สังคม

หนุ่มทาสยาใช้อาวุธมีดทำร้ายตำรวจ-โชเฟอร์แท็กซี่ได้รับบาดเจ็บ

โดย gamonthip_s

25 เม.ย. 2567

507 views

วันที่ 25 เม.ย. 2567 พันตำรวจโทประสงค์ อินเสมียน สารวัตร (สอบสวน) สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับว่ามีได้รับบาดเจ็บถูกทำร้าย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกับโชเฟอร์แท็กซี่ จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พบรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ตรวจสอบสภาพรถกระจกประตูข้างขวาตรงคนขับแตกและมีคราบเลือดบริเวณเบาะคนขับ แต่ไม่พบผู้ขับขี่ ห่างไปประมาณประมาณ 500 เมตร พบเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย กำลังควบคุมตัวนาย สมิง อายุ 40 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 7 ตำบลลำดวน อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ นอนอยู่ที่พื้นเอะอะโวยวายคล้ายเหมือนคนหลอนยา ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยการถูกอาวุธปืนยิง บริเวณที่ต้นขาขวาจำนวน 1 นัด



จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลบางจาก เพราะนายสมิงได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดสปาต้าปลายแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนขับรถแท็กซี่จนได้รับบาดเจ็บ จุดเกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย สิบตำรวจตรี อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ (ป) สภ.พระประแดง ได้รับบาดเจ็บถูกมีดแทงเข้าที่ราวนมข้างซ้าย ฝ่ามือทั้งสองข้างมีร่องรอยถลอกและหัวเข่าขวาที่ถูกมีดแทงจนขากางเกงขาดช้ำเป็นรอย และอีกคน นายวีระ อายุ 53 ปี ที่อยู่หมู่ที่ 2 ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ (โชเฟอร์แท็กซี่) ได้รับบาดเจ็บ ถูกอาวุธมีดฟันที่แขนข้างซ้าย และพบรถแท็กซี่ จอดอยู่ข้างทางก่อนเข้าด่านเก็บเงินบางครุ 2 สภาพรถได้รับความเสียหายที่กระจกประตูข้างขวาตรงคนขับแตก




จากนั้นได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าทาง สิบตำรวจตรี ฐิตพัฒน์ อายุ 23 ปี ผบ.หมู่(ป)สภ.พระประแดง กับ สิบตำรวจตรี เอกพล อายุ 24 ปี ผล.หมู่ (ป) สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.พระประแดง ว่ามีเหตุขอความช่วยเหลือ บริเวณจุดเกิดเหตุ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่บริเวณใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก และพบนายสมิง ดูอาการเอะอะโวยวาย จากนั้นจึงเดินเข้าไปสอบถาม เห็นกระจกรถประตูข้างขวาตรงคนขับแตก และมีเลือดหยดตรงบอกคนขับ ตำรวจต้องทำได้จึงสอบถามว่าได้รับบาดเจ็บอะไรมา แต่นายสมิงขึ้นรถ ไปหยิบอาวุธมีดที่ก่อเหตุ ไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนตำรวจต้องวิ่งหนี จนตำรวจล้มลง จึงถูกนายสมิงใช้อาวุธมีดแทงหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ ทางตำรวจจึงยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวน 1 นัด จากนั้นนายสมิง ได้วิ่งหนีไปห่างไปประมาณ 300 เมตร แล้วไปก่อเหตุทำร้ายคนขับแท็กซี่ที่มีผู้โดยสารอยู่ในรถ กำลังเข้าด่านเพื่อจะจ่ายเงิน จนคนขับแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บ ทางตำรวจจึงตามเข้าไปช่วย และบอกให้หยุดแต่ไม่หยุด จึงได้ยิงปืนเพื่อสกัดจำนวน 2 นัด ถูกนายสมิงแทงเข้าที่บริเวณเอวข้างขวา และต้นขาขวาจำนวน 2 นัด จากนั้นตำรวจทั้ง 2 รายจึงขอกำลังเสริมและมาควบคุมตัวไว้ได้



จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตรวจค้นภายในรถ พบบัตรประชาชนชื่อนายวินัย อายุ 32 ปี ที่อยู่หมู่ที่ 10 ตำบลตาคง อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกับผู้ก่อเหตุ มีอาชีพเป็นช่างอู่รถยนต์ แถวซอยบางบอน 5 แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น วันที่ 24 เมษายน 2567 นายสมิงได้ก่อเหตุพยามยามทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานและญาติจนทุกคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด และจากนั้นได้ทุบทำร้ายรถยนต์ที่จอดในอู่เสียหายไป 3-4 คัน แล้วจากนั้นจึงได้ขับรถกระบะออกมาจากอู่และมาจอดเสีย อยู่บริเวณที่จุดเกิดเหตุในพื้นที่ สภ.พระประแดง โดยทางนายวินัย เจ้าของรถ และญาติไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.แสมดำ ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะอาการผู้ก่อเหตุเหมือนหลอนยาเสพติด



