สังคม
ชาวดอยสะเก็ดลุกฮือ! ไม่เอา 'วันไหล' ผู้จัดงานอ้างเป็นข้าราชการ ขูดรีดค่าแผง เก็บส่วยสติกเกอร์ขายเหล้า
โดย nut_p
19 เม.ย. 2567
40 views
ชาวดอยสะเก็ดลุกฮือ! ประท้วงไม่เอา 'วันไหลสงกรานต์' เหตุถูกผู้จัดงานอ้างเป็นข้าราชการ ขูดรีดค่าแบ่งล็อกขายของ ซ้ำเก็บส่วยสติกเกอร์ขายเหล้า ในเขตเขื่อนแม่กวงอุดมธาราซึ่งเป็นสถานที่ราชการฟรี
ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด รวมตัวกันชูป้ายไปขอยื่นหนังสือนายอำเภอประท้วงไม่เอางานวันไหล ที่พบว่าออแกไนซ์ตัวแทนของ สถานีวิทยุ ร.ด.สังกัดกองทัพบก ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนนอกพื้นที่ มาขอใช้สถานที่ของเขื่อนแม่กวงอุดมธาราซึ่งเป็นสถานที่ราชการฟรี สำหรับเล่นน้ำ แต่มาแบ่งล็อคเก็บค่าเช่ากับชาวบ้านในช่วงงานสงกรานต์ที่ผ่านมา แถมขูดรีดเอาค่าเช่าสติกเกอร์ เพื่ออนุญาตให้ขายเหล้าได้โดยไม่ถูกจับทั้ง ๆ ที่เป็นสถานที่ราชการห้ามขายเหล้า แถมยังขอใช้พื้นที่ช่วงรอบปล่อยน้ำวันที่ 21-27 เมษายน เพื่อจัดงานวันไหล และขูดรีดค่าเช่าล๊อคขายของจากชาวบ้านซ้ำอีก ทั้ง ๆ ที่ชาวบ้านร่วมกันทำมาก่อนหน้านี้ โดยบริหารจัดการกันเองในชุมชน ทวงถามเงินที่ได้ไหลเข้ากระเป๋าใคร
วันนี้ (19 เม.ย.67) ที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวชุมชนในพื้นที่ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด และตำบลหนองแหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 50 คน รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ตรวจสอบกรณีที่มีหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ขออนุญาตใช้พื้นที่จากเขื่อนแม่กวงฯ แล้วร่วมกับวิสาหกิจชุมชนแห่งหนึ่งจากต่างนอกพื้นที่ เข้าจัดงานสงกรานต์และเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บริเวณปากอุโมงค์ส่งน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างตำบลลวงเหนือและตำบลหนองแหย่ง
โดยมีการเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าพื้นที่ขายแผงละ 2,200 บาท และหากแผงใดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะถูกเก็บเงินเพิ่มอีกแผงละ 2,500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ที่ชุมชนร่วมกันจัดและรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ไม่ได้เข้าชุมชน ขณะเดียวกันทางผู้จัดงานยังเตรียมที่จะจัดงานวันไหลอีกในช่วงวันที่ 21-27 เม.ย. 67 ทั้งที่ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และเรียกเก็บเงินค่าเช่าพื้นที่เพิ่มอีกแผงละ 1,500 บาท ซึ่งเห็นว่าไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวชุมชนทั้ง 2 ตำบล ระบุว่า การจัดงานทุกปีที่ผ่านมาจะเป็นในลักษณะที่ชุมชนบริหารจัดการร่วมกันโดยมีการตั้งคณะกรรมการร่วมของทั้ง 2 ตำบล และตัวแทนเขื่อนแม่กวงฯ แต่ปรากฏว่าปีนี้มีหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่จากทางเขื่อนแม่กวงฯ แล้วร่วมกับวิสาหกิจชุมชนแห่งหนึ่งจากนอกพื้นที่เข้ามาเป็นผู้จัดงาน โดยเบื้องต้นตามที่กำหนดไว้จะมีการแบ่งพื้นที่ให้ขายของจำนวน 200 ร้าน เก็บค่าเช่าตลอดงานแผงละ 