 พนักงานตักดินของโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ผู้ที่อยู่บริเวณกองดินจุดเกิดเหตุ คนขับรถบรรทุกทั้ง 3 คันของเสี่ยบิ๊ก ดาวเขียว รวมถึงคันที่เกิดเหตุ ขอข้อมูลจากนายกสมาคมขนส่งในเรื่องของสติกเกอร์ สอบปากคำพนักงานที่ทำความสะอาดคราบน้ำมันในจุดเกิดเหตุ  สอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของสติกเกอร์ สอบปากคำรถบรรทุกทุกคันที่ขับเข้าออกโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม บริษัทที่การไฟฟ้านครหลวงรับจ้างมาดำเนินการขุดบ่อ

กรณีที่ทีมงานของผู้ว่ากรุงเทพมหานครถ่ายคลิปวิดีโอช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 8 พฤศจิกายน แล้วเห็นคนงานนำถังแกลลอนมาถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุกคันเกิดเหตุที่จอดไว้ตรงข้าม สน.พระโขนง ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พันตำรวจเอก โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับการ สน.พระโขนง ชี้แจงว่าได้ให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวบุคคลในคลิปมาสอบปากคำแล้ว ชายคนดังกล่าวให้การว่า ได้รับคำสั่งมาให้ถ่ายน้ำมันออกจากถัง เนื่องจากตัวถังได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย ต้องนำน้ำมันบางส่วนออก และได้นำน้ำมันของกลางมามอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว ยืนยันได้ว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำให้น้ำหนักรถลดลง น้ำมันที่ถ่ายออกไปก็เอาไปเก็บไว้ ไม่ได้เอาไปใช้อะไร จึงยังไม่พบว่ามีความผิด

ขณะที่วันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหารถบรรทุกวิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

นายชัชชาติ เปิดเผยว่า ปัญหาหลักๆ จะมี 2 เรื่องคือ วิ่งนอกเวลา และ น้ำหนักของรถบรรทุกที่เกินกว่าอัตราที่กำหนด เพราะที่ผ่านมาทาง กทม.ไม่เคยจับรถบรรทุกที่ผิดกฎระเบียบมาก่อน และเมื่อคืนที่ผ่านมามีการไปตรวจก็พบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีน้ำหนักเกิน จึงได้สั่งให้ตั้งศูนย์ตรวจน้ำหนักรถบรรทุกในพื้นที่กทม. พร้อมขอความร่วมมือกรมทางหลวง สนับสนุนในเรื่องของการให้ความรู้เจ้าหน้าที่ กทม.และอุปกรณ์การชั่งน้ำหนักแบบเคลื่อนที่ และตำรวจดูเรื่องของข้อกฎหมาย หากพบรถคันไหนฝ่าฝืนจะดำเนินคดีกับเจ้าของรถบรรทุก และยึดรถ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในสัปดาห์หน้าจะสุ่มออกตรวจร่วม หารถบรรทุกที่น้ำหนักเกิน และปฏิบัติผิดระเบียบจะต้องถูกยึดรถและดำเนินคดีทันที

ส่วนความคืบหน้าคดีรถบรรทุกที่ตกบ่อการไฟฟ้านครหลวงในพื้นที่ สน.พระโขนง นั้น ขณะนีัได้มีการเรียกเจ้าของรถมาสอบปากและได้ยึดรถของกลางไว้แล้วเช่นกัน และจะทำคดีนี้เป็นคดีตัวอย่างที่จะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเอาจริงกับการกวดขันเรื่องน้ำหนักรถบรรทุก

ด้านนายสราวุธ เผยว่า กรมทางหลวงมีหน้าที่ในการดูแลถนนทั่วประเทศประมาณ 52,000 กม. จากทั้งหมด 7 แสนกว่ากิโลเมตร ปัจจุบันมีด่านชั่งน้ำหนักถาวรอยู่ประมาณ 101 ด่านบนถนนสายหลัก แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนเรื่องของรถบรรทุกน้ำหนักเกินในเส้นทางรองเป็นหลัก แต่ละปีตรวจจับได้ปีละ 3-4 พันคัน และยังพบว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายอยู่



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JZIqi43stYc

คุณอาจสนใจ

Related News