พฐ.ลุยตรวจรถตู้ หาพยานหลักฐานเด็กหญิง 13 ขวบ ถูกข่มขืน

ความคืบหน้ากรณีย่าของเด็กหญิงวัย 13 ปี ชาว อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ร้องเรียนผ่านสื่อว่าหลานสาว ถูกคนขับรถตู้ข่มขืนระหว่างโดยสารเดินทางไปหาพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ ขณะที่คนขับรถตู้ออกมาปฏิเสธและแสดงความบริสุทธิ์ใจนำรถตู้มาพบตำรวจด้วยตัวเอง ก่อนที่ทางตำรวจจะส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะทราบผลประมาณ 2 สัปดาห์-1 เดือน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรานุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ถึงอาการของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่มีอาการหวาดระแวงและไม่ยอมพูด โดยทางแพทย์สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไขสันหลังอักเสบหรือไม่ ซึ่งต้องแยกกับทางระบบประสาทในเรื่องของสภาพจิตใจ โดยได้ทำการตรวจคลื่นสมองว่าอาจจะมีอาการของลักษณะลมชักหรือไม่ แต่ทั้งการตรวจไขสันหลังและคลื่นสมองพบว่าปกติ ส่วนการตรวจหาสารพิษสารเคมีต่างๆที่อาจทำให้เกิดอาการกับเด็กนั้น ทางโรงพยาบาล ได้ส่งน้ำในไขสันหลัง ไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลประมาณ 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลขอนแก่น จะส่งตัวเด็กไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อให้เด็กมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด และเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากเด็กมีอาการหวาดกลัวและยังหวาดระแวง และอยากจะขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ขอให้มองสิทธิของเด็กและกฎหมายของเด็กเป็นสำคัญ เพื่อช่วยเหลือสภาพจิตใจของเด็กก่อน

ด้าน พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแวงน้อย เปิดเผยทางคดีว่า เจ้าหน้าที่ส่งรถตู้คันดังกล่าวตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อตรวจภายรอบนอกรถ หลังจากตรวจสอบภายในรถตู้ไปก่อนหน้านี้ และส่วนประกอบเอกสารต่างๆ พร้อมเก็บดีเอ็นเอ รวมทั้งหลักฐานต่างๆภายในรถตู้และคนขับ ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลทั้งหมดจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4

นอกจากนี้คำให้การต่างๆนั้น ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำเจ้าของรถตู้ในฐานะพยาน ซึ่งเป็นคนขับในวันดังกล่าว รวมทั้งผู้โดยสาร 12 คน ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำ และยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร หรือสอบสวนใครในฐานะผู้ต้องหา เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ตำรวจ สภ.แวงน้อย ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ทำการสอบปากคำผู้โดยสารที่เดินทางมาพร้อมกับเด็กในวันดังกล่าวไปได้แล้วประมาณ 40%