เปิดตำนาน 'ครูกายแก้ว' หลังทำรถติดยาวขณะขนย้าย พบเป็นบรมครูผู้เรืองเวทย์ เสริมโชคลาภ-เงินทอง

ปรากฏการณ์ "ครูกายแก้ว" องค์ใหญ่สุดในไทย หลังทำรถติดยาวขณะขนย้าย ค้นประวัติพบเป็นบรมครูผู้เรืองเวทย์ เชื่อ ช่วยเรื่องโชคลาภ เงินทองและความสำเร็จ

เมื่อวานนี้ มีโซเชียลแห่แชร์ สภาพจราจรติดขัด บริเวณถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ก่อนถึงรัชดาภิเษก 36 รถบรรทุกรูปปั้นขนาดใหญ่ติดคานสะพานลอยคนข้าม ส่งผลให้รถติดท้ายแถวสะสมถึงอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธิน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จราจร สน.พหลโยธิน ได้เข้าเคลียร์ทาง โดยให้รถบรรทุกปล่อยลมยาง เข้าจอดช่องทางซ้ายสุดแล้ว แต่ยังไม่อนุญาตให้เดินทางต่อ ทำให้ท้ายแถวสะสมต่อเนื่องยาวถึงสะพานพระราม 7 กลายเป็นสาเหตุของการจราจรติดขัดอย่างหนัก

ขณะเดียวกันชาวเน็ตต่างโพสต์ รูปรถบรรทุกคันดังกล่าว ปรากฎว่าเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่เป็นองค์สีดำกึ่งคน กึ่งนก ตาแดง เล็บแดง เขี้ยวทอง ลักษณะน่าเกรงขาม ชาวเน็ตต่างก็ช่วยกันหาคำตอบว่ารูปปั้นดังกล่าวชื่ออะไร คือใคร

ภายหลังก็มีผู้ออกมาให้ข้อมูลว่ารูปปั้นดังกล่าวคือ ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์ที่มีร่างกายเป็นกึ่งมนุษย์ กึ่งนกการะเวก เล็บยาว ตาแดงเขี้ยวสีทอง

สำหรับรูปปั้นครูกายแก้ว ถูกเชิญมาประดิษฐานตั้งอยู่ที่บริเวณศิวาลัยสถานแยกรัชดา-ลาดพร้าว โดยจะมีพิธีบวงสรวงวันที่ 13 สิงหาคมนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่

ขณะที่ทีมข่าวสำรวจความคิดเห็นของสายมู หลายคนส่วนใหญ่ บอกไปทำนองเดียวกันว่า ปกติก็จะกลับไหว้ขอพรจากองค์เทพ เช่น พระพิฆเนศ พระแม่ลักษมี หรือ องค์ปู่ฤาษีปาง ต่างๆ แต่ไม่เคยได้ยินชื่อ ครูกายแก้ว มาก่อน ตอนแรกที่เห็นเป็นกระแสในโซเชียล ด้วยรูปร่างลักษณะครูกายแก้วทำให้ดูน่ากลัว น่าเกรงขาม และยังไม่รู้จัก ไม่รู้ประวัติว่าท่านคือใคร มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ตอนนี้จึงยังไม่เคยได้ไปกราบไหว้ แต่ถ้ามีกระแสปากต่อปากว่า ขอแล้วสำเร็จขอแล้วได้ตามที่ปรารถนา

สำหรับประวัติ ครูกายแก้ว" หรือที่หลายๆ คนอาจรู้จักกันในนามของ "พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์" นี้ มีที่มาเท่าที่ปรากฎว่า มากับพระธุดงค์ที่จังหวัดลำปาง จากการที่พระรูปนี้ได้ธุดงค์ไปทำสมาธิที่ปราสาทนครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา และต่อมาก็ได้มอบครูกายแก้วนี้ให้กับลูกศิษย์นั่นก็คือ อาจารย์ถวิล มิลินทจินดา หรือพ่อหวิน นักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหารสมัยก่อน ผู้เป็นอาจารย์ของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้สร้างองค์ปฐมของครูกายแก้วขึ้นในประเทศไทย

ในครั้งแรกที่อาจารย์สุชาติได้รับมอบครูกายแก้วมานั้น องค์ครูมีขนาดเล็ก เป็นลักษณะคนนั่งหน้าตักเพียงแค่ประมาณ 2 นิ้วเท่านั้น และต่อมาครูกายแก้วก็ปรากฎกายให้อาจารย์สุชาติได้เห็น ในตอนนั้นเองอาจารย์สุชาติก็ได้ทำการวาดภาพของครูกายแก้วจากจินตนาการ และทำการหล่อรูปองค์ครูขึ้นเป็นองค์แรก มีลักษณะเป็นองค์ยืน คล้ายคนแก่ นำไปไว้ที่สำนัก จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการบูชาครู

โดยรูปร่างลักษณะขององค์ครูกายแก้วที่อาจารย์สุชาติสร้างขึ้นมานั้น เป็นลักษณะของผู้บำเพ็ญ กึ่งมนุษย์กึ่งนก มีปีกด้านหลัง มีเขี้ยวทองเพื่อสื่อถึงนกการเวก อ้างอิงตามหลักฐานที่ปรากฎอยู่บนกำแพงบายน ที่มีประวัติของการเวกซึ่งเป็นพวกนักดีดสีตีเป่า ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา

ส่วนความเชื่อต่อบรมครูผู้เรืองเวทย์นั้น ครูกายแก้วมีลักษณะคล้ายนกการเวก สัตว์จากป่าหิมพานต์ที่มีเสียงไพเราะ ซึ่งช่วยดึงดูดใจคนที่ได้ยิน ช่วยโน้มน้าวใจในการเจรจาสื่อสาร ด้วยเหตุนี้องค์บรมครูจึงเป็นที่นิยมในหมู่พ่อค้าแม่ขาย เป็นที่เลื่องลือไปจนถึงแดนไกลอย่างจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ในด้านการให้พรในเรื่องความสำเร็จ ความร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองเงินทอง

สำหรับวิธีการไหว้ขอพร การบูชาองค์ครูกายแก้วนั้น เหล่าศิษยานุศิษย์จะ ทำการบูชาครูด้วยธูป 5 ดอก และอาจถวายเครื่องสังเวยร่วมด้วย เช่น ส้ม ของหวาน ช็อกโกแลต หมากพลู เป็นต้น แล้วกราบไหว้องค์ครู หลังจากนั้นจะทำการถวายเงินที่ตู้แก้วของครูกายแก้ว และทำการเคาะ แล้วจึงขอพรบอกกล่าวความปรารถนาแก่องค์ท่าน

ผู้ที่อยากกราบไหว้ขอพรจาก ครูกายแก้ว สามารถไปได้ที่ เทวาลัยพระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง, เทวาลัยพระพิฆเนศบางใหญ่, ศาลพระพิฆเนศ อาเขตเชียงใหม่ และล่าสุด ได้นำรูปปั้นครูกายแก้วมาไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งในย่านรัชดา-ลาดพร้าว


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/HxFV3ZYPacM