เลือกตั้งและการเมือง

มาตามนัด! 'เศรษฐา' ชม 'บั้งไฟพญานาค' ริมโขง นับได้ 61 ลูก ลั่นหนุนทุกเทศกาล ดันทุกวันเป็นไฮซีซั่น

โดย nattachat_c

30 ต.ค. 2566

342 views

วานนี้ (29 ต.ค. 66) ช่วงเย็น ที่ริมแม่น้ำโขง หน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย มีประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางเข้าพื้นที่ จับจองที่นั่งริมฝั่งโขง เพื่อรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค


ซึ่งออกพรรษาปีนี้ เป็นวันอาทิตย์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานออกพรรษาที่จังหวัดหนองคายเป็นจำนวนมาก และต่างก็มีปลายทางอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง เพื่อชมบั้งไฟพญานาค โดยจุดหลัก ๆ คือ ที่ อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี


ที่วัดไทย อ.โพนพิสัย  มีพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค  


จากนั้น จะมีพิธีพราหมณ์ และตามด้วยการรำบวงสรวงบูชาพญานาค โดยปีนี้ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ดารานักแสดงสาวชื่อดัง มาร่วมรำกับพี่น้องประชาชนชาวอำเภอโพนพิสัยด้วย


สำหรับปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ปี 2565 ที่ผ่านมา มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 260 ลูก โดยที่ อ.โพนพิสัย มี 20 ลูก ส่วน อ.รัตนวาปี มี 240 ลูก


นักท่องเที่ยวที่เคยมาชมบั้งไฟพญานาคแล้ว ก็ยังคงมามีศรัทธามาชมอีก ส่วนผู้ที่ไม่เคยมาก็อยากมาเห็นกับตาสักครั้ง ทำให้ทุกปีออกพรรษาบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคายคึกคักเป็นอย่างมาก

-------------

วานนี้ (29 ต.ค. 66) ช่วงเย็น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 (Naga Fire Miracle of Faith)


และเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในโอกาสงานประเพณีออกพรรษา ณ ลานนาคาเบิกฟ้า อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย โดยมี...

  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
  • นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
  • นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
  • นางพวงเพ็ชร ชุดละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วย  

ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก


เมื่อ นายกฯ และคณะมาถึง ได้ทักทายประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน พร้อมเยี่ยมชมบูธธงฟ้าของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงราคาเนื้อหมู และน้ำตาล รวมถึงแนวทางควบคุมราคาสินค้า


ช่วงหนึ่ง ระหว่างเดินทักทายประชาชน มีพ่อค้าเข้ามาร้องเรียนนายกฯ ขอให้ช่วยเจรจากับทางลาว เพื่อให้เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าฝั่งลาว ข้ามมาขายของฝั่งไทยได้ในตอนนี้  


เมื่อนายกรัฐมนตรีรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชนแล้ว ก็หันไปพูดคุยกับผู้ว่าฯหนองคายทันที พร้อมบอกว่า จะพยามช่วยเจรจาให้


นอกจากนี้ ช่วงหนึ่งประชาชนที่ถือป้ายข้อความว่า "รักนายกเศรษฐา" พร้อมตะโกนว่า "รักนายกฯ เศรษฐา และอยากได้เงินหมื่น" ก่อนให้เซ็นเสื้อ


จากนั้น นายกฯขึ้นกล่าวกับประชาชน ว่า “สวัสดีครับพี่น้องชาวหนองคายทุกท่าน รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมพิธีในวันนี้ ดีใจที่ท่านมาท่านมืดฟ้ามัวดิน รัฐบาลนี้ มีความตั้งใจสนับสนุนทุกเทศกาล ทุกจังหวัด และสนับสนุนจังหวัดหนองคาย และจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นเมืองรอง ให้มีการท่องเที่ยวในทุกเดือน พี่น้องครับ วันนี้ถือว่าเป็นวันมงคล ส่วนตัวตื่นตาตื่นใจที่จะมีผู้มารำให้ชมกว่าพันคน ฉะนั้น  ขอให้ทุกคนแสดงอย่างเต็มที่”


นายกฯกล่าวว่า จากที่ตนเดินทางมาก็ได้รับฟังหลายปัญหา ทั้งเรื่องการเปิดด่านชั่วคราวที่ไทยมีอยู่ 4 ด่าน ซึ่งประเทศไทยไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าเรื่องนี้อยู่ที่ฝั่งลาว ฉะนั้น จากที่ตนจะเดินทางไปพูดคุยกับผู้นำ สปป.ลาว ก็จะได้มีการพูดคุยกันให้มีความเป็นมิตรยิ่งขึ้น และทำให้การขนส่งสินค้าเข้าออกมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพวกเราทุกคน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


จากนั้นนายกฯร่วมพิธีเปิดงาน พร้อมรับชมการรําบวงสรวงพญาพิสัยสัตตนาคราช โดยนางรำในจังหวัดหนองคายกว่า 1 พันคน และดารานักแสดง ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ร่วมพิธีรำด้วย

------------

จากนั้น เวลาประมาณ 18.00 น. นายเศรษฐา เดินทางมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ที่พุทธอุทยานนานาชาติ (ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์) ตำบลกุดบง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ภายหลังเปิดงานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566


เมื่อมาถึงนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอดูบั้งไฟพญานาค ก่อนไปนั่งรอดูบั้งไฟพญานาคอยู่ริมแม่น้ำโขง พร้อมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ,นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม


