สังคม

นักธุรกิจ ร้อง ปคบ. ถูกหญิงอ้างเป็นหลานรองผบช. หลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่น้ำมันพืชยี่ห้อดัง

โดย gamonthip_s

26 ต.ค. 2566

142 views

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ต.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พาผู้เสียเข้าพบ พ.ต.ท.สถาปน์ ปัญญาพยัคฆ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ปคบ. แจ้งความกรณีผู้หญิงชักชวนให้ลงทุนน้ำมันพืชยี่ห้อดัง โดยแอบอ้างว่าตำรวจยศ พล.ต.ต. เป็นอา และยังอ้างสำนักงานพระราชวัง สร้างความน่าเชื่อถือ นอกจากนั้นยังปลอมโปรไฟล์มิสแกรนสระบุรีเป็นลูกค้ารายสำคัญ มีผู้เสียหาย 3 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 10 ล้านบาท จนทำให้ผู้เสียหายรายหนึ่งต้องพิการเพราะความเครียด



นาย ณัญกร และ น.ส.กัญชริญา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี สองสามีภรรยานักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุมาบอกตนว่ากำลังลำบาก อยู่ในช่วงที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้แทนคนอื่นเพราะโดนโกงมาอีกที ได้บอกว่ามีสินค้า และฐานลูกค้าแต่ไม่มีเงินทุน จึงมาชักชวนขอให้ตนร่วมลงทุนเพื่อทำธุรกิจค้าส่งน้ำมันพืชยี่ห้อดัง และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหลอกว่ามีฐานลูกค้าในมือเป็นจำนวนมากจากคอนเนคชั่นต่าง ๆ และหนึ่งในลูกค้าหลักของเขาคือมิสแกรนด์สระบุรี ปี 2566 โดยทราบภายหลังว่าเขาได้สร้างไลน์ปลอมมาแอบอ้าง พร้อมทั้งส่งลิงค์เป็นคลิปภาพใน TikTok ที่นางงามกำลังไลฟ์ขายน้ำมันพืชยี่ห้อดังกล่าว และข้อความพูดคุยกับทีมงานของผู้ก่อเหตุมาให้ดู อ้างว่าตนมีโควต้าพิเศษจากทางน้ำมันพืชดังกล่าว แสดงให้ตนดูว่าทางเจ้าของน้ำมันพืช ได้ออกบัตรโควต้าน้ำมันให้เป็นพิเศษ โดยมีชื่อบัตรของนายทุน และบาร์โค้ด  สามารถซื้อขายน้ำมันพืชได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ลัง เป็นขั้นต่ำ ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นบัตรปลอม รวมทั้งยังได้ส่งหลักฐานปลอมอื่น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจมาเสนอเพื่อชักชวน ผู้ก่อเหตุเป็นหุ้นแรง แล้วแบ่งผลกำไรกัน 50/50  ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ผู้ก่อเหตุได้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายปลอม และมีการแบ่งกำไรเป็นปกติมาตลอด จนถึงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุแจ้งว่าโดน หนึ่งในทีมงานโกง เสียหายประมาณ 24 ล้านบาท