2,200 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อเริ่มงานกลับมาจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 400 ร้าน ขณะที่ในส่วนของร้านที่เปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางผู้จัดงานเรียกเก็บเงินค่าเช่าเพิ่มแผงละ 2,500 บาท อ้างว่าเป็นค่าขออนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้รับหลักฐานเป็นเพียงสติกเกอร์ขนาดเท่านามบัตรพิมพ์อักษร “L” จำนวน 1 ใบ ให้เพื่อติดหน้าร้านเท่านั้น จึงไม่แน่ใจว่าได้มีการยื่นขออนุญาตต่อทางสรรพสามิตรอย่างถูกต้องจริงหรือไม่ หรือว่าเงินดังกล่าวตกไปอยู่ที่ผู้ใด เพราะตามเงื่อนไขปกติในการใช้พื้นที่นั้น ทางเขื่อนแม่กวงฯ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวชุมชน ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้หน่วยงานที่ทำหนังสือขอใช้พื้นที่และได้รับอนุญาตจัดงานจะเป็นหน่วยงานราชการ แต่แท้ที่จริงแล้วผู้จัดงานน่าจะเป็นเอกชนที่ออแกไนเซอร์ เนื่องจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าจากต่างพื้นที่ที่เข้ามาตั้งร้านขายในงานเดียวกันนี้บอกว่า ปกติจะตระเวนออกร้านขายของตามงานต่าง ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว โดยที่มีผู้ที่คอยประสานงานและจัดสรรพื้นที่ให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าดังกล่าว
จึงเชื่อว่าผู้จัดงานครั้งนี้ตัวจริงน่าจะเป็นออแกไนเซอร์มากกว่า รวมทั้งสงสัยด้วยว่า การจัดงานครั้งนี้มีการเก็บค่าเช่าพื้นที่แพงกว่าทุกปีที่ผ่านมาที่ชุมชนบริหารจัดการกันเอง ทว่าเงินรายได้ที่จัดเก็บได้จากการจัดงานในครั้งนี้กลับไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของชุมชนท้องถิ่น แต่น่าจะเป็นการทำกำไรและผลประโยชน์ให้กับผู้จัดงานมากกว่า เพราะทางผู้จัดงานเตรียมที่จะจัดงานวันไหลอีก โดยเก็บเงินค่าเช่าพื้นที่เพิ่มอีก ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรมและเอารัดเอาเปรียบชุมชนมากเกินไป จึงอยากร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับชาวชุมชนทั้ง 2 ตำบล
ขณะเดียวกันผู้ค้าอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ในช่วงจัดงานถูกประธานวิสาหกิจชุมชนจากนอกพื้นที่ที่เป็นผู้จัดงานแสดงพฤติกรรมข่มขู่คุกคามด้วย จากการที่ตัวเองแสดงความคิดเห็นเรื่องการที่ผู้จัดงานจะเรียกเก็บเงินเพิ่มร้านละ 1,800 บาท เป็นค่าเช่าพื้นที่ขายในช่วงจัดงานวันไหล ซึ่งตัวเองไม่เห็นด้วยและเสนอให้มีการประชุมผู้ค้าเพื่อตกลงกันก่อนจะดีกว่า แต่ทางผู้จัดงานได้พูดขึ้นอย่างมีอารมณ์ตำหนิตัวเองว่ามีปัญหาเยอะ และบอกว่ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร เขาเป็นข้าราชการซี 8 ดังนั้น อย่ามีปัญหากับเขาจะดีกว่า รวมทั้งเขายังได้ใช้ขวดน้ำดื่มตีเข้าที่หน้าอกของตัวเขาเองด้วย ซึ่งช่วงเกิดเหตุนี้มีพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์หลายราย ทั้งนี้มองว่าการจัดงานเช่นนี้ในครั้งต่อ ๆ ไป ไม่ควรให้หน่วยงานจากต่างพื้นที่เข้ามาจัด และให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้จัดดีกว่า