โดยนายกฯ ไปนั่งบนเสื่อที่ปูไว้ต้อนรับบริเวณบันไดทางขึ้นลงตลิ่งแม่น้ำโขง ชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคร่วมกับบรรดานักท่องเที่ยวที่มารอชมก่อนหน้านี้แล้ว และก็ไม่ผิดหวัง เพราะนายกฯ ได้เห็นบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว และบริเวณใกล้เคียง


ขณะที่ป ระชาชนพากันชมนายกฯ บอกว่า หล่อกว่าในทีวี เป็นกันเองไม่ถือตัว บางคนบอกขอถ่ายรูปกับนายกฯ เศรษฐา เผื่อจะได้เป็นเศรษฐี


ขณะที่ บางคนบอกว่า โชคดีมาดูบั้งไฟพญานาคครั้งแรก ก็ได้มาดูกับนายกฯ โดยนายกรัฐมนตรี และคณะ นั่งชมบั้งไฟพญานาคประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เดินทางกลับ


ทั้งนี้ จากการรายงานการเกิดบั้งไฟพญานาคของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจังหวัดหนองคาย นับตั้งแต่บั้งไฟพญานาคลูกแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. ที่บ้านต้อน อ.รัตนวาปี


หลังจากนั้นก็มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกระจายในหลายจุด อาทิ บ้านตาลชุม , บ้านเปงจานเหนือ อ.รัตนวาปี, ที่วัดไทย อ.โพนพิสัย จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นรวมประมาณ 61 ลูก  

-------------

วานนี้ (29 ต.ค.66) หลังจากร่วมงานประเพณีออกพรรษา และปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคของจังหวัดหนองคาย พร้อมกับได้ชมบั้งไฟพญานาคแล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ทวีตว่า


“รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานประเพณีออกพรรษา และปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ของจังหวัดหนองคาย ปีนี้ครับ งานนี้เป็นงานระดับโลก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ และเฝ้าดูปรากฏการณ์นี้ทุกปี


รัฐบาลนี้ ตั้งใจสนับสนุนเทศกาลทุก ๆ เทศกาล ในทุก ๆ จังหวัด ผมอยากจะให้ประเทศไทยไม่มี High Season - Low Season แต่อยากให้ทุกเดือนเป็น High Season หมด เราจะโปรโมททุก ๆ Event ของทุก ๆ เดือน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเล็ก หรือจังหวัดใหญ่ เพื่อให้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นครับ


วันนี้ ถือว่าเป็นวันอันมงคล พวกเราหลายพันคนมายืนอยู่ด้วยกัน ณ ที่นี้ สส.มด และ สส.หญิง พรรคเพื่อไทย ก็มาร่วมรำในงานนี้ด้วย ผมดีใจครับ ที่เราทุกคนช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของเราไว้ นี่แหละครับคือจุดแข็งของเรา คือ Soft Power ที่เราสามารถส่งออกสู่สายตาชาวโลก และสร้างเป็นรายได้กลับคืนมาสู่ชุมชนของเราได้

--------------

วานนี้ (29 ต.ค. 66) เวลา 14.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานประกอบพิธีทางศาสนาและพิธีเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2566


โดยได้นมัสการศาลหลักเมือง อัญเชิญไฟพระฤกษ์ขึ้นประดิษฐานบนแท่นบุษบกในบริเวณปะรำพิธี  พร้อมจุดไฟพระฤกษ์จากแท่นประดิษฐานไปจุดต่อไว้บนเรือไฟจำลอง และส่งต่อให้ผู้แทนเรือไฟ ที่เข้าร่วมกิจกรรม นำไปจุดต่อที่เรือไฟของตนเอง เพื่อความเป็นศิริมงคล ก่อนปล่อยเรือไฟในช่วงเย็น      


ขณะที่ ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ เพื่อรอชมการไหลเรือเป็นจำนวนมาก


งานประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี 2566 นี้ จัดขึ้นที่บริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัดนครพนม และริมฝั่งแม่น้ำโขง เลียบถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อสืบสานประเพณีอันเก่าแก่และงดงาม ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อและศรัทธา ที่ว่า การไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนันทามหานที เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเทศนา โปรดพญานาคที่เมืองบาดาล รวมถึง เป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่น้ำโขง ที่ทุกคนได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิต ทั้งเป็นการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินลงไป


ในปีนี้ มีการจัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ จำนวน 15 ลำ ขนาดใหญ่สุด คือ ยาว 79 เมตร ส่วนตะเกียงที่ใช้ประดับเรือไฟเพื่อให้เกิดเป็นลวดลายที่สวยงามตามการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละลำ ที่มีการสอดแทรกเรื่องราววิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของดีของเด่นในชุมชน ตลอดจนการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาเสริมสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมกลางสายน้ำ โดยในการไหลเรือไฟจะมีเรือไฟไหลโชว์ให้ชมทุกวัน ก่อนจะถึงการไหลจริงในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11


สำหรับการประกวดเรือไฟจะมี 12 ลำ จาก 12 อำเภอ นอกจากจะได้ชมการไหลเรือไฟจาก 12 อำเภอ จำนวน 12 ลำแล้ว ยังได้ชมกระทงสาย 5,000 ดวง ด้วย  


โดยเริ่มปล่อยเรือไฟลำแรก (อำเภอนาหว้า) เวลา 18.00 น. ต่อด้วยเรือไฟจากอำเภอศรีสงคราม โพนสวรรค์ นาทม บ้านแพง ปลาปาก อำเภอเมืองนครพนม ท่าอุเทน นาแก วังยาง เรณูนคร และเรือไฟจากอำเภอธาตุพนม เป็นลำสุดท้าย ในเวลา 21.40 น.

--------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/hdCjRKKdyDw


คุณอาจสนใจ

Related News