ด้าน นายณัฐปกรณ์ สุดชา ทนายความของผู้เสียหาย กล่าวว่า น.ส.เบญ (นามสมมุติ) ซึ่งกำลังป่วยหนักด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง ต้องรักษาตัว และเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนี่อง แต่ละครั้งต้องพักรักษาตัวนานเป็นเดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลักล้าน จะเดินทางไปไหนต้องนั่งรถเข็น ทำให้น.ส.เบญไม่สามารถประกอบอาชีพหรือทำกิจการอย่างคนปกติได้เต็มที่ และประกอบกับการหว่านล้อมด้วยข้อมูลเท็จชวนเชื่อต่าง ๆ ที่ผู้ก่อเหตุสร้างมาอย่างแนบเนียน ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เช่น ภาพคลิปวีดิโอที่ผู้ก่อเหตุถ่ายกับรถขนส่งบรรทุกน้ำมันพืชยี่ห้อดัง 18 คัน และภาพถ่ายที่ฉากหลังเป็นกล่องน้ำมันพืชจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเงินกำไรที่โอนมาทุกๆ 1-2 สัปดาห์ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ค. 66 และได้โทรมาหลายครั้งชักชวนให้ลงทุนเพิ่มโดยอ้างว่าปีหน้าน้ำมันพืชยี่ห้อดังจะไม่มีโควต้าให้แล้ว จึงทำให้น.ส.เบญ จึงตัดสินใจจำนำทรัพย์สินส่วนตัว ได้แก่ ทองคำ และเงินสด ซึ่งปัจจุบันยังคงต้องรับภาระดอกเบี้ยมากมายที่เกิดขึ้นจากการโดนหลอกให้ลงทุนเพิ่มในครั้งนี้  โดยหวังว่าจะเป็นทางที่จะได้มีเงินเพื่อใช้รักษาชีวิตตัวเองระยะยาว โดยไม่ต้องเป็นภาระของพ่อแม่ วันที่ 30 ก.ค. 66 น.ส.เบญ.ได้โอนเงินลงทุนก้อนสุดท้าย ต่อมาในวันที่ 31 ก.ค. 66 ผู้ก่อเหตุโทรมาบอกว่าถูกลูกน้องโกง และได้โอนเงินกลับมาให้ น.ส.เบญ จำนวนประมาณ 3 แสนบาท หลังจากนั้นได้โอนมาเป็นหลักหมื่น และลดมาเป็นหลักพัน จนหยุดจ่ายในที่สุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 66 มูลค่าความเสียหาย 6.7 ล้านบาท



ต่อมาผู้ก่อเหตุติดต่อมาแจ้งว่าต้องเอาเงินไปปิดผู้ลงทุนรายย่อยก่อน และจะพักจ่ายน.ส.เบญ เมื่อรู้ตัวว่าถูกโกง จึงเกิดความเครียด และโรคประจำตัวกำเริบ จนต้องเข้าพักรักษาตัวที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคทางเดินหายใจ (RCU) และใส่เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลา 4 วัน หลังจากนั้น น.ส.เบญ เกิดความเครียดจนโรคกำเริบจึงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จนไม่สามารถดำเนินการด้านกฎหมายด้วยตัวเองได้ จึงได้มอบอำนาจให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการทางด้านกฎหมายแทน



เมื่อทวงถามเงินคืนจากทางผู้ก่อเหตุ กลับปฏิเสธ และข่มขู่ ส่งรูปปืน รูปนักเลงมาบอกว่าคนพวกนี้พร้อมปกป้อง รวมถึงอ้างว่ารู้จักสนิทสนมกับ พล.ต.ต.นายหนึ่งเป็นรองผบช. ภาค 9 ส่งภาพถ่ายการวีดิโอคอลพูดคุยกับข้าราชการระดับสูงมาให้ดู และบอกว่าหากทางผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับ คดีก็จะเงียบเพราะมีแบล็คดี



นอกจากผู้เสียหาย 2 รายนี้แล้ว สามารถติดต่อเพิ่มได้อีกรายเป็นอดีตผู้จัดการดารา ถูกหลอกลงทุนน้ำมันพืชด้วย สูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาท ตอนนี้ตัวอยู่ต่างประเทศ จะมาแจ้งความภายหลังอีกที



ผู้เสียหายเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้ามาร้อง ปคบ.แล้ว ส่งคดีให้ กก.2 ทำคดี ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับสารและวัตถุอันตราย พนักงานสอบสวนออกปากว่าตนไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำคดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจการลงทุน  โดยปกติคดีลักษณะนี้จะอยู่ในความรับผิดชอบของทางปอศ.  พวกตนกังวลเป็นอย่างมากในความคืบหน้าของคดี กลัวว่าผู้ก่อเหตุที่ไม่ได้ทำแบบนี้เป็นครั้งแรกจะลอยนวล และไปหลอกผู้เสียหายรายอื่นๆ อีก เหมือนที่ผ่านมา



หลังจากนั้นผู้เสียหายพากันเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ที่ชั้น 12 อาคารพิทักษ์สันติ กก.2 บก.ปคบ.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News