ผอ.ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ยันจนท.ไม่ได้ฉลองหลังบุกจับผับเชียงใหม่

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เเละผอ.ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง แถลงข่าวกรณี สภ.ช้างเผือก บุกจับสถานบริการ เเละพบเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ภายในร้าน

โดย ผอ.ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ยืนยันว่าข่าวที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษไปฉลองความสำเร็จ และอนุญาตให้สถานบริการบางแห่งเปิดเกินเวลา เป็นการบิดเบือนข่าวสารของสื่อบางสำนัก เพราะความจริงแล้ว ไทม์ไลน์การปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองนั้น เริ่มจากชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้ประชุมงานเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ในวันฮาโลวีน เพื่อเปิดปฏิบัติการป่าช้าแตก วันที่ 1 พฤศจิกายน ในเวลาเที่ยงคืน 30 นาที โดยได้เข้าปฏิบัติการสถานบันเทิง ชื่อร้าน“เลอ เนิร์ฟ ผับ” ซึ่งเป็นผับเถื่อน ไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาจำนวน 7 ข้อหา นอกจากนั้นยังพบว่า ผับดังกล่าวปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวนมากถึง 242 คน เข้าไปใช้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นการให้เด็กเข้าใช้บริการมากที่สุดเท่าที่เคยเข้าตรวจมา เป็นลำดับต้นๆ ในประเทศ รองจากจ.เชียงราย ที่เคยพบว่าให้เด็กเข้าใช้บริการมากกว่า 300 คน

หลังจากปฏิบัติการร้าน “เลอ เนิร์ฟ ผับ” เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที ในวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่ได้มอบหมายให้ชุดสืบของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง อยู่ในพื้นที่ 2 นาย เพื่อเก็บข้อมูล ดูปฏิกิริยาด้านต่างๆ หลังเข้าตรวจสอบจับกุมแล้ว


ส่วนเหตุการณ์วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เข้าตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วพบชุดสืบของชุดปฏิบัติพิเศษกรมการปกครองอยู่ในร้านนั้น เป็นการลงพื้นที่ปฏิบัติงานของชุดสืบ เพราะชุดสืบ 2 คน ได้แยกกันลงพื้นที่เก็บข้อมูลกันคนละร้าน ไม่ได้ไปฉลองผลงานตามที่เป็นข่าว

ส่วนร้านที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบนั้น ไม่ใช่สถานบริการ ไม่ได้เป็นผับ ไม่มีการเล่นดนตรีสด ไม่มีการเต้นรำ แต่เป็นร้านอาหารที่มีดาดฟ้า มีการเปิดเพลง ทานอาหารปกติ เมื่อตำรวจ สภ.ช้างเผือก เข้ามาตรวจสอบ พบการกระทำผิดของร้านเพียงข้อหาเดียว คือการจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กำหนด ทางร้านก็จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 3,000 บาท ซึ่งปกติร้านอาหารที่ไม่ใช่สถานบริการ ก็สามารถเปิดบริการได้อยู่แล้ว

ดังนั้นการนำเสนอข้อมูลของสื่อมวลชนบางสำนัก เป็นการบิดเบือนข้อมูล ทำให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเสียหาย โดยลงข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติพิเศษกรมการปกครอง ไปเลี้ยงฉลองอยู่ในร้าน แต่ความจริงแล้วมีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเพียง 1 คน ที่ลงพื้นที่หาข้อมูลในร้านดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้กลับมาที่กรมการปกครอง กรุงเทพมหานคร แล้ว ยกเว้นชุดสืบ 2 คน ที่ยังอยู่ในพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลในพื้นที่

ดังนัั้นสื่อดังกล่าว ที่ระบุว่ากรมการปกครอง อนุญาตให้ผับเปิดเกินเวลาได้นั้น เป็นข้อมูลที่บิดเบือนไม่เป็นความจริง เชื่อว่าเป็นการตั้งใจสร้างข่าว เพื่อลดความน่าเชื่อถือของชุดปฏิบัติพิเศษกรมการปกครอง เพราะว่าการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองนั้น ทำให้คนที่ทำธุกิจสีเทาหลายคนเสียผลประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ยืนยันว่าจะทำงานต่อไป การให้ข้อมูลที่บิดเบือนไม่มีผลต่อขวัญกำลังใจในการทำงาน

ในส่วนของสื่อบางสำนักที่เป็นต้นเรื่องในการบิดเบือนข้อมูล ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ให้โอกาสแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง ถ้ารู้ความจริงแล้วยังไม่แก้ไขให้ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รวมถึงสื่ออื่นๆเช่นกัน ที่รู้ความจริงแล้ว แต่ยังเอาข่าวที่บิดเบือนไปนำเสนออีก ถือเป็นการทำผิดซ้ำ สื่อที่นำเสนอก็จะมีความผิดด้วย ดังนั้นตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันนี้ ถ้ายังมีการนำเสนอข่อมูลที่บิดเบือน ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จะเก็บข้อมูล และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด