ต่างประเทศ
'ยูเอ็น' เตือนเอเชีย กำลังเผชิญหน้ากับ 'วิกฤติคลื่นความร้อน' ที่ถี่และรุนแรงมากขึ้น
24 เม.ย. 2567
564 views
วานนี้ (23 เม.ย. 67) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกโรงเตือนถึงอันตราย ที่เอเชียกำลังเผชิญเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความถี่ และความรุนแรง ของคลื่นความร้อนที่เพิ่มขึ้น
โดย เซเลสต์ เซาโล เลขาธิการ WMO ระบุว่า “หลายประเทศในภูมิภาคเผชิญกับปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2566 ควบคู่ไปกับสภาวะที่รุนแรง ตั้งแต่ภัยแล้ง คลื่นความร้อน ไปจนถึงน้ำท่วม และพายุ”
WMO ได้เผยแพร่รายงานหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้ว ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเอเชีย” ชี้ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีป มีการบันทึกอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้น ตั้งแต่ไซบีเรียตะวันตก ไปจนถึงเอเชียกลาง และจากจีนตะวันออก ไปจนถึงญี่ปุ่น และคาซัคสถาน ต่างมีปีที่อากาศอบอุ่นเป็นประวัติการณ์
ตามบันทึกของ WMO อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นในเอเชียนั้น ได้มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นกว่าค่า เฉลี่ยทั่วโลก และแนวโน้มผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ได้เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่านับตั้งแต่ช่วงปี 1961 - 1990
อีกทั้ง อุณหภูมิที่สูงขึ้น ยังส่งผลต่อพื้นผิวทะเลด้วย โดยอุณหภูมิได้สูงเป็นประวัติการณ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และแม้แต่มหาสมุทรอาร์กติก ก็ประสบปัญหาคลื่นความร้อนในทะเล
ปรากฏการณ์นี้ ส่งผลให้เกิดภัยแล้ง และปริมาณน้ำฝนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในหลายประเทศในเอเชีย ตลอดจนการละลายของธารน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
ในปี 2023 เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางอุตุนิยมวิทยามากที่สุดในโลก โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม และพายุ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,000 ราย และประชาชน 9 ล้านคน ได้รับผลกระทบโดยตรง
เซาโล กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ความถี่ และความรุนแรงของเหตุการณ์ดังกล่าว รุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสังคม เศรษฐกิจ และที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ที่เราอาศัยอยู่”
------------
ขณะเดียวกัน ที่บังกลาเทศ คลื่นความร้อนที่รุนแรงกำลังเล่นงานประเทศแห่งนี้มานานกว่าสัปดาห์แล้ว ทำให้อุณหภูมิร้อนจัดสูงแตะ 43 องศาเซลเซียส ทำให้ล่าสุดทางการต้องประกาศเตือนภัยแล้ว และได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมพร้อมรับมือ
กรมอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศ ระบุว่า “เนื่องจากเกิดความชื้นเพิ่มมากขึ้น และอากาศที่ร้อน ทำให้ความรู้สึกไม่สบาย จะเพิ่มขึ้นในช่วง 72 ชั่วโมง ข้างหน้า”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดโรงเรียนชั่วคราวตลอดทั้งสัปดาห์ และขอให้ประชาชนอยู่ให้ห่างจากแสงแดด เพื่อหลีกเลี่ยงโรคลมแดด ขณะที่ชาวบังกลาเทศหลายคนบอกว่า แทบจะลืมตากลางแดดไม่ได้เลย
------------
ขณะเดียวกันที่ ฟิลิปปินส์ ก็พบว่า ดัชนีความร้อนพุ่งขึ้นสู่ระดับอันตราย ใน 24 เมือง เมื่อวานนี้
โดยพบว่า ดัชนีความร้อนล่าสุด อยู่ที่อยู่ระหว่าง 42°C - 46° ในหลายเมือง ทั้งเกซอน ซิตี้ / ดากูปัน / ตูเกกาโร และคากายัน และอีกหลายเมือง
------------