กรมศุลฯแถลงปิดคดีประมูลนาฬิกาหรูปลอม จ่อลุยฟ้องตัวแทนลิขสิทธิ์ พร้อมลงโทษตักเตือนจนท.

อธิบดีกรมศุลกากร แถลงปิดคดีประมูลนาฬิการหรูปลอม ระบุเป็นความผิดพลาดของตัวแทนผู้รับอำนาจจากบริษัทลิขสิทธิ์ เตรียมฟ้องแพ่งตัวแทนลิขสิทธิ์เพื่อเรียกค่าเสียหาย ขณะที่ผู้เข้าร่วมประมูลนาฬิกาเชื่อว่าร้านขายนาฬิกาเป็นร้านที่ขายนาฬิกาหรูมาช้านาน ไม่เชื่อจะขายสินค้าปลอม



กรมศุลกากรแถลงชี้แจง การประมูลนาฬิกาหรู 14 เรือนของกรมศุลกากร ที่ตรวจยึดได้จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าย่านสยามสแควร์เมื่อวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา แล้วพบว่า ผู้ประมูลนำไปตรวจสอบ พบว่าเป็นของปลอม จึงนํามาเรียกร้องต่อทางกรมศุลกากร และประสานขอตรวจสอบไปยังบริษัทตัวแทนสิทธิในประเทศไทยอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้าจะนำออกประมูลตัวแทนลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ออกหนังสือยืนยันว่า เป็นของแท้ถูกต้องตามลิขสิทธิ์



นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่าเมื่อถูกร้องเรียนว่าเป็นของปลอม บริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์นาฬิกาในไทยจึงส่งนาฬิกาไปให้ตัวแทนลิขสิทธิ์แม่ในฮ่องกงตรวจ ก็ยืนยันกลับมาว่าเป็น "นาฬิกาปลอม" ทางกรมศุลกากรจึงรับผิดชอบด้วยการคืนเงินเต็มจํานวน และยกเลิกการประมูลในครั้งนี้



ส่วนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่รับผิดชอบโดนลงโทษด้วยการว่ากล่าวตักเตือน และเตรียมฟ้องแพ่งกับบริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์ ซึ่งได้ส่งสํานวนไปยังอัยการแล้ว ในส่วนเจ้าของร้านที่ถูกจับกุมพร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่อ้างว่านาฬิกาแท้นั้น ทางกรมศุลกากรเตรียมประสาน ไปยัง สคบ. เพื่อดําเนินคดีกับเจ้าของร้านเพิ่มอีกหนึ่งคดี



ขณะที่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมประมูลนาฬิกา บอกว่า ตอนแรกจะประมูล6 เรือนมูลค่า20 ล้านบาท แต่ตัดสินใจ 1 เรือนมูลค่า 4 ล้านบาท และไม่ได้นำไปตรวจสอบ แต่มาทราบจากผู้เข้าร่วมประมูลอีกคน ว่าเป็นของปลอม จึงนำไปตรวจสอบพบว่าเป็นของปลอม ถ้านำไปเก็บตู้เซฟและเพิ่งมาทราบทีหลัง ใครจะรับผิดชอบ อีกทั้งร้านที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ไปยึดมาก็เป็นร้านที่เปิดมานาน และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า



ขณะที่มีรายงานว่า ร้านนาฬิกาที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้าตรวจยึดก็ยังเปิดขายตามปกติ เช่นเดียวกับตัวแทนของบริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์ก็ระบุว่ายังเป็นตัวแทนชี้สิทธิ์ตามปกติเช่นกัน