อาชญากรรม

ตร.จับกุมเด็ก 14 กราดยิง เล่านาทีเผชิญหน้า ใช้ยุทธวิธีที่ฝึกมาวัดใจ ให้มอบตัวเอง

โดย panwilai_c

4 ต.ค. 2566

162 views

ทีมข่าวอาชญากรรมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ คือ ผู้กอง ธัญอมร 1 ในตำรวจที่เข้าควบคุมตัวเด็กชายวัย 14 ปี ที่ก่อเหตุ เล่าวินาทีควบคุมตัวบอกว่าเด็กกำลังโทรศัพท์กับตำรวจ 191 บอกว่าเขาจะสู้จนตัวตาย จึงตัดสินใจใช้ยุทธวิธีที่เคยฝึกมาเข้าวัดใจ ก่อนจะสามารถจับได้โดยไม่เกิดความสูญเสีย



นายตำรวจคนนี้ คือ ร้อยตำรวจเอก ธัญอมร หนูนารถ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ปทุมวัน บอกว่า ได้รับแจ้งจากวิทยุว่า มีเหตุยิงกันในสยามพารากอน จึงรีบเดินทางไปทันที เนื่องจากเขาเป็นชุดปฏิบัติการ Active Shooter ของ สน.ปทุมวัน ภารกิจหลัก คือ ทำยังไงก็ได้ที่จะระงับเหตุและหยุดคนร้ายให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย สำหรับอาวุธที่นำติดตัวไปมี 3 อย่าง คือ ปืนสั้น ปืนเล็กยาว และปืนช็อตไฟฟ้า



พอถึงที่เกิดเหตุได้ยินวิทยุแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณโซนใต้ ชั้น 3 จึงแยกไปจุดดังกล่าวร่วมกับตำรวจ สน.สำราญราษฎร์อีก 2 นาย พบว่าเด็กยืนอยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์ ในลักษณะมือหนึ่งถืออาวุธปืน และอีกมือหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์พูดคุยเจรจากับวิทยุผ่านฟ้า ซึ่งทางวิทยุผ่านฟ้าได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้เยาวชนผู้ก่อเหตุวางอาวุธ พอเด็กเห็นตำรวจ ก็พูดว่า "ตอนนี้มากันเยอะมาก มีอาวุธปืน เขาต้องสู้และยอมตาย หากไม่มีทางอื่นที่หนีรอดหรือสู้ไม่ได้ ก็จะฆ่าตัวตาย" สังเกตเห็นเลยว่าเด็กหวาดระแวงมาก ตอนนั้นเขาก็อ่านเกมออกว่า เป็นการวัดใจระหว่างเขาและเด็กที่ก่อเหตุ



ซึ่งตอนนั้นเขาประเมินหน้างานแล้ว เห็นว่าเด็กคนนี้มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนพอสมควร เพราะรู้จักใช้เข็มขัดเส้นนอกในการมารัดเพื่อเก็บแขวนอาวุธปืนและกระสุนปืน รวมทั้งลักษณะการยิง ทำให้เขาแสดงศักยภาพของตนเองให้ผู้ก่อเหตุเห็นว่า "เขาเหนือกว่า" โดยการแสดงอาวุธปืนเล็กยาว เพื่อให้ผู้ก่อเหตุเกรงกลัว ไม่ต่อสู้ และนี่เองทำให้ผู้ก่อเหตุได้ยืนฉุกคิดแป๊ปนึง ก่อนที่จะตัดสินใจเขวี้ยงปืนลงพื้น ผู้กองจึงสั่งให้ผู้ก่อเหตุกลับหลังหัน และชูมือขึ้นไว้เหนือศีรษะ จากนั้นสั่งให้เดินถอยหลังเข้าหาตำรวจ คุกเข่าลง พร้อมกำชับตำรวจอีก 2 นายว่า ค่อย ๆ ย่องเข้าไป เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีปืน หรืออาวุธอื่นหรือไม่



หลังควบคุมสถานการณ์ได้ ตัวของผู้กอง ธัญอมร บอกว่า ตำรวจอีกรายที่เข้าไปพูดคุย ปลอบใจ ด้วยความนิ่มนวล เพื่อแจ้งข้อหาและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่จากการสังเกตของผู้กอง เห็นว่า เด็กผู้ก่อเหตุมีท่าทีนิ่งเฉย เหมือนคนครุ่นคิด ไม่มีอาการคุ้มคลั่งหรือขัดขืน ไม่แม้แต่ร้องขอพบผู้ปกครอง อาจจะด้วยความกลัวเพราะเห็นว่าตำรวจมีอาวุธและจริงจัง แต่ดูแล้วยังมีสติดีเพียงแต่ไม่ค่อยพูด กระทั่งผู้บังคับบัญชาเดินทางมาถึง ก็เป็นอันที่สุดหน้าที่ของเขา



ผู้กอง ธัญอมร ยอมรับว่า ตอนนั้นกดดันอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ห้างที่เปิดโล่ง ซึ่งไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า แต่พยายามปฏิบัติตามขั้นตอนของยุทธวิธีที่ฝึกมา แต่สถานการณ์จริงแตกต่างจากสถานการณ์ที่ได้ฝึกซ้อมมาพอสมควร และอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้



ผู้กอง ธัญอมร บอกว่า ยุทธิวิธีที่เข้าควบคุมสถานการณ์ครั้งนี้ เป็นหลักสูตร Active Shooter อบรมเมื่อ 2 ปีก่อน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่นครราชสีมา ซึ่งยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกฝนระหว่างอบรมจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานด้วยกันสามารถปฏิบัติการได้โดยไม่เกิดความสับสนและสามารถปฏิบัติการได้อย่างเป็นระบบ รวมทั้งสามารถยุติสถานการณ์ไม่ให้เกิดความสูญเสียเลือดเนื้อไปมากกว่านี้ได้

https://youtu.be/eRafxEmCP_E

คุณอาจสนใจ

Related News