'เคเอฟซี' ปิดกว่า 100 สาขาในมาเลเซีย หลังเจอคว่ำบาตร เซ่นพิษกระแสเชื่อมโยงสงครามอิสราเอล

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า 'เคเอฟซี' ฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดชื่อดังระดับโลก ทนกระแสต่อต้านไม่ไหว ต้องปิดร้านชั่วคราวแล้วกว่า 100 สาขา ในมาเลเซีย โดยบริษัท ระบุว่า เป็นปัญหาจาก 'ภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย' แต่กระนั้น สื่อท้องถิ่นในมาเลเซีย ระบุว่า เป็นเพราะผลกระทบจากที่ชาวมุสลิมได้รวมตัวคว่ำบาตรแบรนด์ที่สนับสนุน หรือเชื่อมโยงกับอิสราเอล

สื่อท้องถิ่นในมาเลเซียรายงานว่า การปิดสาขาของเคเอฟซี เกิดขึ้นเนื่องจากพิษการคว่ำบาตรของชาวมุสลิมในประเทศ เนื่องจากมองว่า 'เคเอฟซี' สนับสนุนความรุนแรงของสงครามในฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

กระนั้น ทางด้าน บริษัท คิวเอสอาร์ แบรนด์ส (เอ็ม) โฮลดิงส์ ซึ่งดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ เคเอฟซี และ พิซซ่าฮัท ในมาเลเซีย ให้เหตุผลว่าเป็นเรื่อง 'ภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย' มากกว่า

แถลงการณ์ของบริษัท ระบุว่า ทางบริษัทได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อปิดสาขาต่าง ๆ ชั่วคราว เพื่อบริหารจัดการต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และมุ่งเน้นไปที่สาขาที่ยังมีจำนวนลูกค้าใช้บริการสูง

ทั้งนี้ สำหรับพนักงานในร้านที่ถูกปิด สามารถย้ายไปทำงานในร้านที่ยังเปิดให้บริการได้

นอกจากนี้ ตามคำแถลงของทางบริษัทดังกล่าว ไม่ได้กล่าวถึงการรายงานข่าวของสื่อท้องถิ่น และไม่ได้ระบุจำนวนร้านที่ปิดบริการ แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เคเอฟซีกว่า 100 สาขา ในประเทศ จะถูกปิดชั่วคราว

ทั้งนี้ การคว่ำบาตรในลักษณะดังกล่าวของผู้บริโภคชาวมุสลิมในมาเลเซีย ไม่ได้เกิดกับเคเอฟซีเพียงรายเดียว แต่ยังเกิดกับร้านฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันรายอื่น ๆ ด้วย เช่น แมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ เนื่องจากผู้บริโภคมองว่า สหรัฐฯให้ความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ประเทศอิสราเอลในการโจมตีฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลทำให้มีชาวปาเลสไตน์จำนวนมหาศาลเสียชีวิตจากความขัดแย้งครั้งนี้ 

--------------