รองผู้ว่าฯ สงขลา นำสอบปมนักเรียนนายสิบ เสียชีวิตระหว่างฝึก ยืนยันไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19

รองผู้ว่าฯ สงขลา นำสอบปมนักเรียนนายสิบ เสียชีวิตระหว่างฝึก ยืนยันไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 หรือมีเชื้อระบาด ด้านแพทย์ สงสัยอาจเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ ขณะที่ ผกก. แจงยิบ ยันฝึกตามหลักสูตร ปัดครูฝึกสั่งวิ่ง 10 กม.



นาย นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา และ พ.ต.อ.เชษฐวิทย์ นีระฮิง ผกก.9 บก.กฝ.บช.ตชด. ร่วมกันแถลงข่าวที่ กองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ถึงกรณีที่ ครอบครัวของ นายปกรณ์ หรือ ไบท์ อายุ 26 ปี นักเรียนนายสิบตำรวจ ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของนายปกรณ์ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังเข้ารับการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ว่า จากการตรวจสอบค่ายท่านมุก ที่ได้รับมอบหมายให้ฝึกนักเรียนนายสิบ เป็นการฝึกตามระบบปกติ ไม่ได้ฝึกหนักตามที่เป็นข่าว และสาเหตุที่ต้องส่งตัวรักษาโรงพยาบาลสะเดา ก่อนส่งไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากมีระยะทางใกล้ และส่งต่อผู้่ป่วยตามระบบสาธารณสุข ถูกต้องแล้ว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้สั่งการให้ตนและทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะเกรงว่า จะจะมีเชื้อไข้หวัดใหญ่ ระบาดภายในกองร้อย หน่วยฝึก จึงสั่งให้กักตัวนักเรียนนายสิบตำรวจ พร้อมให้ฝึกเบา ระยะเวลา 14 วัน ตามหลักเกณฑ์ การรักษาโควิด-19



พ.ต.อ.เชษฐวิทย์ นีระฮิง ผกก.9 บก.กฝ.บช.ตชด. ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นักเรียนนายสิบตำรวจ 100 นาย ที่ได้รับจัดสรรให้มาฝึกที่หน่วย ได้เข้ารายงานตัวรับการฝึก จากนั้นวันที่ 2 ตุลาคม เริ่มการฝึกตามแบบฝึกของตำรวจ โดยใช้การฝึกด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และการฝึกของหน่วยฝึก เริ่มแรกให้ปรับสภาพร่างกายทุกนายตามปกติ โดยการเดินชมแนะนำสถานที่ในหน่วย วันที่ 3 ก็มีการเดินและวิ่งสลับกัน ระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร และออกกำลังกายประจำวัน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งวันที่ 10 ตุลาคม ขณะออกกำลังกาย นายปกรณ์ มีอาการไม่สบาย เดินเซออกจากการวิ่ง เพื่อนจึงประคองไปนั่งพักก่อน กระทั่ง 9.00 น. พยาบาลหน่วยฝึก ไปตรวจอาการ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา ก่อนส่งต่อไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตนและหน่วยฝึกได้ลำเลียงศพไปยังวัดสระเกษ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยพบกับครอบครัวนายปกรณ์ พร้อมร่วมรดน้ำศพ สวดพระอภิธรรมศพ และเยียวยาศพเบื้องต้นแล้ว



ส่วนกรณีที่แม่และญาติ นายปกรณ์ มีความสงสัยว่าครูฝึกได้สั่งให้วิ่ง 10 กิโลเมตร จนทำให้นายปกรณ์ เป็นลมหมดสติ ก่อนจะเสียชีวิตนั้น ยืนยันว่า ระบบการฝึกร่างกายก่อนเข้ารับการฝึกอบรบ มีความจำเป็นต้องออกกำลังกาย ทั้งการเดินและวิ่ง ตามระยะที่กำหนดไว้ แต่ตามตารางฝึกจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง มีทั้งการเดิน วิ่ง และบริหารร่างกาย ซึ่งการวิ่งอาจใช้เวลาเล็กน้อย จึงไม่เป็นความจริงที่การฝึกช่วงแรกจะมีการวิ่ง 10 กิโลเมตร แต่หากเป็นระยะหลัง หากร่างกายแต่ละคนอยู่ตัวก็จะฝึกปกติได้



ด้าน นพ.สงกรานต์ เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าว โรงพยาบาลสะเดา ได้รับตัวนายปกรณ์ ประมาณ 8.00 น. โดยตรวจร่างกายพบไข้สูง 40 องศา หมดสติ ไม่รู้สึกตัว แพทย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมซักประวัติ และใส่ท่อช่วยหายใจ ก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ ประมาณ 10.00 น. และนายปกรณ์ เสียชีวิตเวลา 15.10 น. ซึ่งทีมสาธารณสุข ได้เข้าตรวจสอบภายในกองร้อย หน่วยฝึกดังกล่าว เพื่อวางระบบป้องกันเหมือนการป้องกันโควิด-19 เนื่องจาก นายปกรณ์มีไข้สูงกว่า 40 องศา จึงสงสัยเรื่องการติดเชื้อ ทำให้ทีมแพทย์สาธารณสุขอำเภอสะเดา ลงพื้นที่สอบสวนโรค ภายในกองร้อย หน่วยฝึก พบว่า มีนักเรียนนายสิบตำรวจ อีก 30 คน ที่มีอาการดังกล่าว และเป็นกลุ่มเสี่ยงอีก 30 คน และครูฝึกอีก 1 กลุ่ม

ซึ่งทีมแพทย์ก็วางระบบการป้องกันโรคระบาด โดยให้พักการฝึกและให้เฝ้าระวังดูอาการกลุ่มเสี่ยง แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเชื้อโควิด-19 ระบาดภายในกองร้อยแห่งนี้ แต่ทีมแพทย์สงสัยว่าจะเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ต้องรอผลตรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง



ส่วนผลการตรวจเลือดของนายปกรณ์ ที่พบว่าติดเชื้อ ก็ต้องส่งตรวจเพาะเชื้อใช้เวลา 2-3 วัน รวมทั้งยังพบว่ามีอาการฮีทสโตรก ทำให้กระตุ้นให้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่า เกิดจากการมีไข้สูงแล้วไปฝึก




นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา ยืนยันว่า หลังจากค่ายท่านมุก รับนักเรียนนายสิบตำรวจ เข้ารับการฝึก ก็มีการประสานงานกับทางอำเภอสะเดา และฝึกตามหลักสูตร แต่เมื่อมีการเสียชีวิต อำเภอสะเดา ก็ประสานงานกับสาธารณสุข เพื่อหาสาเหตุ เบื้องต้นทางอกเภอก็จะทำความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และ ประชาชนในพื้นที่ และหากอนาคตมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น ก็จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดรถพยาบาล รถกู้ภัย เพื่อรับมือกับเหตุที่จะเกิดขึ้น และรักษาได้ทัฝ