ล่าสุดจากการตรวจปัสสาวะพบมีสารเมทกับเฟตามีน (ยาบ้า)ภายในร่างกาย ตำรวจที่จับกุมจึงแจ้งข้อหานายสมิง พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่พยายามชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันควร เสพสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ขณะขับรถ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำของกลางอาวุธมีด ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



จากการสอบถามนายสมิง ผู้ก่อเหตุ อายุ 40 นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและทรมาน ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองได้รับบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง โดยอ้างว่าตนเองป้องกันตัว แล้วบอกว่าตนเองไม่ได้กินเหล้า



จากการสอบถามนายวีระ อายุ 53 ปี อยู่บ้านหมู่ 2 ตำบลระแงง อำเภอคีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ คนขับรถแท็กซี่ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองได้รับบาดเจ็บที่แขนด้านซ้าย โดยถูกมีดฟัน จากชายคลั่ง ซึ่งเขาหนีตำรวจมา ซึ่งตนเองจอดรถติดอยู่หน้าด่านทางด่วน เพื่อที่จะรับบัตร แต่ชายคนดังกล่าวได้วิ่งมาและเคาะกระจก หลังจากนั้นตนเองจึงลดกระจกลง จากนั้นผู้โดยสารเห็นจึงแจ้งกับตนเองว่าพี่ ๆ ให้รีบเอากระจกขึ้นเพราะผู้โดยสารเห็นมีด หลังจากนั้นรีบปิดกระจก แล้วชายคนดังกล่าวได้เอามีดทุบกระจกแตกและสู้กันในรถแท็กซี่ แต่ตนเองพลาดท่าถูกชายคลั่งเอามีดแทงที่แขนข้างซ้าย ได้รับบาดเจ็บ โดยตนเองก็หนีมาฝั่งเบาะคนนั่งแล้วแต่ไม่พ้น ซึ่งเขาได้ฟันหลายทีแต่โดน 1 ครั้ง เหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเองตกใจมาก ยอมรับว่าเสียเปรียบเพราะเขามีมีด และตนเองก็เป็นห่วงผู้โดยสารด้วย



นายบี (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้โดยสารแท็กซี่ เล่าว่า ตนนั่งรถแท็กซี่มาจากบิ๊กซีสำโรงใต้ กำลังจะกลับบ้านที่สุขสวัสดิ์ 66 มาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณใต้ทางด่วนกาญจนา เห็นผู้ก่อเหตุวิ่งมาจากไหนไม่รู้ ซึ่งวิ่งมาทางรถแท็กซี่ และพยายามคุยกับคนขับแท็กซี่ และให้ลดกระจกรถคุยกัน ตนสังเกตเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธ จึงบอกให้แท็กซี่ปิดกระจกรถ พร้อมบอกว่า ผู้ก่อเหตุมีอาวุธมาด้วย และผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้อาวุธฟันเข้ามาที่กระจกรถจนแตก และยื้อยุดอยู่กับคนขับแท็กซี่ ขณะนั้นมีตำรวจมาพอดีจึงได้มีการปะทะกันและตำรวจสามารถจับกุมตัวได้พอดี



สิบตำรวจตรี ฐิตพัฒน์ รวมพลังเอก ผบ.หมู่ (ป) สภ.พระประแดง ตำรวจผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ได้รับแจ้งเหตุจึงรีบไปตรวจสอบเมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็ไปพบชายต้องสงสัยเดินอยู่รอบรถ โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่ารถคันดังกล่าวเป็นของตนเอง แต่รถคันดังกล่าวมีร่องรอยการถูกทุบกระจกและที่เบาะพบรอยเลือด จึงสอบถามผู้ต้องหาว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหน เขาบอกว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกันตนเองยืนห่างเล็กน้อยกับชายคนดังกล่าว ได้คว้ามีดออกมาแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ครั้ง จึงหันหลังและรีบวิ่งหนีเพื่อตั้งหลัก หลังจากนั้นคนร้ายได้วิ่งไล่ตามคว้ามีดแทงอีกรอบ แต่ตนเองพลาดสะดุดล้ม ทำให้คนร้ายนำมีดมาแทงที่ขากางเกง หลังจากนั้นเป็นเหตุให้ตนเองต้องใช้อาวุธปืน เพื่อยิงสกัดไปจำนวน 1 นัด หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ไปก่อเหตุแทงคนขับรถแท็กซี่ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งไล่ติดตาม

คุณอาจสนใจ