สังคม

เจ็ทสกีเจอคลื่น เสียหลักพุ่งชนเรือหางยาว ดับ 3 พ่อเศร้าสูญเสียลูกสาว

โดย passamon_a

29 ต.ค. 2566

1.4K views

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ต.ค.66 ตำรวจ สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุ มีเรือชนกันกลางคลองหนองงูเห่า หมู่ที่ 10 ต.ศรีษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ  


ที่เกิดเหตุอยู่ริมคลอง พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย ทราบชื่อ รายแรก นายสราวุธ อายุ 31 ปี เป็นคนขับเรือ สภาพศพมีเลือดไหลออกมาที่จมูก และบอมช้ำภายในจากแรงกระแทก รายที่ 2 ชื่อ นายกฤษฏา อายุ 30 ปี นั่งอยู่หัวเรือ สภาพศพด้านหลังมีแผลฉกรรจ์ อวัยวะภายในไหลออกมา และรายที่ 3 ชื่อ น.ส.วริศรา อายุ 29 ปี นั่งอยู่กลางลำเรือ สภาพศพมีแผลบริเวณด้านหลัง และบอบช้ำภายใน เสียชีวิตคาที่ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ขับขี่และโดยสารมากับเรือหางยาว หรือเรือกระบะ


จากการสอบถาม นายคมสันต์ พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงประมาณ 10.40 น. ขณะตนอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นเจ็ตสกีวิ่งมาจาก อบต.หนองปรือ อ.บางพลีใหญ่ มุ่งหน้าไปทางลาดกระบัง โดยมีเจ็ตสกีมาจำนวน 2 ลำ จู่ ๆ เจ็ตสกีลำที่สอง อยู่ด้านขวา คนขับได้เสียหลักกระเด็น หลุดจากเจ็ตสกี ตกลงไปในน้ำ บริเวณกลางคลอง ส่วนเจ็ตสกีพุ่งตรงเข้าไปชนปะทะกับเรืองหางยาว ที่วิ่งสวนทางมา เป็นเหตุให้ทั้งสามคนตกจมลงไปในน้ำเสียชีวิตคาที่ ชาวบ้านและพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ จึงลงช่วยกันงมนำร่างขึ้นมาไว้ริมตลิ่ง รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ


ส่วน นายกบิล อายุ 34 ปี คนขับเจ็ตสกี กล่าวว่า ตนไปเที่ยวงานประเพณีรับบัวที่วัดบางพลีใหญ่ใน หลังจบงานกำลังเดินทางไปเที่ยวกันต่อย่านลาดกระบัง โดยขับเจ็ตสกีมาจำนวนสี่ลำ ตนขับเป็นลำที่สอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเสียหลักจากคลื่นของเรือเจ็ตสกีลำแรก ทำให้มือหลุดออกจากคันบังคับ ตกลงในน้ำ ส่วนเจ็ตสกีวิ่งพุ่งเข้าไปชนกับเรือหางยาวที่มีผู้เสียชีวิตนั่งมา


ขณะที่ นายสมพงษ์ อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.วริศรา ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกสาวทำงานเป็นพนักงานของบริษัทสิ่งทอแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางพลี เมื่อวันที่ 28 ต.ค. แจ้งหัวหน้าขอลาหยุดงาน เพื่อไปทำบุญและเที่ยวงานประเพณีรับบัว ตนมารู้เรื่อง เพราะผู้ใหญ่บ้านโทรมาแจ้งว่าลูกสาวเกิดอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต ตนไม่แน่ใจ จึงโทรหาลูกสาว แต่ไม่รับสาย จากนั้น อบต.ในพื้นที่ ได้นำรูปถ่ายของลูกสาวมาให้ดู จึงแน่ใจว่าใช่จริง ๆ


เหตุการณ์ครั้งนี้ ตนเสียใจมาก เพราะมีลูกคนเดียว และเป็นเสาหลักให้กับพ่อแม่ ได้พึ่งยามแก่ชรา เมื่อลูกมาจากไปแบบนี้ ตนกับภรรยา ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป เพราะทั้งสองคนไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้อะไร โดยวันจันทร์ที่ 30 ต.ค. จะไปรับร่างลูกสาวออกจาก รพ.รามาฯสมุทรปราการ และจะนำไปทำพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดสลุด อ.บางพลี ต่อไป


ส่วนการขับขี่เรือนั้น คนขับต้องระวัง หากเกิดการสูญเสีย มันไม่คุ้มกันเลย เงิน 2-3 แสน ใช้พักเดียวก็หมด ลูกสาวตนอายุเพียง 29 ปี ยังมีอนาคตอีกไกล อยากถามคนขับเรือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเพราะความคึกคะนอง หรือมึนเมาสุราหรือเปล่า นึกถึงความปลอดภัยของคนอื่นบ้างไหม เกิดเหตุขึ้นมา ครอบครัวฝ่ายสูญเสียจะรู้สึกอย่างไร ส่วนอีกฝ่ายคงไม่รู้สึกอะไร เพราะไม่ได้เกิดกับครอบครัวคุณ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์และคนขับเจ็ตสกี จากนั้นได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ


ซึ่งในเวลา 16.00 น. ตำรวจได้นำตัว นายกบิล คนขับเจ็ตสกี มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งระหว่างการสอบสวน ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าเจ็บหน้าอก ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งโรงพยาบาล โดยระหว่างเดินออกไปขึ้นรถ ไม่หลุดให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เพียงแต่พูดว่าเจ็บหน้าอก ขอไปหาหมอก่อน


ขณะที่ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ มอบหมายให้ นายคณาธิป ภู่พันธ์ศรี เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับนายกบิล คนขับเจ็ตสกี พร้อมพวกอีก 2 คนที่ขับเจ็ตสกีมาด้วยกัน รวมทั้งหมด 3 คน ที่ทำผิดกฎหมายของกรมเจ้าท่า คือ 1.ไม่มีอนุญาตใช้เรือ ปรับ 10,000 2.ไม่มีใบควบคุมเรือหรือใบขับขี่เรือ ปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/veXtfPHPVaA

คุณอาจสนใจ

Related News