ชาวปาเลสไตน์บุกโกดังสิ่งของบรรเทาทุกข์ หลังความช่วยเหลือแทบไม่ถึงฉนวนกาซา

ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา บุกเข้าไปในโกดัง และศูนย์กระจายสินค้าทางตอนใต้ และตอนกลาง ของฉนวนกาซา แล้วหยิบคว้านำแป้ง รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ ออกไป ขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ เมื่ออิสราเอลเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินแล้ว

โดยมีภาพเป็นเหตุที่เกิดขึ้นที่เมืองข่าน ยูนีส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อประชาชนจำนวนมากบุกเข้าไปในโกดังสิ่งของบรรเทาทุกข์ขององค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ สำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA)      

ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ ระบุว่า “นี่เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลว่า ความสงบเรียบร้อยของพลเรือนเริ่มพังทลายลง หลังสงครามนาน 3 สัปดาห์ และการปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างแน่นหนา ผู้คนหวาดกลัว หงุดหงิด และหมดหวัง ความเครียดและความกลัวยิ่งเลวร้ายลงหลังการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์

ทางด้าน มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการประสานงานกิจการมนุษยธรรม กล่าวว่า ความช่วยเหลือแทบจะไม่ได้เข้าไปสู่ฉนวนกาซาเลย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การโจมตีของอิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้น

โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เตือนว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินขนาดใหญ่ของอิสราเอลในฉนวนกาซา อาจส่งผลให้เกิดหายนะตามมา และมีพลเรือนเสียชีวิตอีกหลายพันคน พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย และผู้มีอิทธิพล ในภูมิภาค ทำทุกอย่างเพื่อลดความรุนแรงของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

ขณะที่ คณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) ได้เรียกร้องให้มีการลดความรุนแรงของความขัดแย้งในฉนวนกาซาทันที โดยย้ำว่าขณะนี้ พลเรือน 2 ล้านคน ถูกขังอยู่ในฉนวนกาซา โดยไม่มีที่ให้หลบหนี ท่ามกลางการโจมตีครั้งใหญ่ และการปิดล้อมของกองทัพ มันคือหายนะ และความล้มเหลว ที่โลกไม่อาจยินยอมให้เกิดขึ้นได้

ICRC ยังประณามการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ และย้ำคำเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกัน แต่ลำดับความสำคัญสูงสุดคือการช่วยชีวิต นั่นหมายถึง การอนุญาตให้มีการส่งมอบความช่วยเหลืออย่างยั่งยืน และการเปิดให้หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้

-----------