สังคม

พี่สาวเผยนาทีน้องชายถูกกลุ่มฮามาสบุกแคมป์ในอิสราเอล จับซ้อมทรมาน ยังไม่รู้ชะตากรรม วอนช่วยเหลือด่วน

โดย panisa_p

10 ต.ค. 2566

157 views

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 100 บ.หนองเดิ่นพัฒนา ม.23 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางเนตรนภา โฮมสอน อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายเศรษฐา โฮมสอน หรือ ต้อม แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยนางเนตรนภา เปิดเผยว่าตนได้รับแจ้งจากเพื่อนของน้องชายที่พักอยู่ด้วยกันในแคมป์คนงาน ที่อิสราเอล ว่านายต้อม ถูกกลุ่มฮามาส บุกเข้าจับตัวไปพร้อมกับเพื่อนคนงานในแคมป์รวม 5 คน ต่อมามีแรงงาน 3 คน สามารถหลบหนีออกมาได้และมาแจ้งข่าว โดยขณะเกิดเหตุมีแรงงานไทยหนึ่งคนถูกยิงแต่ไม่ทราบว่าเสียชีวิตหรือไม่ ส่วนน้องชายตนและเพื่อนอีกคนถูกจับไปเป็นตัวประกัน

นางเนตรนภา เปิดเผยว่า ตนเป็นพี่สาวคนโต มีน้องชาย 3 คนคือนายเศรษฐา โฮมสอน อายุ 38 ปี นายเจษฎา โฮมสอน อายุ 36 ปี และคนเล็กนายอนุวัตร โฮมสอน อายุ 32 ปี ซึ่งทั้งหมดได้เดินทางไปทำงานที่อิสราเอล โดยคนโตไปก่อน แล้วน้องชายอีก 2 คนค่อยตามไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึงก่อนเกิดการสู้รบในฉนวนกาซ่า ตนยังสามารถติดต่อพูดคุยกับน้องชายได้ทั้ง 3 คน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ทราบข่าวช่วงเย็นวันเกิดเหตุ เพื่อนของน้องชายที่อยู่ในแคมป์ได้วีดิโอวีดีคอลมาบอกว่า คนร้ายกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาที่แคมป์ที่พักคนงาน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 11 คน แต่ถูกกลุ่มคนร้าย จับตัวไป 5 คน ต่อมามีแรงงานไทย 3 คนสามารถหลบหนีรอดออกมาได้และมาเล่าให้ฟังว่า น้องชายตนกับชาว จ.อุดรธานีอีกคน ยังถูกจับตัวอยู่ โดยคนร้ายได้ซ้อมน้องชาย และยังใช้อาวุธมีดกรีดหลังเพื่อนแรงงานอีกคน อย่างเลือดเย็น

หลังเกิดเหตุนายถ่าย โฮมสอน อายุ 56 ปี พ่อและตนพร้อมญาติพี่น้องกว่า 10 คน ได้เข้าไปแจ้งกับศูนย์อำนวยการให้การช่วยเหลือที่แรงงานจังหวัดนครพนมแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบข่าวคราว ใดๆ เลย ทั้งหมดต่างกินไม่ได้นอนไม่หลับเนื่องจากเป็นห่วงนายต้อม และน้องอีกสองคน ที่ต้องมาประสบชะตากรรมในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อเดือนก่อนแม่ของตนได้เสียชีวิตลง แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถกลับมาร่วมงานศพได้เนื่องจากบางคนเพิ่งเดินทางไปทำงานได้เพียงสามเดือน โดยก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา หรือต้อม ได้วีดีโอคอลมาบอกว่าวันที่ 10 ต.ค.66 จะบอกนายจ้างว่าจะขอเดินทางกลับบ้านเพราะหมดหนี้หมดสิ้นแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นมา เสียก่อน โดยนายต้อม มักจะพูดเสมอเมื่อโทรคุยกันว่า อยากกลับบ้านอยากพบลูกสาว ที่ตอนนี้ อายุ ได้ 4 ขวบแล้ว หลังจากที่ต้องออกจากบ้านมาขายแรงงานขณะที่ลูกสาวมีอายุได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น และจนถึงปัจจุบันครอบครัวก็ยังไม่สามารถติดต่อน้องชายได้เลย โดยเพื่อนคนงานที่แคมป์บอกว่า โชคดีที่น้องชายไม่ได้วิ่งหนี ถ้าคนไหนวิ่งหนีก็จะถูกยิงทันที

ขณะที่นางอรวรรณ อุ่นแก้ว อายุ 33 ปี ภรรยานายอนุวัต ซึ่งเป็นน้องชายของนายต้อม ได้วีดีโอคอลมา บอกว่าตนยังสามรถโทรติดต่อพูดคุยกันกับสามีได้เนื่องจากสามีอยู่ไกลจากจุดที่มีการสู้รบกัน โดยสามีบ่นอยากจะกลับบ้านแล้ว แม้จะเพิ่งไปทำงานเมื่อเดือน เม.ย.66 ที่ผ่านมาก็ตาม เนื่องจากเห็นว่าไม่ปลอดภัยแล้วจริง ๆ เงินก็อยากได้แต่ในเมื่อชีวิตไม่มีความปลอดภัย ก็ขอกลับบ้านดีกว่า และขอวิงวอนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งค้นหาและให้การช่วยเหลือส่งแรงงานไทยที่อยากกลับบ้าน ให้สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยทั้งหมดโดยด่วน

คุณอาจสนใจ

Related News