ระทึก! หนุ่มคลั่งยา โมโหน้องไม่เตรียมข้าวให้ ทุบบ้าน-จุดไฟเผารถเข็น ซ้ำคว้ามีดไล่ฟัน

หนุ่มคลั่งยา โมโหน้องไม่เตรียมข้าวไว้ให้ ปีนบ้านทุบกระจกจุดไฟเผารถเข็น คว้ามีดไล่ฟันน้อง

คลิปวีดีโอจากกล้องโทรศัพท์มือถือของพลเมืองดีที่ผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์ ขณะที่นายปัญญา หรือ เป็ด อายุ 35 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านแล้วใช้ท่อนไม้ทุบกระจกหวังจะเข้าไปภายในบ้านแต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะลงมาจากหลังคา จุดไฟพยายามเผารถเข็น ขายอาหาร และใชมีดไล่ฟันน้องสาวที่อยู่บ้านตามลำพัง

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น วันนี้ (3 สิงหาคม 2566) เวลาประมาณ 09.30 น. ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยหลังเกิดเหตุ นายปัญญาหนุ่มคลั่งผู้ก่อเหตุ ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปอยู่บริเวณกระท่อมร้างกลางไร่อ้อย ติดกับเชิงเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลหนองบัว ต้องประสานขอกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีเข้ามาช่วยกันจับตัวนายปัญญา

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงกระท่อมร้างหลังดังกล่าว นายปัญญาได้วิ่งหลบหนีพยายามจะเข้าไปซ่อนตัวในป่าเชิงเขาแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไล่ติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ก่อน จากการตรวจค้นบริเวณกระท่อมร้างพบมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตร ซุกซ่อนอยู่ใต้เสื่อที่นายปัญญาปูนอนด้วย สอบถามนายปัญญา ยอมรับว่าเสพยาบ้าเข้าไปจริง โดยก่อนเกิดเหตุ ได้กลับไปที่บ้าน แล้วพบน้องสาวอยู่บ้านตามลำพัง โดยนายปัญญาได้สอบถามน้องสาวว่าได้เตรียมข้าวไว้ให้หรือไม่ เมื่อน้องสาวตอบว่ายังไม่ได้เตรียมจึงเกิดอารมณ์โมโห และก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางสาวภัทราวดี อายุ 17 ปี น้องสาวของนายปัญญา ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ โดยนางสาวภัทราวดี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเองอยู่บ้านตามลำพัง เห็นนายปัญญาเดินกลับเข้ามาที่บ้าน มีอาการคล้ายคนเมายา ก่อนที่นายปัญญาจะถามว่าได้เตรียมข้าวเอาไว้ให้กินหรือไม่ เมื่อตนบอกว่าไม่ได้เตรียมไว้ นายปัญญาก็มีอาการคุ้มคลั่งและปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านใช้ท่อนไม้ตีกระจกหน้าต่าง เพื่อหวังจะเข้าไปในบ้าน แต่ติดลูกกรงเหล็กดัดจึงไม่สามารถเข้าไปได้ ส่วนตนเองวิ่งหนีไปบ้านญาติที่อยู่ใกล้เคียง นายปัญญาพยายามเรียกให้ตนกลับมาเปิดบ้านแต่ตนไม่กล้ากลับมา ทำให้นายปัญญาที่ลงจากหลังคา ได้จุดไฟเผารถเข็นขายอาหารที่จอดอยู่ข้างบ้านและคว้ามีดดาบพยายามจะไล่ฟันตนเอง

ก่อนที่ตนเองจะวิ่งเข้าไปหลบในบ้านญาติ และนายปัญญาวิ่งหนีเข้าไปภายในไร่อ้อยห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร นางสาวภัทราวดียังให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ที่นายปัญญามีพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากเสพยาบ้าเข้าไปมากจนเกิดอาการจิตหลอน ช่วง 5 วันที่ผ่านมา นายปัญญาก่อเหตุ คลุมคลั่งอาละวาดทุกวัน จนตนเองและแม่ทนไม่ไหวได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัวนายปัญญาไปดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว